การ เป็นหนี้ ถือเป็นเรื่องปกติและธรรมดามากโดยเฉพาะกับโลกของเราที่มีแรงเหวี่ยงของระบบทุนนิยมเป็นตัวขับเคลื่อน ขอเพียงตระหนักรู้ว่าหนี้นั้น ๆ อยู่ในเงื่อนไขที่เราจัดการได้ แม้จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้างเพราะมีหนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะหากเรามุ่งมั่นที่จะปลดหนี้แล้วย่อมทำได้ไม่ยากเย็น
ถ้ามีการแยกหนี้ตามความรู้สึกของลูกหนี้ หนี้นั้นอาจมี 2 ประเภท คือ
- หนี้ที่ก่อให้เกิดความสุข
- หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดความสุข
อาจสงสัยอย่างไรหนี้ถึงก่อให้เกิดสุขได้ เช่น การกู้เงินซื้อบ้าน เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดความภูมิใจ เป็นเหมือนหลักประกันอนาคต คนหลายคนยินยอมพร้อมใจอยากเป็นหนี้ถึงแม้จะต้องจ่ายหนี้อีก 30 ปีก็ตาม แต่ถ้าเป็นหนี้ที่เกิดจากความจำเป็นฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือเหตุผลจำเป็นอื่น ๆ อาจไม่ทำให้เป็นสุข แต่ไม่ว่าจะเป็นหนี้ประเภทใด อย่าลืมว่า หากหนี้นั้นไม่ได้ถูกจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะนำมาซึ่งความทุกข์ได้ ทุกข์มากทุกข์น้อยขึ้นกับก้อนหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละบุคคล
อ่านเพิ่มเติม >> บริหารหนี้ อย่างไรช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้ ? <<
แต่มีมูลเหตุการณ์เกิดหนี้อีกประเภทหนึ่งที่จำเป็นต้องกล่าวถึง และผู้ก่อหนี้เองต้องตระหนักรู้ให้มาก คือหนี้ที่เกิดจากการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ของนั้น ๆ อย่างเช่น ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ นาฬิกาและอื่น ๆ อีกจิปาถะ การเกิดหนี้จากการซื้อสินค้าประเภทนี้มาในรูปของเงินผ่อน ที่ดูยังไงก็คุ้มแสนคุ้ม แต่ถ้าขาดการจัดการและความมีระเบียบทางการเงินที่ดี อาจเกิดทุกข์มหันต์ได้
ตัวอย่างเช่น นางสาวพลอยซื้อเครื่องสำอางลดราคาที่มีแคมเปญผ่อน 0% 4 เดือนในเดือนมกราคม เดือนต่อมาซื้ อเครื่องซักผ้าผ่อนอีก 6 เดือน ต่อมาอีกเดือนผ่อนมือถือรุ่นใหม่ เดือนที่สี่ซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ ไปเที่ยวเสร็จซื้อของมาเพียบรูดการ์ดไปพอสมควร ถ้านางสาวพลอยเป็นพนักงานระดับปฏิบัติการเงินเดือนสองหมื่นต้น ๆ เมื่อเข้าเดือนที่ห้านางสาวพลอยกำลังลำบากแล้ว เมื่อไม่มีเงินสด ก็ต้องใช้บัตรเครดิต เพิ่มยอดหนี้อนาคตเข้าไปเรื่อย ๆ กดเงินสดจากบัตรสินเชื่อเงินสด นางสาวพลอยรู้อยู่เต็มอกว่ากดเงินสดต้องเสียดอกเบ็ดเสร็จเกือบ 28% แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องยอมจำนน
จากตัวอย่างนี้จะสังเกตเห็นได้ว่า มูลค่าหนี้ไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของนางสาวพลอย (ซึ่งก็ไม่ได้สูงมาก) แต่ด้วยความไม่มีระเบียบทางการเงินประกอบกับไม่มีการจัดการหนี้ที่ดี ทำให้นางสาวพลอยเสียซ้ำเสียซ้อนหลายต่อ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาในการปลดหนี้ไม่นานนัก แต่ก็ก่อเกิดความทุกข์ได้ไม่น้อยเลย ที่น่าแปลกคือเมื่อใช้หนี้ก้อนนี้หมด วงจรอุบาทว์เหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอีกซ้ำ ๆ สามารถพูดได้เต็มปากว่านางสาวพลอยแพ้โลกแห่งทุนนิยมอย่างราบคาบ
ไม่ว่าจะเป็นหนี้ประเภทใด มูลเหตุการณ์เกิดหนี้เป็นแบบไหน ทุกคนสามารถอยู่และใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้ สุขในที่นี้หมายถึงสุขใจ แล้วจะเป็นสุขได้อย่างไร มีหนี้ก็ต้องมีทุกข์สิถึงจะถูก ใคร ๆ ก็พูดกันว่าการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ แต่หากคนเป็นหนี้ทุกคนมีทัศนคติแบบนี้อาจต้องเป็นทุกข์ไปตลอด การมีหนี้และมีสุขไปพร้อมกันนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ “หนี้นั้น ๆ ได้ถูกการจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว”
การจัดการหนี้ที่เหมาะสมคืออะไร
ก็คือการได้วางแผนการชำระหนี้ที่ถูกต้องเหมาะสม หากมีปัญหาการผ่อนชำระ ก็ให้รีบเข้าเจรจากับเจ้าหนี้ ทั้งนี้การจัดการที่ดีควรครอบคลุมถึงการวางแผนการเงินเพื่อรองรับสิ่งที่อาจจะเกิดในอนาคตด้วย เคยเห็นหลายครอบครัว คู่สามีภรรยาขยันทำงานเก็บเงินเพื่อได้เงินดาวน์บ้านสักก้อน พอได้บ้านแล้วไม่กล้ามีลูกทั้ง ๆ ที่อยากมี ความสามารถในการชำระหนี้ก็มีแล้ว การจัดการหนี้ก็ดีแล้ว แต่กลัวกังวลไปเสียทุกเรื่อง พอวันหลังคิดจะมีลูกก็มีไม่ได้แล้วอายุเกิน ตัวอย่างนี้อาจทำให้รูปแบบและแผนการดำเนินชีวิตผิดพลาดไปทั้งชีวิต และที่สำคัญเพียงการปรับทัศนคติ หรือเปลี่ยนมุมมองเรื่องหนี้ให้ถูกต้องก็ไม่ทำให้เกิดปัญหานี้ได้
การจะใช้ชีวิตให้มีสุขถึงแม้จะมีภาวะหนี้รุมเร้า
หากหนี้ที่มีไม่ได้เกิดจากหนี้ที่สร้างความสุขอย่างหนี้บ้าน แต่ยังมีหนี้ก้อนใหญ่ เช่น หนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดทางธุรกิจ เข้าข่ายหนี้สินล้นพ้นตัว จำเป็นต้องมีวินัยอย่างมาก และอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญช่วยหาวิธีจัดการให้เหมาะสมได้ อาจต้องมีการ Re-Finance หรือปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หาหนี้ดอกเบี้ยถูกไปจ่ายหนี้ดอกเบี้ยแพง เจรจาต่อรองหนี้ และไม่สร้างหนี้ใหม่อีกจนเกินกำลัง หลายอย่างในการดำรงชีวิตของลูกหนี้อาจจะต้องเปลี่ยนไป เช่น อาหารการกิน การเดินทาง การพักผ่อนท่องเที่ยว อาจไม่ดีหรือไม่มีเลยเหมือน แต่ก่อน การยอมรับและมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นที่ลูกหนี้จะต้องรับให้ได้ ถ้าถึงวันหนึ่งอาจต้องหาแหล่งรายได้เสริม ก็จะสามารถทำได้ด้วยความสุขและความหวัง
อ่านเพิ่มเติม >> มีความสุขได้หากเป็นหนี้ <<
เกิดเป็นมนุษย์มีหนี้เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่มนุษย์หนี้ทุกคนมีทัศนคติที่ถูกต้องกับการใช้เงินและการมีหนี้ เมื่อรู้จักและเข้าใจมันแล้ว และหาทางจัดการมันได้อย่างถูกต้องแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป ที่เหลือคือการปล่อยให้เป็นไปตามกลไกที่เราออกแบบ เวลาเดินไป เงินก็เดินทางของมัน เป็นเรื่องของตัวเลขระหว่างเงินและเวลาซึ่งตายตัวและคำนวณได้ ถ้าฟ้าไม่ได้ลิขิตให้เราถูกลอตเตอรี่เอาเงินมาล้างหนี้ให้หมด การเดินตามแนวทางการชำระหนี้ตามเงื่อนไขของตัวเลขสองตัวนี้ ย่อมเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะเลือกเดินแบบสุข หรือทุกข์นั้น ก็อยู่ที่มุมมองของมนุษย์หนี้ล้วน ๆ