ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา บางครั้งอาจจะต้องเจอกับปัญหาเงินเหลือน้อยกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าเป็นช่วงต้นเดือน แล้วเผลอใช้เงินจนเหลือน้อยตั้งแต่ต้นเดือนน่ะจะเป็นอะไรที่เลวร้ายสุด ๆ แล้ว เพราะมองไปข้างหน้าก็ได้แต่คิดว่าจะอยู่อย่างไร ทั้งค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและอื่น ๆ อีกจิปาถะ
ก่อนอื่น ขอแทนค่าเงินเป็น X บาทเสียก่อนแล้วกัน เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนแต่ละคน ย่อมประสบปัญหาเงินเหลือน้อยในจำนวนที่ไม่เท่ากัน บางคนเหลือ 1,500 บางคนเหลือ 1,000 แต่บางคนที่หนักหน่อย เงินเหลืออยู่แค่ 500 ตั้งแต่ต้นเดือนก็มี ดังนั้นเราจะไม่เจาะจงลงไป ว่าถ้าเงินเหลือกี่บาทจะอยู่ได้ในหนึ่งเดือนอย่างไร ขอแทนค่าเป็น X แทน
คราวนี้ เราจะมาเข้าเรื่องที่ตั้งเป็นหัวข้อไว้กัน ต้องบอกก่อนว่าเงินเดือนที่เหลือต่างกัน ย่อมทำให้การใช้ชีวิตมีความลำบากต่างกันด้วย ผู้ที่มีเงินเหลือมาก ย่อมมีความลำบากในการใช้ชีวิตน้อยกว่าผู้ที่มีเงินเดือนเหลือน้อย ซึ่งจำนวนเงินที่น้อยที่สุด ที่มนุษย์เงินเดือนผู้นั้นมีเหลืออยู่ แล้วยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากต้องอยู่ที่ 700 บาทขึ้นไป (ในกรณีที่อยู่บ้านตัวเอง) หรือไม่ก็ต้อง 1,000 บาทขึ้นไป (ในกรณีที่ต้องเช่าห้องพัก ดำรงชีวิตอยู่ด้วยตนเอง) หากเหลือน้อยกว่าจำนวนทั้ง 2 นี้ การดำรงชีวิตจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้เลย ดังเช่นเรื่องในกระทู้ที่ผู้เขียนจะขอยกมาต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกระทู้ที่เขียนขึ้นในเว็บไซต์ Pantip.com โดยผู้ใช้ชื่อว่า กบกินกะลา
เจ้าของกระทู้ได้ตั้งชื่อกระทู้ว่า “ผมมีอะไรเล่าให้ฟังกับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้” เรื่องราวในกระทู้นั้นมีอยู่ว่า เมื่อสองปีก่อน เจ้าของกระทู้กำลังประสบปัญหาตกงานอยู่ที่ต่างจังหวัด ค้างค่าเช่าห้อง แม้กระทั่งงานที่มีเงินเดือนต่ำอยู่ที่ 1,000 บาทต้น ๆ ก็ยังหาไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจมาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยปล่อยให้ลูกเมียอยู่ต่างจังหวัดไปพลาง ๆ ก่อน เงินที่เขานำติดตัวมาในตอนแรกอยู่ที่ 2,000 บาท ทว่า มันกลับต้องถูกใช้จ่ายไปในการเดินทาง รวมถึงช่วงเวลาระหว่างออกหางานและหาที่พักอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ในช่วงต้นของเดือน เขาเหลือเงินติดตัวอยู่เพียง 800 บาทเท่านั้น
ถึงแม้เจ้าของกระทู้จะมีเงินเหลือติดตัวอยู่เพียง 800 บาท ตั้งแต่ต้นเดือน แต่เขาก็ไม่สิ้นหวังในการใช้ชีวิต เขาเริ่มต้นการดำรงชีวิตด้วยเงินที่เหลืออยู่เพียงเท่านั้น เริ่มจากการเดินทาง เจ้าของกระทู้จะโดยสารรถเมล์ฟรีหรือมิฉะนั้นก็ใช้วิธีเดินไปที่ทำงาน เนื่องจากที่ทำงานของเขาอยู่ห่างจากที่พักเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนเรื่องอาหารการกิน เขาใช้เงินเพียง 25 บาท สำหรับการกินในแต่ละวัน อาหารในแต่ละวันก็มักจะเป็นปลากระป๋องกับข้าวเปล่า หรือบางครั้งก็เปลี่ยนเป็นข้าวไข่เจียว ข้าวเหนียวหมูย่างบ้าง โดยไม่เคยกินเกิน 25 บาทต่อวันเลย ส่วนน้ำใช้วิธีกรอกจากตู้ครั้งละ 1 บาท กลางวันไม่กินข้าว ใช้กินน้ำเอา ส่วนการโทรศัพท์เขาใช้โทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน ช่วงเวลานั้นเครือข่ายมือถือที่เขาใช้บริการอยู่มีบริการให้ยืมเงินค่าโทร 30 บาท เจ้าของกระทู้กดยืม แล้วใช้เงินจำนวนนั้นโทรหาภรรยาตลอดทั้งเดือน โดยการโทรวันเว้นวัน วันละ 2-3 นาที ไม่มากกว่านี้ ส่วนถ้าวันไหนอยากจะคุยนาน ๆ ก็ให้ภรรยาสมัครโปร 9 บาท โทรฟรี 2 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า แล้วค่อยให้ภรรยาเป็นฝ่ายโทรมาหาตน
นอกจากนี้ เจ้าของกระทู้ยังหาโอกาสเดินทางไปเยี่ยมลูกเมียที่ต่างจังหวัด ด้วยการโดยสารรถไฟฟรี ก่อนจะขอยืมจักรยานของเจ้าหน้าที่รถไฟเพื่อขี่ไฟหาภรรยาเป็นอย่างนี้ทุกสัปดาห์
เจ้าของกระทู้ใช้ชีวิตดังนี้ทั้งเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ด้วยเงินเพียง 800 บาท วันสุดท้ายก่อนเงินเดือนออก เขามีเงินติดตัวอยู่เพียง 50 บาท จนในที่สุดเงินเดือนของเขาก็ออกมาจนได้ นับว่าเจ้าของกระทู้สามารถผ่านช่วงเวลาที่เงินเหลืออยู่น้อยในช่วงต้นเดือนไปได้อย่างสวยงาม
จากเรื่องราวในกระทู้นี้ ผู้อ่านคงพอจะเห็นแล้วว่า เงินคือสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตในแต่ละวันจริง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีเงินเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนเสมอ หากว่ามีเงินเหลือน้อย การใช้ชีวิตย่อมเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถดำรงชีวิตได้เลยหากปราศจากเงิน เพียงแต่เราอาจจะต้องลดคุณภาพการใช้ชีวิตลงมาสักหน่อย อย่างการเปลี่ยนมานั่งรถเมล์ แทนที่จะใช้แท็กซี่ หรือเปลี่ยนมารับประทานอาหารข้างทางถูก ๆ แทนที่จะรับประทานในร้านหรูติดแอร์ เป็นต้น แต่ก็อย่าให้เป็นไปในลักษณะอดอยากจนเกินไปนัก ขอให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างพอดี ๆ กินอาหารที่เราคิดว่าอิ่มท้อง แต่มีราคาที่พอจ่ายจะดีกว่า
แต่เหนือสิ่งอื่นใด แม้จะบอกว่ามีเงินน้อยแล้วจะดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่เราก็ไม่ควรประมาทขอให้มนุษย์เงินเดือนทุกคน จงวางแผนทางการเงินในแต่ละเดือนให้ดีว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วคิดเผื่อค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ด้วย อย่ากินเพลิน เที่ยวเพลิน ช้อปเพลิน เพราะท่านอาจจะต้องประสบกับปัญหาเงินหมดตั้งแต่ต้นเดือน จนต้องมานั่นกระเบียดกระเสียร ประหยัดเงินอย่างวุ่นวายในช่วงปลายเดือน ดีไม่ดี อาจเป็นการดึงให้คนรอบข้างต้องมาลำบากไปกับเราด้วยก็ได้