ตามกระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/35648238 เจ้าของกระทู้มาตั้งกระทู้เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นหนี้บัตรเครดิตแค่เพียง 85,000 บาท แต่ได้รับหมายยึดทรัพย์จากกรมบังคับคดีว่าจะถูกยึดบ้านราคา 3.2 ล้านบาท เลยไม่เข้าใจว่าไม่มีการโทรมาเจรจาแล้วสามารถเดินเรื่องเพื่อยึดบ้านจากหนี้บัตรเครดิตได้หรือไม่
ต้องขอเท้าความเล่าเรื่องก่อนว่า เจ้าของกระทู้เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบด้วยกัน หนี้รวมกันเป็นเงินหลายล้านบาท เหตุผลก็เพราะทำธุรกิจขาดทุนไปทั้งหมดเป็นเงิน 12 ล้านบาท จึงไม่มีเงินที่จะมาจ่ายหนี้บัตรเครดิต เมื่อผ่อนจ่ายไม่ไหวก็เลยตัดสินใจหยุดจ่าย แล้วมาคิดว่าจะจ่ายทีละใบเพื่อเคลียร์หนี้เป็นใบ ๆ ไป โดยที่บัตรเครดิตของเคทีซีที่มีปัญหากันนี้ เจ้าของกระทู้เลือกที่จะจ่ายเป็นบัตรสุดท้าย เพราะเห็นว่าหนี้น้อยที่สุด คือ 85,000 บาท ส่วนบัตรอื่น ๆ เป็นหนี้หลักแสนบาทสองแสนบาทขึ้นไป ใช้เวลา 3 ปีจึงจ่ายบัตรอื่นหมด
หนี้บัตรเคทีซี 85,000 บาทที่เลือกหยุดจ่ายไปก่อน ก่อนหน้านั้นเคยไปไกล่เกลี่ยที่ศาล ตอนนั้นเจ้าของกระทู้ก็บอกถึงความจำเป็นว่าเป็นหนี้บัตรหลายใบมาก ขอจ่ายทีละใบได้หรือไม่ แต่ทางเคทีซีไม่ตกลง จึงไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี ก็มีหมายมาจากกรมบังคับคดีว่าเคทีซีจะยึดบ้านราคา 3.2 ล้าน เพื่อขายทอดตลาดนำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตที่ค้างอยู่
ที่เจ้าของกระทู้ไม่เข้าใจก็คือการที่เคทีซีหายไป ไม่มีการติดต่อมาเพื่อเจรจาก่อนที่จะยื่นเรื่องไปที่กรมบังคับคดีเพื่อยึดบ้านและที่ไม่เข้าใจอีกเรื่องก็คือทำไมเคทีซีไม่เลือกที่จะอายัดเงินเดือนก่อนเพราะเจ้าของกระทู้ก็ยังทำงานมีเงินเดือนอยู่ ทำไมจึงเลือกที่จะยึดบ้านที่มีราคา3.2 ล้านบาท สูงกว่าหนี้ที่มีมูลค่าเพียงแค่ 85,000 บาท เท่านั้น และที่สำคัญบ้านก็ยังติดผ่อนอยู่กับธนาคารนึง เหลืออีกเป็นล้านกว่าจะผ่อนหมด แบบนี้จะยึดได้หรือไม่ ธนาคารเขาจะยอมหรือ
มีคนเข้ามาให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้ได้กับกรณีหนี้บัตรเครดิตอื่น ๆ จึงขอสรุปไว้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
- เป็นหนี้บัตรเครดิต ยึดบ้านได้หรือไม่ เคยมีศาลพิพากษากรณีแบบนี้ว่าสามารถทำได้ เพราะสัญญาเงินกู้ ก็คือ คนเป็นหนี้ต้องชำระหนี้ตามสัญญา เจ้าหนี้มีสิทธิ์ที่จะยึดอะไรเพื่อใช้หนี้ก่อนก็ได้ ทรัพย์ที่สืบได้ง่ายก็จะโดยยึดก่อน
- ทำไมไม่อายัดเงินเดือน การอายัดเงินเดือนไม่ได้ทำให้ลูกหนี้กลัวหรืออยากจะกลับมาชำระหนี้โดยเร็ว ส่วนใหญ่ธนาคารจึงมักเลือกวิธียึดบ้านเพื่อชำระหนี้ ลูกหนี้ส่วนใหญ่ไม่อยากโดยยึดบ้านก็จะรีบติดต่อเพื่อเจรจากับธนาคารเพื่อหาทางออกในการชำระหนี้ทันที อีกเหตุผลก็เป็นเรื่องที่เมื่อขายบ้านทอดตลาดได้เงินก้อน ธนาคารก็จะได้รับคืนหนี้ทั้งก้อนในครั้งเดียว แต่หากเลือกที่จะอายัดเงินเดือนก็จะต้องค่อย ๆ ทยอยตัดเงินเดือนเพื่อมาใช้หนี้ ธนาคารก็ต้องรออีกนานกว่าลูกหนี้จะใช้หนี้คืนหมด
- บ้านติดจำนองหรือผ่อนยังไม่หมด ยึดได้หรือไม่ ยึดได้แต่ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้กู้บ้านอยู่ก่อนจะถือเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ที่จะมีสิทธ์ได้รับเงินคืนเมื่อขายทอดตลาดได้ก่อน เหลือเงินเท่าไหร่จึงค่อยมาชำระหนี้บัตรเครดิตคืน หากไม่เหลือก็เท่ากับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้บัตรเครดิตไม่ได้เงินค่าหนี้คืน
- ไม่ควรจัดการหนี้บัตรเครดิตด้วยการจ่ายคืนทีละใบ การหยุดจ่ายแม้เพียงขั้นต่ำของบัตรเครดิตใบใดใบหนึ่งเป็นการทำให้หนี้ของบัตรนั้นกลายเป็นหนี้เสียที่ธนาคารจะมีขั้นตอนในการจัดการหนี้เสียตามขั้นตอน หากเจ้าของกระทู้มีความสามารถในการทยอยจ่ายบัตรเครดิตได้อยู่แล้ว ก็ควรเลือกที่จะจ่ายขั้นต่ำของบัตรทุกใบเพื่อไม่ให้เป็นหนี้ที่มีปัญหา ส่วนเงินที่เหลือก็ให้เลือกโปะบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยมากที่สุด หรือบัตรเครดิตที่มียอดหนี้น้อยที่สุดก็ได้จะได้เหลือจำนวนบัตรเครดิตที่จะต้องจัดการน้อยลง
วิธีแก้ปัญหาในเรื่องนี้ที่มีผู้แนะนำให้เจ้าของกระทู้รีบทำ ก็คือ ให้รีบติดต่อธนาคารเพื่อทำการเจรจาขอชำระหนี้ เพราะไหน ๆ เจ้าของกระทู้ก็จ่ายหนี้บัตรเครดิตอื่น ๆ หมดเรียบร้อยแล้ว และก็ยืนยันว่าตัวเองมีความสามารถในการชำระหนี้ก้อนนี้ได้แบบสบาย โดยข้อเสนอแนะที่หลายความเห็นให้ไว้ที่น่าสนใจก็มี
- ให้โทรไปเจรจาเพื่อชำระหนี้บัตรเครดิต หากเลือกที่จะประนอมหนี้โดยจ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียวเลย จะตกลงได้ง่ายกว่า ถ้าตกลงกันได้ธนาคารเจ้าหนี้บัตรเครดิตก็จะไปถอนการยึดบ้านที่กรมบังคับคดี
- ช่วงเจรจาให้บอกธนาคารเจ้าหนี้บัตรเครดิตไปด้วยว่า บ้านของเราติดจำนองอยู่ หากขายก็ต้องคืนหนี้ธนาคารอีกหลายล้าน ไม่แน่ใจว่าจะขายได้ราคาหรือไม่ หากขายไม่ได้ราคาก็อาจจะไม่เหลือหนี้คืนให้กับบัตรเครดิตก็ได้
- เอาหมายของกรมบังคับคดีไปติดต่อที่กรมบังคับคดีโดยตรงเพื่อตรวจสอบมูลหนี้ที่แท้จริง เรื่องยึดบ้าน เราสามารถทำคำร้องคัดค้านการยึดบ้านได้
- หากเจรจาปิดหนี้ได้สำเร็จ อย่าลืมขอจดหมายปิดหนี้เป็นหลักฐานจากธนาคารด้วย