Phase 2 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ! ประกาศลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16% !! และขยายเวลาชำระหนี้
จากพิษเศรษฐกิจจาก COVID-19 ที่ส่งผลมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2563 นี้ ส่งผลให้หลายครัวเรือนมีปัญหาในการจ่ายหนี้ เนื่องจากค้าขายไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าหรือท่องเที่ยว พักในโรงแรม หลายคนถูกเลิกจ้างงาน หรือ ลดเงินเดือน แต่มีรายจ่ายเท่าเดิม เท่ากับว่ามีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้จึงออกมามากมายดังนี้
ธนาคารพาณิชย์ และ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) สนองนโยบาย ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ‘เฟส 2’ ทั้งการลดเพดานดอกเบี้ย-ขยายเวลาชำระ หวังช่วยลดภาระให้ลูกค้า โดย ‘กรุงศรีคอนซูมเมอร์’ ยืดหนี้ยาวสุดถึง 90 เดือน
ธนาคารพาณิชย์ และ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ใน ‘เฟส 2’ ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยการปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16% และดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25% พร้อมทั้งขยายเวลาการพักชำระหนี้และยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป เพื่อลดภาระให้กับลูกค้า
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิตอลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า กรุงศรีคอนซูมเมอร์ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยต่อเนื่อง หลังจากมาตรการในเฟสแรกทยอยครบกำหนด เช่น พักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาชำระหนี้ ให้เงินเพิ่ม โดยการยืดเวลาชำระหนี้ เฟส 2 ให้ผ่อนยาวสุดเป็น 90 งวด จากเดิมที่ เฟสแรก ผ่อนยาวสุด 48 งวด เนื่องจากลูกหนี้บางราย วงเงินหนี้ค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อลดภาระหนี้ลงมา จึงต้องยืดหนี้ให้ยาวขึ้นและลดดอกเบี้ยเหลือ12% หากเป็นลูกหนี้ที่ค้างชำระ ก็ได้เข้าไปช่วย ทั้งยืดหนี้ ลดดอกเบี้ยและ Hair Cut หนี้สำหรับบางกรณี
ทั้งนี้คาดว่า ลูกหนี้ของกรุงศรีคอนซูมเมอร์ที่จะได้ประโยชน์มาจากการลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 3 ล้านคน ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลมีกว่า 1 แสนคนที่ขอเข้ามายืดระยะเวลาจ่ายหนี้แล้ว
ด้านนายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย เฟส 2 ครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิต ลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยเน้นการปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป ตลอดจนการเพิ่มวงเงินและมาตรการขั้นต่ำเพิ่มเติม เช่น บัตรเครดิต ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเหลือ 16% สินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25% และขยายวงเงินให้ลูกหนี้ดี ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน เป็น 2 เท่าเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ยังได้ขยายมาตรการขั้นต่ำ เช่น เปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นเทอมโลน 48 งวด โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 12% และยังมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ทำให้รายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ โดยพิจารณาเป็นรายกรณี สำหรับสินเชื่อบ้าน พักหนี้ได้ 3 เดือน และสามารถเลือกลดค่างวด โดยขยายระยะเวลาชำระหนี้ ฯลฯ
“ธนาคารได้เร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือลูกค้า โดยเน้นให้ความช่วยเหลือทั้งในวงกว้างแก่ลูกค้าเป็นการทั่วไป และแบบเจาะจงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเน้นให้ความช่วยเหลือก่อนที่ลูกค้าจะกลายเป็นหนี้เสีย มิฉะนั้นจะกระทบต่อประวัติเครดิตของลูกค้า อันจะเป็นผลเสียต่อการขอใช้บริการสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต”นายสุวรรณ กล่าว
ด้านธนาคารกสิกรไทย ระบุว่าได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ออกเช่นกัน ทั้งการลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16% ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต บัตรเงินด่วน สามารถพักหนี้เงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ยได้ต่อยาวถึง 6 เดือน หรือเลือก เปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 48 เดือนดอกเบี้ย 12 เดือน หรือลดค่างวด3% เป็นเวลา 6 รอบบิล ดอกเบี้ย22%
ด้านสินเชื่อบ้าน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย และลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.1% เป็นเวลา 3 เดือน หรือ ลดค่างวด 50% 3 เดือน และพักเงินต้นและดอกเบี้ย 3เดือน ขณะที่สินเชื่อรถ ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม ตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22%