คำสอนของขงจื๊อเป็นปรัชญาความคิดสากลที่นิยมกันแพร่หลายไปทั่วโลก เนื่องจากขงจื๊อเป็นนักคิดที่ชาญฉลาด และเป็นนักศึกษาที่มีความกระตือรือร้นชอบแสวงหาความรู้ ขงจื๊อจึงขยายความคำสอนตามวัฒนธรรมจีนที่ได้รับการปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณให้ชัดเจน และยังเพิ่มเติมคำสอนใหม่อีกมากมาย
แนวคิดหลักของขงจื๊อกล่าวว่าบุคคลเป็นรากฐานของความเจริญจึงต้องพัฒนาคนให้มีความรู้เสียก่อน เมื่อสามารถประกอบอาชีพ อบรมให้มีคุณธรรม ปฏิบัติดี ซื่อสัตย์สุจริต เมื่อนั้นสังคมและประเทศก็จะเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ภูมิปัญญาของขงจื๊อต้องอาศัยทั้งความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ความรู้ทำให้เรามีสติ มีปัญญา และมีความรอบคอบในการดำเนินชีวิต ควบคู่กับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริงได้ หลักปรัชญาเพื่อความสำเร็จ ปฏิบัติทางสายกลางของขงจื๊อที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบสามารถอย่างนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างความสำเร็จนั้นมีหลายข้อดังตัวอย่างต่อไปนี้
-
อย่ามัวค้นหาความผิดพลาด จงมองหาหนทางแก้ไข
ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคต หากทำงานบกพร่อง แล้วยังยึดติดอยู่กับความผิดไม่ปล่อยความคิดออกไป ก็มีแต่จะเป็นทุกข์และไม่เกิดประโยชน์อันใด คนเก่งและฉลาดจะเรียนรู้จากความผิดพลาด และมองไปข้างหน้าเพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหา และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีกอย่างไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าใช้ความคิดย่อมสามารถแก้ไขได้
-
อย่าเก็บคำวิจารณ์ของคนอื่นมาใส่ใจ แต่จงรับฟังและใช้พัฒนาตนเอง
คนทั่วไปย่อมพอใจกับคำชื่นชม คงไม่มีใครอยากได้ยินคำวิจารณ์ที่แสดงข้อตำหนิ ความไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเปิดใจยอมรับฟัง คำตำหนินั้นอาจเป็นการติเพื่อก่อ ช่วยเตือนให้รู้ว่ามีความผิดพลาดตรงไหน ต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร คำวิจารณ์อันขมขื่นก็จะกลายเป็นยารักษานำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ช่วยให้คิดใหม่ ทำใหม่ และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้
-
การยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว
อย่าทำตนเป็นชาล้นถ้วย นึกว่าตัวเองรู้มาก ภูมิใจความคิดความเก่งของตนเอง การไม่ฟังผู้อื่นทำให้เสียโอกาสในการรับความรู้ใหม่ๆ การเรียนรู้นั้นไม่สร้างความลำบากหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ใคร ถ้ารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับความไม่รู้ของตนเอง ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา และที่สำคัญควรรับฟังความคิดของผู้อื่นด้วย เพื่อจะได้ศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องที่ยังไม่รู้ ถ้าคิดว่าเรารู้มากแล้ว ก็จะรู้เท่าเดิมอยู่อย่างนั้น คนเราไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา คนที่ประสบความสำเร็จมักจะประเมินมาตรฐานการทำงานของตัวเอง และยกระดับพัฒนาความสามารถอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่าชาวจีนเปิดกว้างทางความคิด ยอมรับความคิดของผู้อื่น ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และระบบการบริการที่ทันสมัย จึงทำให้ชาติเจริญรุ่งเรืองเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
-
เรียนโดยไม่คิดเสียเวลาเรียน คิดโดยไม่เรียนเข้ารกเข้าพง
การเรียนรู้แบบท่องตำรามาพูด แต่คิดไม่เป็นย่อมไม่เกิดประโยชน์ จำเป็นต้องฝึกทักษะความคิด ช่วยให้เกิดความเข้าใจ คิดถูกวิธีมีเหตุผล และคิดดีเป็นผลให้ทำดีและพูดดีด้วย เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน หากถ้าฝึกคิดอย่างเดียวโดยไม่รับข้อมูลก็มักจะคิดเอาเอง หลงออกนอกลู่นอกทาง เสียเวลาไปอีก การเรียนรู้และคิดเป็นจึงต้องสัมพันธ์กัน สามารถนำความรู้ที่เรียนและความคิดของตนมาประยุกต์ร่วมกันในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเหมาะกับสถานการณ์ ถือเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุความสำเร็จและความมั่นคงในระยะยาว
-
ความอดทนคือเพื่อนสนิทของสติปัญญา
ความอดทนอดกลั้นมีพื้นฐานมาจากปัญญาและสมาธิ ต้องมีใจผ่องใส่ ไม่เศร้าหมอง เดือดร้อนหรือเจ็บแค้นใจอันจะก่อทุกข์ให้แก่ตนเอง คนเราแม้กำลังทรัพย์น้อย ความรู้ความสามารถไม่มาก แต่ถ้ามีความอดทนหนักแน่น พยายามฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ไม่ท้อถอย มองอุปสรรคเป็นเป็นเรื่องท้าทายความสามารถ แล้วมุ่งมั่นขจัดอุปสรรคโดยใช้ปัญญาควบคู่กัน วันหนึ่งจะประสบความสุขความสำเร็จในชีวิตได้ เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวยล้วนขยันขันแข็ง ประหยัด มานะอดทน และมีวินัย
-
หนทางเดียวที่จะรักษาภาพพจน์ได้ คือการซื่อสัตย์ตลอดเวลา
คำสอนของขงจื๊อมีหัวใจหลักคือความชอบธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ซึ่งล้วนเป็นหัวใจของธุรกิจหรือการประกอบการงานใดๆก็ตาม ต้องรักษาคำพูดเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียชื่อเสียง ทำงานตามหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เอาใจใส่ลูกค้ามากกว่าสนใจแต่ผลกำไร เมื่อลูกค้าเชื่อมั่นจะส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวเช่นกัน บริการที่ดีและมีความจริงใจเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าให้อยู่กับเราไปนานๆ ที่สำคัญคือเลือกเฟ้นลูกค้าที่ดีมีความซื่อสัตย์เช่นเดียวกัน
-
ยังปรนนิบัติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า
หลักการสำคัญคือความกตัญญูต่อบิดามารดา มีสัมมาคารวะต่อผู้ที่อาวุโสกว่า มีความรักความสามัคคีในครอบครัวและสังคม ทำให้คนจีนยอมรับกันแม้จะมีความเห็นแตกต่าง มีความซื่อสัตย์ จริงใจ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ซึ่งกัลยาณมิตรนั้นนับเป็นทรัพย์ที่เงินทองหาซื้อไม่ได้ เป็นพื้นฐานของความร่วมมือในการทำธุรกิจจนกระทั่งประสบความสำเร็จ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่หยิบยกมาให้ทราบกันเท่านั้น กล่าวได้ว่าปรัชญาขงจื๊อมีอิทธิพลต่อชาวจีนรอบด้าน โดยหลักแล้วจะสอนให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ถ่อมตนไม่โอ้อวด ขยันหมั่นเพียรใฝ่เรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้มีคุณค่าตลอดเวลา คำสอนของขงจื๊อถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและเป็นมาตรฐานอันดีของสังคม เมื่อเรานำคุณธรรมความดีเหล่านี้มาใช้ในการดำเนินชีวิตย่อมมีความเจริญก้าวหน้าและบรรลุถึงความสำเร็จที่พึงประสงค์ได้