จะหมดปีอีกแล้ว.. กำลังจะขึ้นปีใหม่ อะไรที่แย่ๆ สำหรับปีที่กำลังจะหมดไปก็ให้จบไป หนี้สินต่างๆ ที่มีก็พยายามจ่ายเสียให้หมด แล้วพอเริ่มปีใหม่ก็มาตั้งต้นกันใหม่ คราวนี้เราจะมา วางแผนการใช้บัตรเครดิต ให้เป็น ไม่ให้เป็นหนี้สินที่พอกหางหมูเราอีก
ทำไมเราถึงต้องมาวางแผนการใช้บัตรเครดิต เพราะสมัยนี้บัตรเครดิตใครๆ ก็มีได้ มีได้ง่ายเหลือเกิน แต่เมื่อมีมาแล้วไม่เคยวางแผนการใช้บัตรเครดิต มันเลยกลายมาเป็นหนี้สินที่ใช้ไม่หมดสักที ทีนี้เรามาดูวิธีการใช้บัตรเครดิตที่ไม่ทำให้เราเป็นหนี้สินตลอดชีวิตดีกว่า
ไม่พกบัตรเครดิตหลายๆ ใบ
เริ่มที่เราจะต้องไม่พกบัตรเครดิตหลายๆ ใบ ให้มีติดกระเป๋าอย่างมากที่สุดก็ 1-2 ใบพอ เพราะถ้าเราพกบัตรหลายใบติดกระเป๋า นั่นก็หมายถึงว่าการควบคุมการใช้บัตรเครดิตจะทำได้ยากมากขึ้น ทำให้โอกาสผิดพลาดในการใช้บัตรเครดิตมีมากซึ่งจะส่งผลถึงการมีปัญหาในวินัยทางการเงินของเราได้ เนื่องจากเราอาจจะใช้บัตรเครดิตใบนู่น ใบนี่มั่วกันไปหมด จนจำไม่ได้ว่าใช้ใบไหนไปบ้าง
ไม่มีเงินสด อย่าใช้บัตรเครดิตเด็ดขาด
ถ้าเราไม่มีเงินสด อย่าใช้บัตรเครดิตเด็ดขาด ข้อนี้ดูเหมือนจะสับสนในตัวเองอยู่ เพราะบางคนบอกว่าก็ถ้ามีเงินสดจะใช้บัตรเครดิตทำไมกัน แต่ความหมายของข้อนี้ คือ ทุกครั้งที่เราใช้บัตรเครดิตเราจะต้องแน่ใจว่าเมื่อถึงรอบจ่ายเงินเราจะมีเงินไปจ่ายคืนบัตรเครดิตเต็มจำนวนเงินที่เราใช้บัตรเครดิตไป หรือกรณีที่จะใช้เงื่อนไขของบัตรเครดิตแบบผ่อน 0% 10 เดือน 15 เดือน นั่นถามตัวเองให้ดีว่าเราสามารถจ่ายเงินทุกเดือนได้ตลอดไปถึง 10 เดือนหรือเปล่า และก่อนที่ใช้เงื่อนไข 0% นั่น ลองถามตัวเองอีกครั้งว่าเราเคยออมเงินให้ได้ 10 เดือนเท่ากับจำนวนเงินที่เราจะผ่อนกันบ้างหรือเปล่า ถ้าตอบว่าไม่ลองอดใจแล้วเปลี่ยนจากการใช้บัตรเครดิตแบบ 0% มาเป็นการออมเงินเท่ากับจำนวนเงินก้อนนั้นกันดูดีกว่า
ใช้เท่าไรก็ต้องจ่ายเท่านั้น
อย่าจ่ายขั้นต่ำ หรือพูดอีกทางหนึ่งก็คือ เมื่อใช้บัตรเครดิตไปซื้อของแล้วเราจะต้องจ่ายคืนเต็มจำนวนที่เราใช้บัตรเครดิตไป เพราะนั่นแสดงว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะซื้อของชิ้นนั้น เพียงแต่อยากใช้บัตรเครดิตเพราะอาจจะได้ส่วนลดเพิ่มเติม ได้รับของแจกอะไรทำนองเนี่ย หรือจะเป็นใช้เพื่อสะสมแต้ม ก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน แต่ทุกครั้งเมื่อใช้บัตรเครดิตไปแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อมา คือ เราจะต้องเก็บเงินเท่ากับจำนวนที่เราใช้บัตรเครดิตไป เพื่อจะได้มั่นใจว่าเมื่อถึงกำหนดเวลาแล้วเราจะมีเงินจ่ายคืนอย่างแน่นอน และเพื่อป้องกันการเกิดดอกเบี้ยจากการใช้บัตรเครดิตอีกทางหนึ่งด้วย อย่าลืมว่าเวลาคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้น ธนาคารผู้ออกบัตรจะคิดจากจำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ไป ไม่ใช่คิดจากจำนวนเงินคงเหลือ เช่น ถ้าใช้ไป 15,000 บาท แล้วเราจ่ายแต่ขั้นต่ำเดือนละ 1,500 บาท นั่นเวลาคิดดอกเบี้ย 28% จาก 15,000 บาททุกเดือนจนกว่าเราจะใช้คืนหมด
ชำระคืนเงินค่าบัตรเครดิตให้ตรงเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายคืนแบบเต็มจำนวนหรือจ่ายคืนเพียงบางส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการจะต้องเสียเงินค่าทวงถามเพิ่มในแต่ละเดือน และเพื่อรักษาประวัติการชำระเงินของเราที่ธนาคารเจ้าของบัตรจะต้องส่งให้กับเครดิตบูโรในทุกๆ เดือน เพราะถ้าประวัติการชำระเงินของเราดี ก็จะทำให้วันข้างหน้าหากเราต้องการขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อไปลงทุนหรือจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ก็จะได้ง่ายขึ้น อีกทั้งถ้าเป็นการจ่ายคืนแบบเต็มจำนวนและตรงเวลาด้วยแล้วล่ะก็เป็นการหลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ยที่แพงอยู่ไม่ใช่น้อย
เพราะฉะนั้นเพื่อให้เรามีความสุขจากการใช้บัตรเครดิต คือ เราต้องสร้างนิสัยที่ดีกับตัวเราก่อนว่ามีเงินแล้วค่อยใช้บัตรเครดิต ไม่มีก็คือไม่ใช้ ไม่ซื้อ และบอกตัวเองทุกครั้งจะซื้ออะไรก็แล้วแต่ต้องมีเงินก่อนเท่านั้น เมื่อมีเงินแล้วจะซื้อด้วยบัตรเครดิต หรือซื้อด้วยเงินสด ก็ไม่มีใครว่าอะไร ทั้งนี้ก็เพื่อให้เรามีความสุขจากการซื้อของแทนการสร้างปัญหาจากการซื้อของ
อ่านเพิ่มเติม >> ใช้บัตรเครดิต อย่างไรไม่ให้หนี้พอกพูน <<
วางแผนใช้ บัตรเครดิต ให้ดีขึ้น ต้องใช้บัตร ซิตี้แบงก์ แคชแบ็ก แพลตินัม รูดเท่าไหร่ ได้คืน 1% สมัครเลย!