บัตรเครดิต เป็นหนึ่งในบัตรที่คนส่วนใหญ่มีอยู่ในกระเป๋าสตางค์และพกไปด้วยทุกที่ ทำให้คุณไม่ต้องพกเงินสดคราวละมาก ๆ และยังทำให้อุ่นใจในยามที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินอีกด้วย เมื่อบัตรเครดิตเปรียบเหมือนเงินสดที่เรานำไปจับจ่ายใช้สอยได้ ดังนั้น หากทำบัตรหายก็ไม่ต่างจากการทำเงินสดหาย ในกรณีที่กระเป๋าสตางค์หายบัตรสำคัญที่อยู่ในนั้นทั้งหมดย่อมหายไปด้วย หรืออาจนำบัตรเครดิตออกมาใช้แล้วลืมไว้ที่ตู้กดเงินหรือเพียงแค่หาบัตรไม่เจอ เมื่อเกิดความสงสัยว่าบัตรเครดิตหายไป ผู้ถือบัตรไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาด จงตั้งสติและทำตามขั้นตอน ดังนี้
-
ตรวจเช็คให้แน่ใจก่อนว่าบัตรเครดิตหายจริง
อันดับแรกที่ควรทำ คือ ตั้งสติ หาที่เหมาะ ๆ นั่งพักเสียก่อน หากอยู่ในระหว่างการเดินทางให้หยุดรถในที่ปลอดภัย จากนั้นตรวจเช็คในกระเป๋าสตางค์หรือกระเป๋าที่คุณเก็บบัตรเครดิตไว้ประจำ หากไม่พบให้นึกทบทวนถึงครั้งล่าสุดที่หยิบมาใช้ว่านำไปใช้สถานที่ใด ร้านค้าใดบ้าง เพื่อทำการติดต่อขอคืน หากคุณได้พยายามหาทุกวิธีแล้วมั่นใจได้ว่าไม่ได้หลงลืมไว้ที่ใดอย่างแน่นอน แสดงว่าบัตรเครดิตหายไปแล้วจริง ๆ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
-
รีบโทรแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรทันที
เมื่อแน่ใจว่าบัตรเครดิตหายอย่างแน่นอนให้รีบโทรศัพท์ไปแจ้งที่เบอร์ Call center ของธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตและทำการอายัดบัตรให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่เก็บบัตรได้นำไปใช้ในทางมิชอบ จากนั้นให้คุณเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีที่ใกล้ที่สุด ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อที่ว่าหากในช่วงเวลานั้นมีการใช้บัตรเครดิตโดยผู้ที่เก็บบัตรไป คุณจะโต้แย้งได้ว่าไม่ใช่ตัวคุณที่เป็นคนใช้บัตรดังกล่าว
อ่านเพิ่มเติม >> บัตรเครดิตหาย ทำไงต่อ ?! <<
-
กรณีที่บัตรเครดิตหายและถูกนำไปรูดใช้
บางครั้งกว่าที่เจ้าของบัตรจะรู้ตัวว่า บัตรเครดิตถูกสวมรอย ก็เมื่อมีการแจ้งยอดชำระหนี้มาแล้ว เมื่อรู้ตัวแล้วว่าทำบัตรเครดิตหาย ให้รีบดำเนินการอย่างเร็วที่สุด จากนั้นพยายามรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด เช่น
- ใบแจ้งความ หรือบันทึกประจำวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- ใบเสร็จรับเงินบัตรเครดิตที่คุณเคยรูดใช้ครั้งสุดท้าย
- สำเนาถ่ายเอกสารบัตรเครดิตทั้งหน้าและหลัง นี่คือหลักฐานที่ดีเยี่ยมเพราะสามารถนำลายเซ็นหลังบัตรของคุณไปเปรียบเทียบกับลายเซ็นบนใบเสร็จรับเงินที่มีการรูดจ่าย เป็นการแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรในครั้งนั้น
- หลักฐานที่แสดงเวลาว่าขณะที่มีการรูดบัตร คุณอยู่คนละสถานที่ พร้อมมีพยานรู้เห็นหรือยืนยันได้ว่าเขาอยู่กับคุณและคุณไม่ได้อยู่ที่ร้านค้านั้น ๆ ในขณะที่มีการรูดบัตรเครดิต
- ภาพจากกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ในร้านค้าที่มีการรูดใช้บัตร หลักฐานนี้ได้จะช่วยได้มากเพื่อยืนยันว่าผู้ที่นำบัตรไปใช้ไม่ใช่ตัวคุณแน่นอน
-
แสดงหลักฐานและยืนยันความสุจริต
เมื่อรวบรวมหลักฐานแล้วให้เดินทางไปสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเพื่อยื่นเอกสารทั้งหมด (ซึ่งต้องมีการโทรศัพท์แจ้งให้อายัดบัตรเครดิตไปแล้วก่อนหน้านี้) สถาบันการเงินมีหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานที่คุณมีและอาจทำการยกเลิกยอดเงินที่เกิดขึ้นในขณะที่บัตรเครดิตได้หายไป แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าต้องเสียเวลาติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หลายขั้นตอนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายลงได้ เว้นแต่สถาบันการเงินบางแห่งอาจสังเกตความผิดปกติในการใช้บัตร เช่น มีการรูดใช้ที่ต่างประเทศเป็นเงินจำนวนมากในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่อาจโทรมาสอบถามว่าคุณเป็นผู้ใช้เองหรือไม่ หากมีหลักฐานแสดงว่าไม่ได้ไปต่างประเทศ ธนาคารจะทำการอายัดบัตรใบนั้นและคุณไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
หากโชคไม่เข้าข้างในกรณีที่หลักฐานอ่อน ธนาคารจะแจ้งผู้ถือบัตรว่า “ในฐานะผู้ถือบัตรเครดิตคุณย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้” แม้บัตรจะหายและคุณไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตร แต่ธนาคารจะถือว่าประมาทเลินเล่อ คุณต้องยืนยันความสุจริตโดยปฏิเสธการชำระหนี้ที่คุณไม่ได้ก่อ ถ้ายอมจ่ายเท่ากับคุณยอมรับในหนี้นั้น
-
ยอมจ่ายเพื่อรักษาเครดิตหรือเอาให้เรื่องถึงศาล
หลังจากนั้นธนาคารอาจส่งใบชำระหนี้มาเช่นเดิม หากคุณยืนยันจะให้เรื่องถึงศาล เนื่องจากคุณไม่ได้รับความยุติธรรมในความผิดที่ไม่ได้ก่อและหนี้นั้นเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินกว่าจะรับผิดชอบได้ คุณไม่ต้องดำเนินการจ่ายหนี้ใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อธนาคารยื่นฟ้องให้ไปต่อสู้กันตามขั้นตอนของศาล ซึ่งคุณจะชนะคดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่ใช้อ้างอิงจะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด แต่หากหนี้ที่เกิดขึ้นคุณพอจะจ่ายได้ขอแนะนำให้จ่ายไปดีกว่า เพื่อที่คุณจะไม่ติด Blacklist เครดิตบูโร ซึ่งถือเป็นการเสียประวัติทางการเงินที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง หากคุณยื่นขออนุมัติสินเชื่อในโอกาสต่อไปอาจถูกนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเป็นอันดับแรก ๆ และมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้รับการอนุมัติ ควรตัดปัญหาโดยรับชำระหนี้ดังกล่าวแล้วเก็บเรื่องนี้ให้เป็นบทเรียนราคาแพงเพื่อที่คุณจะได้ระมัดระวังเรื่องการเก็บรักษาบัตรมากยิ่งขึ้น
เห็นไหมว่าการทำบัตรเครดิตหายเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คุณคิดเสียอีก ฉะนั้น หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่าลืมทำตามขั้นตอนที่เราได้แนะนำไปแล้ว การใช้ชีวิตทุกย่างก้าวอย่างมีสติจะช่วยลดการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ เริ่มจากการถ่ายเอกสารสำคัญเก็บไว้ล่วงหน้าเมื่อเหตุการณ์บัตรเครดิตหายเกิดขึ้น คุณจะสามารถแก้ไขปัญหาจากหนักเป็นเบาได้ เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเป็นหนี้ก้อนโตแบบไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน