บัตรเครดิตถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้จ่ายที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะการใช้บัตรเพียงใบเดียวสามารถใช้งานแทนเงินสดได้ บัตรเครดิตเป็นตัวแทนเงินสดเพื่อใช้ซื้อสินค้า ท่องเที่ยว รับประทานอาหาร ผู้ใช้บัตรบางคนมีบัตรเครดิตมากกว่า 2 ใบติดตัวเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย แต่หากวันหนึ่งคุณผู้เป็นเจ้าของบัตรเกิดทำบัตรเครดิตหาย เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของบัตรไม่น้อย เพราะอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำเอาบัตรเครดิตไปใช้และคุณเจ้าของบัตรอาจจะต้องเสียเงินไปฟรี ๆ จากการทำบัตรเครดิตหล่นหาย
ลักษณะการสูญหายของบัตรเครดิตนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
- เจ้าของบัตรทำบัตรหล่นหาย
- บัตรเครดิตถูกขโมย ซึ่งกรณีการสูญหายของบัตรเครดิตในรูปแบบนี้ค่อนข้างอันตราย เพราะหากเจ้าของบัตรรู้ตัวช้าวงเงินในบัตรอาจถูกใช้ให้หมดไปด้วยฝีมือของผู้ไม่หวังดีหรือเหล่ามิจฉาชีพ
ซึ่งในบทความนี้มีคำแนะนำมาฝากเกี่ยวกับวิธีการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ถูกขโมยบัตรเครดิตว่าเจ้าของบัตรเครดิตควรจะทำอย่างไร
- เมื่อทราบว่าบัตรเครดิตถูกขโมย ควรตั้งสติเป็นอันดับแรก ขอให้วางใจในเบื้องต้นก่อนว่าทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ และไม่ต้องกลัวมากเกินไป เพราะทุกการกระทำย่อมพิจารณาตามหลักฐานและข้อเท็จจริง การมีสติจะช่วยให้สามารถคิดแก้ปัญหาได้อย่างมีลำดับ
- โทรแจ้ง Call Center ของธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อทำการอายัดบัตรทันที เพื่อให้ธนาคารหยุดทุกธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นจากการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการผ่านบัตร หรือกรณีถอนเงินสด
- ทำการลำดับเหตุการณ์เพื่อคาดคะเนช่วงเวลาที่บัตรถูกขโมย คุณสามารถเข้าขอความร่วมมือกับห้างหรือร้านหรือสถานที่ใด ๆ ที่ถูกคาดเดาว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่ทำบัตรเครดิตหายเพื่อสืบค้นหาตัวหัวขโมย
- เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพื่อทำการลงบันทึกประจำวันและเพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องหัวขโมยต่อไป
- นำหลักฐานการแจ้งความนี้ไปแสดงให้กับทางธนาคาร เพื่อแจ้งให้ทราบว่า บัตรของเราได้หายไป วันและเวลาไหน เพื่อทำบัตรใหม่ แสดงหลักฐานการใช้บัตรเครดิตให้กับทางธนาคารได้ทราบ เพื่อยืนยันว่าระหว่างนั้นเราไม่ได้มีการใช้บัตรเครดิตเลย เช่น นำบิลมาแสดง พร้อมหลักฐานลายเซ็นต์ เพราะหากมีค่าใช้จ่ายที่คุณไม่ได้เป็นผู้ซื้อตัวจริง คุณจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนนั้น
ทั้งหมดนี้ คือ 5 ขั้นตอนที่เมื่อรู้ตัวว่าบัตรเครดิตหายไปต้องรีบดำเนินการทันที เพื่อเป็นการป้องกันการแอบอ้างใช้บัตรเครดิตของคุณและป้องกันสิทธิประโยชน์ของตัวเองจากเหล่ามิจฉาชีพ เนื่องจากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอกับเจ้าของบัตรเครดิต ตัวเอย่างเช่น เจ้าของบัตรทำบัตรหายไปนานแล้วและไม่ทราบว่าตนได้ทำบัตรหาย อยู่มาวันหนึ่งมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตส่งมาที่บ้าน ซึ่งเป็นยอดที่ไม่ได้เกิดจากการใช้งานของตนเอง เพราะระหว่างนั้นเจ้าของบัตรไม่เคยใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตใบนี้เลย เมื่อลองค้นหาดูพบว่าตัวเองนั้นทำบัตรหายไป จากนั้นเขาจึงดำเนินเรื่องแจ้งความและแจ้งกับทางธนาคารทันทีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อทำการอายัดบัตรและยกเลิกบัตรเครดิต เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินที่จะตามมา เมื่อทางธนาคารตรวจสอบจากหลักฐานและจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ธนาคารได้ทำการยกเลิกหนี้ที่เกิดขึ้นนี้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีอีกหลายกรณีตัวอย่างที่ไม่ได้โชคดีขนาดนี้
อ่านเพิ่มเติม >> ทำอย่างไร เมื่อ บัตรเครดิตโดนสวมสิทธิ์ ! <<
ดังนั้น เพื่อเป็นการใช้งานบัตรเครดิตให้ปลอดภัยและป้องกันการใช้บัตรเครดิตโดยผู้อื่นซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายนั้น เจ้าของบัตรควรปฏิบัติดังนี้
- ให้เซ็นลายเซ็นต์กำกับหลังบัตรด้วยปากกาเส้นหนา ๆ เพี่อที่ว่าหากมีการสูญหายเกิดขึ้นและมีคนนำบัตรของเราไปใช้ เมื่อพนักงานผู้รับบัตรเครดิตตรวจเช็คลายเซ็นซึ่งคงไม่เหมือนกัน บัตรจะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะไม่ผ่านการเช็คของพนักงานขาย
- เมื่อใช้งานบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วควรเก็บบัตรเครดิตไว้ที่เดิม ฝึกหัดให้ชินเป็นนิสัย เพื่อป้องกันปัญหาการลืมบัตรไว้ที่ร้านค้า หรือทำหาย
- ควรเก็บบัตรเครดิตให้เป็นที่ โดยควรเก็บบัตรไว้ในกระเป๋าสตางค์และควรเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้กับตัวเองเสมอ ไม่วางกระเป๋าสตางค์ไว้ตามโต๊ะ หรือสถานที่ต่าง ๆ เพราะจะเสี่ยงต่อการสูญหายและการถูกขโมย
วิธีป้องกันไม่ให้บัตรเครดิตสูญหายนั้นเป็นเรื่องง่าย เพียงคุณมีความระมัดระวังในการเก็บบัตรเครดิต โดยเก็บบัตรไว้ในที่เดิมเสมอและทุกครั้งที่หยิบบัตรออกมาใช้ ควรเก็บบัตรทันทีหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ทำให้เป็นนิสัย จะช่วยแก้ไขปัญหาบัตรหายได้ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันบรรดามิจฉาชีพนำบัตรเครดิตของคุณไปใช้
บัตรเครดิตมีประโยชน์เพื่อช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกสบาย สามารถนำเงินไปใช้ก่อนได้ แต่หากคุณไม่สามารถจำกัดวงเงินที่จะใช้และใช้เงินมากเกินกว่าความสามารถที่จะชำระหนี้คืน พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อสถานะทางการเงินมากยิ่งเสียกว่าการโดนมิจฉาชีพขโมยเงินในบัตรเครดิตของคุณ ดังนั้น หากคุณคิดจะใช้บัตรเครดิตควรนึกถึงความสามารถในการจ่าย การใช้บัตรเครดิตเพื่อให้เกิดประโยชน์ควบคู่กับการดูแลบัตรเครดิตไม่ให้สูญหาย ป้องกันบัตรเครดิตไปตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ ตัวการที่จะทำให้คุณปวดหัวกับการซื้อของโดยบัตรเครดิตของคุณโดยที่คุณไม่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เลย