หากการใช้บัตรเครดิตไม่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หรือบัตรที่ถืออยู่นั้นไม่มีผลประโยชน์อะไร ก็อาจจะคิดเพื่อไตร่ตรองดูว่าสมควรที่จะยกเลิกบัตรแล้วไปสมัครบัตรใหม่ที่มีผลประโยชน์มากกว่าดีไหม แต่ก่อนจะทำการแจ้งปิดบัตรเครดิต ก็จะต้องแน่ใจก่อนว่าคุณได้ชำระค่าต่างๆ ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งจะทำการปิดบัตรนั้นๆ ได้ หลายคนสงสัยว่าหากมีหนี้ค้าง ปิดบัตรเครดิตได้ไหม
เมื่อมีหนี้ค้าง ปิดบัตรเครดิต ได้หรือไม่
การแจ้งสถาบันการเงินเพื่อขอทำการยกเลิกบัตรเครดิต เจ้าของบัตรจะต้องทำการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของเดือนสุดท้ายและชำระให้ครบถ้วนก่อน จึงจะถือว่าเป็นการปิดบัตรได้อย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มียอดของหนี้บัตรเครดิตคงค้างใดๆ ซึ่งคุณสามารถโทรสอบถามได้ที่คอล เซ็นเตอร์ ของสถาบันการเงินนั้นๆ เพื่อให้ทราบยอดที่แน่ชัดได้ และสะดวกกว่าการที่จะต้องรอรอบบิลถัดไป ซึ่งการตรวจสอบคะแนนสะสมที่คงค้างอยู่ ถือเป็นการรักษาสิทธิที่ผู้ถือบัตรจะต้องได้รับ ก่อนปิดบัตรเครดิต โดยผู้ถือบัตรจะต้องตรวจสอบคะแนนสะสมเพื่อทำการแลกของรางวัลตามเงื่อนไขของคะแนนที่มีอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าการปิดบัตรเครดิตของคุณนั้นสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่
มีหนี้ค้าง ปิดบัตรเครดิตมีเงื่อนไขไดบ้าง
ก่อนทำการปิดบัตรเครดิต และมีความประสงค์ที่จะสมัครบัตรใหม่ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่า ก็ควรทำการศึกษาไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะเมื่อทำการปิดบัตรแล้ว คุณสามารถที่จะเลือกบัตรเครดิตที่ตรงใจได้ โดยจะต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่าคุณต้องการประโยชน์อะไรจากการใช้บัตรเครดิต และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชอบทำกิจกรรมอะไร เอย่างการเดินทาง ก็ควรเลือกบัตรเครดิตที่เป็นรูปแบบสะสมไมล์ จะทำให้ครั้งต่อไปคุณก็ไม่ต้องวุ่นวายไปกับการที่จะต้องปิดบัตรเครดิตอีก
ผลเสียของการเป็นหนี้ค้าง แต่ต้องการปิดบัตรเครดิต
หลายคนที่มีหนี้ค้าง แต่ต้องการปิดบัตรเครดิต ซึ่งที่ผ่านมาไม่จ่ายบัตรเครดิต และเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ยอมจ่ายแม้กระทั่งขั้นต่ำทำให้ ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาของผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตที่ยังไม่มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน แถมยังใช้จ่ายเงินด้วยความฟุ่มเฟือยหรือใช้จ่ายไม่เป็น อาจก่อให้เกิดปัญหาและไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ทันเวลาที่กำหนด ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายตามมา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ หรืค่าปรับจากการผิดเงื่อนไขการชำระ และดอกเบี้ยที่คิดจากยอดค้างชำระ ยังไม่รวมผลเสียจากความเครียดที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น และสุขภาพจิตที่เสียไปเมื่อขาดเงินในการชำระหนี้
เมื่อใช้บัตรเครดิตใหม่ ๆ คงไม่มีใครคิดอยากเป็นหนี้ แต่พอเริ่มใช้สักระยะหนึ่ง รู้สึกว่าตนเองมีกำลังซื้อจากเงินในอนาคตมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่เคยชำระแบบเต็มวงเงิน เริ่มเปลี่ยนเป็นการชำระเพียงบางส่วน หรือขั้นต่ำ ซึ่งหากไม่มีวินัยในการใช้เงินที่ดี จะเริ่มมีการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยจะส่งผลต่อการขอกู้เงิน หรือการขอสินเชื่อในครั้งต่อ ๆ ไป หากในอนาคตหากมีความประสงค์ต้องการซื้อบ้าน หรือรถยนต์ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้สูญเสียโอกาสในการกู้เงิน เพราะการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่าง ๆ จะใช้วิธีดูประวัติการผ่อนชำระผ่านทางระบบข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร หากเป็นผู้ที่มีประวัติการผ่อนชำระไม่ดี หรือมีหนี้ค้าง อาจไม่สามารถกู้เงินได้อีกในครั้งต่อไป ควรรู้จักวิธีบริหารจัดการหนี้ เผื่อไว้สำหรับเวลาที่เดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ
วิธีบริหารจัดการหนี้ค้าง เพื่อปิดบัตรเครดิต
จัดการหนี้ค้าง เพื่อเปิดบัตรเครดิต เริ่มจากหนี้ที่ง่ายที่สุด คือการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีความง่ายและความสะดวกสบาย แต่หากขาดการวางแผนที่ดีก็อาจจะก่อให้เกิดเป็นหนี้สินได้ หนี้บัตรเครดิตถือได้ว่าเป็นหนี้ที่ควรชำระอันดับแรก เพราะมีดอกเบี้ยสูงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรเครดิตจะ เริ่มคิดดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่มีการจ่ายเงินแทนลูกค้าออกไป เมื่อเกิดหนี้ขึ้นมาแล้วต้องใจแข็งและไม่ก่อหนี้เพิ่ม ให้ซื้อเฉพาะสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต อย่างอาหาร ยารักษาโรค ค่าเดินทาง เสื้อผ้าตามความจำเป็น ฯลฯ หากมีหนี้ค้างและต้องการปิดบัตรเครดิต ต้องดูว่าคุณมีหนี้จากบัตรเครดิตกี่ใบ มีหนี้จากค่าใช้จ่ายหรือการผ่อนอย่างอื่นหรือไม่ ลองทำการขอประนอมหนี้เพื่อลดจำนวนยอดที่ต้องจ่ายต่อเดือนลง ซึ่งจะทำให้จ่ายน้อยกว่าขั้นต่ำที่จ่ายอยู่
การจัดการ หนี้ค้าง เพื่อปิดบัตรเครดิต
หลายคนยังมีความเข้าใจผิดในการใช้บัตรเครดิต และขาดวินัยในการใช้เงิน มีคนเป็นหนี้บัตรเครดิตมากมาย เป็นเพราะมันง่ายตอนจ่ายบัตร ที่คุณไม่ได้ควักเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายแต่มันเป็นเงินในอนาคตไม่มีเงินก็ซื้อของได้การใช้จึงควรทำด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญการชำระหนี้ต้องจ่ายเต็มจำนวน บัตรเครดิตมันมีประโยชน์แต่ก็มีโทษมหาศาล ทางที่ดีคือต้องหยุดใช้บัตรเครดิต ทันที เพราะตอนนี้คุณเป็นหนี้อยู่แล้วจ่ายไม่ไหวแน่ หากไปใช้บัตรก็เท่ากับไปกู้เพิ่ม ลองโทรไปอายัด บัตรเครดิต และหันมาซื้อสินค้าด้วยเงินสด ค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นคุณต้องพยายามตัดมันออกไป