ไม่ว่ายุคไหนๆ เรื่องของการเป็นหนี้มันต้องมีให้เห็นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ซึ่งอยู่ที่ว่าการเป็นหนี้ของแต่ละคนนั้น จะสร้างผลประโยชน์อย่างไรบ้าง อย่างบางคนเป็นหนี้เพราะเอาเงินไปต่อยอดในการลงทุน แต่บางคนเป็นหนี้บัตรเครดิตเพียงเพราะอยากได้มือถือตามกระแสอินเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้กับธนาคาร หรือบุคคลทั่วไป ก็ถือว่าคุณมีภาระที่จะต้องหาเงินมาจ่ายแล้วล่ะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
เมื่อเริ่มเป็นหนี้ต้องทำอะไร?
เมื่อรู้ตัวว่ามีหนี้สินมากมาย อย่าเพิ่งโวยวาย ลองตั้งสติให้มั่น และตั้งจิตใจ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง ให้หยุดก่อหนี้หรือหยุดสร้างหนี้เพิ่ม ไม่ว่าจะต้องลำบากแค่ไหน จะต้องหยุดหาหนี้ใหม่โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เป็นหนี้ไม่รู้จบ ซึ่งหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีหนี้สิน ไม่ว่าจากทางไหนก็แล้วแต่ให้สรุปยอดหนี้ทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แนะนำให้ทำตารางแบ่งประเภทหนี้สิน แล้วให้ทำการแยกประเภทหนี้อย่าลืมคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระ คำนวณยอดหนี้ทั้งหมดและคำนวณรายได้ทั้งหมด ค่อยๆ เรียงลำดับยอดหนี้ที่สำคัญจากมากไปหาน้อย ดูว่าเป็นหนี้ในระบบหรือนอกระบบ หรือแยกหนี้มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน หรือแยกหนี้ที่ถึงกำหนดชำระแล้วและยังไม่ถึงกำหนดชำระ รวมถึงการแยกประเภทหนี้เกี่ยวกับสินค้าที่จำเป็น หนี้ขาดอายุความ,หนี้ที่มีความรับผิดทางอาญา หรือหนี้ที่มีความรับผิดทางแพ่ง และรวบรวมรายชื่อลูกหนี้พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
จัดสรรรายได้ และวางแผนชำระหนี้
เชื่อว่าหากไม่เคยทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายเลย จะทำให้คุณไม่ทราบเลยว่าในแต่ละเดือนมีการใช้จ่ายเงินอย่างไร และหมดไปกับอะไรบ้าง เมื่อรู้ปัญหาแล้วว่าเงินหมดไปกับอะไร และหากเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือย และต้องการที่จะประหยัดได้ก็ควรหยุดซื้อของพร่ำเพรื่อ ที่ไม่ให้เกิดประโยชน์ ประหยัดอย่างจริงจัง ซึ่งการทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตนเองทุกวันตลอดเดือน มีรายได้จากทางใดบ้างและแต่ละเดือนและมีรายจ่ายใดบ้างพอใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าผ่อนชำระหนี้บัตรต่างๆ หากทำเสร็จแล้วให้ดูว่าทั้งเดือนใช้จ่ายเท่าไหร่ หากต้องดึงเงินเก็บมาใช้ทุกเดือน มีเหลือเก็บออมหรือไม่ ควรเลือกจ่ายหนี้ที่สำคัญหรือหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อนไม่ว่าจะเป็นหนี้ผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถ ส่วนหนี้บัตรเครดิตอาจส่งแบบขั้นต่ำ ส่วนเจ้าหนี้คนอื่นๆ อาจทำเรื่องติดต่อขอประนอมหนี้แบบขอผ่อนจ่ายเท่าที่จะไหวและห้ามหนีหนี้ ห้ามขาดการติดต่อกับเจ้าหนี้
หาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้
แต่ละคนมีปัญหาหนี้สินที่แตกต่างกัน บางคนมีหนี้ 2-3 บัญชี บางคนถึงกับเข่าอ่อนเพราะยอดหนี้มาก ต่อให้อยากจ่ายก็ยากลำบาก หากเป็นหนี้บัตรเครดิต ก็ลองหันมาจ่ายแบบขั้นต่ำเพื่อรักษาบัญชีและเครดิต เหมาะกับผู้ที่มีหนี้ไม่เยอะ แนะนำให้จ่ายขั้นต่ำตามใบเรียกเก็บเงิน หรืออาจจะจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำ ที่สำคัญต้องมีวินัยในการผ่อนชำระ หากหมดภาระหนี้ก็ไม่ควรก่อหนี้ใหม่เพิ่มเป็นอันขาด เพราะจะทำให้คุณมีหนี้ไม่หมดสิ้น มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ลองขายทรัพย์สินที่ขายได้ออกไปเป็นเงินสด เพื่อนำมาปิดหนี้ให้ได้มากที่สุด และหากมีหนี้สินมากให้เลือกปิดทีละรายการ เพื่อให้เหลือจำนวนเจ้าหนี้น้อยที่สุด หากคุณมีทรัพย์สินที่สามารถขายเพื่อปลดหนี้ได้ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล ในระหว่างนั้นแนะนำให้เก็บเงินและทำให้ความสามารถารถ หากรู้จักประเภทหนี้ที่ได้ก่อขึ้นมาท่ามกลางสติในการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่าได้หนีหนี้ หรือหนีปัญหา ต้องเป็นผู้บริหารหนี้ จะช่วยให้สามารถใช้สินเชื่อต่างๆ ได้อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด
เมื่อเกิดปัญหาหนี้สิน
เรื่องของการลงทุนอาจจะมีคนที่เคยผิดพลาดรวมถึงการเป็นหนี้ที่ฟุ่มเฟือย เป็นหนี้ที่ปล่อยใจ หลงใหลได้ปลื้มไปกับพวกบัตรเครดิต เพราะความอยากได้อยากมีของดีๆ แพงๆ จนทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นหนี้ การผ่อนจ่ายหรือจ่ายขั้นต่ำ อาจทำให้คุณเป็นหนี้ระยะยาว จนบางคนถึงขนาดกลายเป็นลูกหนี้ ไม่มีเงินจ่าย หนี้มันล้างยาก ต้องใช้เวลา แต่ต้องล้างใจไม่ให้ตัวเองทุกข์เสียก่อน เพราะยิ่งทุกข์ ยิ่งทำให้ชีวิตแย่ ตั้งสติและหันมาตั้งหลักจัดการกับหนี้ที่มีอยู่ การรวมหนี้จะทำให้เห็นตัวเลข ทำให้คุณรู้ว่าหนี้ที่มีนั้น มันมากน้อยขนาดไหน และจะจัดการกับหนี้ตัวไหนก่อน ลองดูว่ามีหนี้บางประเภทสามารถทำรีไฟแนนท์ได้หรือไม่ เพราะจะได้ยืดระยะเวลาการจ่ายออกไป แล้วให้นำเงินก้อนมาผ่อนจ่ายหนี้ก้อน หากจำเป็นจริงๆก็ต้องรวมหนี้ให้กลายมาเป็นเจ้าหนี้ คนเดียว ดีกว่าการมีเจ้าหนี้หลายคน
หยุดสร้างหนี้ใหม่ และเตือนสติตัวเองครั้งนี้จะเป็นหนี้ครั้งสุดท้าย และต้องหาเงินมาจ่ายหนี้เก่าที่ทำไว้ให้หมด อาจจะขายของตามตลาดนัด ขายของออนไลน์ ช่องทางไหนที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นก็ควรจะลองทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาโปะหนี้ให้หมดเร็วที่สุด ไม่ฟุ่มเฟือยและจ่ายให้น้อย หัดสะกดคำว่าพอเพียงให้เป็น และทำการเรียนรู้ประสบการณ์ เพื่อสร้างภูมิต้านทานและนำความรู้มาต่อยอดสิ่งใหม่ ซึ่งการเป็นหนี้เป็นเรื่องที่เราควรเรียนรู้ และทำความเข้าใจ คำว่าหนี้จะเป็นตัวบังคับช่วยในเรื่องการบริหารให้คุณมีเงินและมีกิจการที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ควรสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีก หากทำได้ตามที่กล่าวมาคำว่า“หนี้” ก็คงกลายเป็นเรื่องชิลๆที่จะแก้ไขและทำให้หมดไปได้อย่างแน่นอน