มีใครบ้างที่ไม่รู้จักคำว่าเป็นหนี้ เชื่อว่าน้อยเลยล่ะ เพราะการเป็นหนี้ที่หลายคนอาจจะเป็นหนี้แบบตั้งใจไม่ได้ตั้งใจ หนี้เพื่อน หนี้บัตรเครดิต หนี้ญาติพี่น้อง แม้แต่หนี้นอกระบบ เรียกว่าเป็นหนี้มันทุกระบบเลยว่างั้น อย่างมนุษย์เงินเดือน แม้จะมีเดือนประจำ มีรายได้ประจำ แต่ก็ต้องมีรายจ่ายหลายอย่างๆ ซึ่งหากรู้จักวางแผนการ ก็อาจทำให้มนุษย์เงินเดือน มีเงินเก็บขึ้นมาบ้าง แต่หากได้เงินเดือนออกปุ๊บแล้วนำไปซื้อของโน่น นี่ นั่น เรียกว่าใช้จ่ายจนเกินงบประมาณ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ใช้บัตรเครดิต ที่นอกจากจะต้องหาค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว จะต้องหาเงินมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย บางคนถึงกับต้องเป็นหนี้เป็นสิน และชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้ต้องหมุนเงินเป็นว่าเล่น
มีวิธีแก้ปัญหาหนี้สินอีกมากมาย แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่ทำให้คุณกลาย เป็นหนี้ท่วมหัว ได้แบบไม่รู้ตัวเช่นกัน บทความนี้ไม่ได้สนับสนุนให้คุณเป็นหนี้ แต่เป็นการเตือนสติและทำให้เห็นว่า หนี้ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดนั้นมาจากไหน จะได้หาทางตั้งรับและป้องกันไม่ให้ตัวเองก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีก
โอนหนี้แล้วยังทำนิสัยเดิม
ฟังแล้วดูดีเหมือนเป็นการถ่ายโอนหนี้เก่า เพื่อให้กลุ่มสถาบันการเงินรับใช้หนี้เก่าให้คุณ ปิดบัตรเครดิตหรือใช้หนี้บัตรเครดิตให้คุณ ซึ่งจะได้มาผ่อนจ่ายชำระต่อเจ้าหนี้ใหม่ ที่อาจจะจ่ายไม่หนักมากกว่าเดิม ซึ่งหากศึกษาข้อมูลดีๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดี และหากคุณไม่มีลู่ทางอื่น ก็อาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดี และเหมือนจะเป็นวิธีที่ถูก แต่รู้ไหมว่านั่นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้ทำการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งการจ่ายหนี้แต่ละครั้งกับเจ้าหนี้ใหม่ อาจจะถูกจริง แต่เมื่อดูระยะเวลาแล้ว อาจจะยาวนานกว่าที่เดิม แถมทบต้นทบดอกแล้ว ดอกเบี้ยอาจจะเยอะกว่าเงินต้นที่กู้หรือกดมาอีกก็ได้ แถมบางแห่งมีวงเงินให้ใช้ได้ มากขึ้น ยิ่งทำให้คุณมือขึ้นและกลายเป็นหนี้หนกักว่าเดิม แต่ทั้งนี้ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็จะต้องดูด้วยว่า คุณมีปัญญาที่จะส่งในแต่ละเดือนได้หรือไม่
วิธีแก้ไขเรื่องการเป็นหนี้บัตรเครดิต หากคุณไม่มีวินัยในการใช้เงิน หรือยับยั้งใจตัวเองไว้ไม่ได้ในการที่จะรูดบัตร แนะนำว่าอย่า พยายามจ่ายหนี้ก้อนนี้ให้มากขึ้น คือเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็ควรจะงดการใช้ไปก่อน โดยจะต้องจ่ายหนี้เก่าให้หมดก่อน และเป็นไปได้ไม่ต้องใช้เลยจะดีกว่า ซึ่งระหว่างที่หาเงินมาจ่ายค่าหนี้อื่นๆ รวมถึงหนี้บัตรฯ อาจจะ หางานพิเศษทำเพิ่ม และพยายามจ่ายทุกอย่างให้เป็นเงินสด
ไม่ตั้งงบประมาณในการจ่าย
หลายคนที่รู้จักวางแผนเรื่องการเงิน มักจะประสบความสำเร็จในการออม บางคนเกลียดคำนี้ขึ้นสมอง และมักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีแผนการใช้เงิน ซึ่งหากว่าคุณทำได้ คุณจะรู้ว่ารายจ่ายไหนที่คุณไม่ควรจะจ่ายออกไปเลยจริง ๆ การทำบัญชีรายรับรายจ่าย หรือจดรายการทุกครั้งที่ซื้อของเข้าบ้าน รวมถึงการกินอยู่ ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน จะทำให้คุณรู้ว่า เงินแต่ละบาทที่เสียไปนั้น มีอะไรที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์บ้าง วิธีแก้ไขคือ พยายามหาทางอุดรอยรั่วของกระเป๋าเงินคุณให้ได้ และทำการบันทึกการใช้จ่าย การแบ่งเงินใช้จ่ายในแต่ละอาทิตย์ หรือเริ่มแบ่งตั้งแต่ต้นเดือน แล้วพยายามใช้ให้พอ ซึ่งหากเริ่มทำทีละนิด แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณทำนั้นไม่ยากเกินไปและจะทำให้คุณมีเงินเหลือเพื่อที่จะเก็บออมได้มากขึ้น
ไม่เตรียมตัวสำหรับอนาคตหรือรายจ่ายฉุกเฉิน
ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เพราะหากคุณไม่มีเงินเก็บ เงินออมเลย หากวันหนึ่ง คุณอาจจะป่วยหนัก หรือเกิดอุบัติเหตุ ตกงาน ฯลฯ ถ้าเกิดขึ้นจริง แล้วคุณไม่ได้มีการเตรียมตัวไว้ หรือมีเงินติดกระเป๋าเพียงไม่กี่บาท ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินมา อาจจะทำให้คุณและคนที่บ้านเคว้ง และวิ่งเต้นหาเงินกันมากมายกลายเป็นหนี้สินแบบไม่ทันตั้งตัว เผลอๆ หากไม่มีเงินหรือเครดิตดีพอ การรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลดีๆ อาจจะถูกการมองข้าม วิธีแก้ปัญหาที่อาจจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ซึ่งควรจะต้องเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คุณควรมีเงินเตรียมไว้ประมาณ 3 ถึง 6 เท่า ของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หมั่นเช็คว่าประกันสุขภาพ ประกันรถ ประกันชีวิตของคุณ ว่าหมดอายุไปหรือยัง เพราะการเตรียมตัวและเตรียมตั้งรับทุกอย่างจะทำให้คุณมั่นใจว่าจะมีเงินสำรองจ่ายได้อย่างไม่ต้องกังวล
อ่านเพิ่มเติม >> 3 สัญญาณเตือนอนาคต ไม่มีเงินเก็บ <<
ภาระค่าใช้จ่ายกับการจ่ายบิลที่มักจะคิดเป็นเรื่องสุดท้าย
เรื่องช้อปปิ้งอาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสาวๆ หลายๆ คน เพราะถึงสิ้นเดือนทีไร แทนที่จะเอาเงินมาหักรายจ่ายหรือ จ่ายหนี้ต่างๆก่อน ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือบิลต่างๆ ที่เรียกเก็บ รวมถึงหนี้บัตรเครดิต แต่คุณกลับไม่ทำเช่นนั้น และดูเหมือนจะกลายเป็นค่านิมคนไทยในกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ที่เวลาเงินออก มักจะไปช้อปกระจาย หรือไปกิน ไปเลี้ยงฉลองกัน ก่อน แล้วค่อยกลับมานั่งเก๊กซิมที่บ้าน ตอนที่มาดูเงินในกระเป๋า และตอนที่จะควักจ่ายหนี้อื่นๆ นั่นล่ะ เรียกว่าคุณก็ต้องเตรียมเงินให้พอกับหนี้ต่างๆ ที่รออยู่ตรงหน้า ซึ่งแม้บางคนอาจจะบอกว่าเคลียร์ได้ แต่ลองดูเงินในกระเป๋าสิ เมื่อใช้จ่ายไปแล้ว และนำมาเคลียร์หนี้แล้ว ถามหน่อยว่า กระเป๋าสตางค์คุณเหลือเงินให้พอใช้ถึงเดือนหรือไม่ วิธีแก้ไขควรจะจัดลำดับการใช้จ่ายซะใหม่ โดยจ่ายในเรื่องการดำรงชีวิตก่อน ซึ่งหากคุณจะต้องผ่อนบ้าน หรือซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้าบ้านทุกเดือน ค่าหมอ หรือค่าประกันชีวิต ค่าผ่อนรถ แล้วก็เครดิตการ์ด ซึ่งหากจัดสรรปันส่วนการจ่ายแต่ละอย่างแล้ว ที่เหลือก็เป็นเงินที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน และอาจแบ่งเป็นเงินเก็บได้อีกด้วย
ใครที่มีบัตรเครดิต อย่าเพิ่งไปหลงกับการสะสมแต้ม สะสมไมล์ หรือได้ส่วนลด เพราะหากคุณยังไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนเงินได้ และจะเป็นการก่อหนี้เพิ่มขึ้น ก็ควรระงับใช้ไปก่อน และใช้หนี้เก่าให้ได้ก่อน อย่าเพิ่งไปเห็นแก่โปรโมชั่นต่างๆ เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็จะวนเวียนเป็นหนี้สินอย่างไม่รู้จักจบสิ้นนั่นเอง