เจนเนอเรชั่น คือการเปลี่ยนถ่ายสิ่งต่าง ๆ จากรุ่นสู่รุ่น จากยุคสู่ยุค เป็นไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะเมื่อสังคมในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนในเรื่องของค่านิยม ความคิดเห็น และทัศนคติต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก จนบางครั้งก็แทบจะสุดโต่งไปเลย และสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วย สิ่งที่เคยมีในสมัยก่อนก็เริ่มจางหายไป ทั้งวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตในรูปแบบเดิมก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ทั้งยังกลายเป็นสังคมที่อาจจะจำกัดตัวอยู่ในวงแคบ ๆ ของการเล่นสมาร์ทโฟน ที่แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถท่องไปได้ทุกที่ทั่วโลก สามารถพูดคุยสื่อสารได้แบบแทบจะไม่ต้องรู้จักกัน แต่แค่พิมพ์หรือถ่ายรูปก็สามารถคุยกันรู้เรื่องผ่านทางตัวหนังสือ โดยในสังคมหนึ่งจะมีการหลอมรวมเอาคนในหลาย ๆ เจนเนอเรชั่นมาอยู่เป็นสังคมเดียวกัน จนทำให้เกิดความแตกต่างที่มากขึ้นในหลาย ๆ ด้านด้วยเช่นกัน
ลองอ่านนิสัยใช้เงินดูสิ : Gen นี้ใช้เงินแบบไหน ? Part: พวกเราชาว เจนวาย
อีกไม่นานนี้สังคมไทยจะเริ่มเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มขั้น และสวนทางกับอัตราการเกิดที่มีแนวโน้มที่ลดลง เนื่องมาจากการที่มีผู้หญิงทำงานในสังคมเกิดขึ้นเยอะขึ้น ทำให้ผู้หญิงเหล่านี้พึงพอใจที่พึ่งพาตัวเองมากกว่า และการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเบี่ยงเบนทางเพศที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นอัตราของผู้ที่อยู่กันเป็นโสดและอยู่กันเป็นคู่แต่ไม่มีบุตรมีแนวโน้มที่สูงขึ้นไปด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างประชากรในไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ และคนในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีพฤติกรรม ความคิด ความชอบ และการไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป จึงทำให้ต้องมีการบริหารจัดการในรูปแบบที่แตกต่างกันนี้ไปทั่วโลก โดยสามารถแบ่งเจนเนอเรชั่นที่แตกต่างได้ 7 กลุ่ม คือ
Lost Generation
คือประชากรในรุ่นแรก ๆ โดยเกิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2426-2443 หรือช่วงยุค 80 ปัจจุบันคนในกลุ่มของยุคนี้จะเสียชีวิตกันไปหมดแล้วแต่มีการระบุไว้เพราะเป็นยุคที่อยู่ในช่วงของเหตุการณ์สำคัญอย่างเช่นการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้น
Greatest Generation
คนกลุ่มนี้จะอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2444-2467 จะเป็นยุคในสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่เรียกกันว่ายุค G.I. และคนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักจะถูกเกณฑ์มาเป็นส่วนหนึ่ง ในกองกำลังทหารเพื่อการสู้รบเสียส่วนใหญ่และเมื่อสงครามได้สงบลงเศรษฐกิจก็ตกต่ำไปทั่วโลก คนรุ่นนี้จึงต้องฝ่าฟันปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น พร้อมช่วยกันฟื้นฟูและพัฒนาให้เศรษฐกิจฟื้นกลับตัวมาอีกครั้ง ซึ่งคนในรุ่นนี้เริ่มมีความคิดเห็นเป็นเป็นของตัวเอง และเริ่มมีความเชื่อไปในแนวทางเดียวกัน มีจิตสำนึกในเรื่องพลเมืองที่เหมือนกัน ทั้งยังมีการแต่งตัวที่เป็นทางการเพื่อติดต่องานกันมากยิ่งขึ้น
Silent Generation
คือคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2468-2488 เป็นประชากรในรุ่นของสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ประชากรมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก ต้องทำงานหนักมีความเคร่งครัดของกฎหมายสูง และยังเป็นยุคแรกที่ผู้หญิงต้องเริ่มออกไปทำงานนอกบ้าน จึงทำให้ประชากรในยุคนี้จะน้อยที่สุดในทุกเจนเนอเรชั่น แต่พอเวลาผ่านไปเศรษฐกิจก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จึงทำให้คนในรุ่นนี้จะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดีที่สุด มีช่องทางในการสร้างธุรกิจของตัวเอง รวมทั้งการมีบทบาทในการพัฒนารากฐานของเทคโนโลยีที่ส่งต่อมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
Baby Boomer หรือ Gen B
คือผู้ที่เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2489-2507 เป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เป็นช่วงที่บ้านเมืองเสียหายหนัก จึงต้องมีการเร่งฟื้นฟูประเทศและสังคมอย่างเร่งด่วน ทั้งยังเป็นช่วงที่มีการสูญเสียแรงงาน คนในรุ่นนี้จึงมักจะถูกสอนให้มาเป็นคนที่ประหยัดและอดออม เคารพในกฎเกณฑ์ คิดทำอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งคนในรุ่นนี้จะมีอายุตั้งแต่ 49 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเป็นรุ่นอนุรักษ์นิยมอีกด้วย
Generation X
เป็นช่วงในช่วงขาดแคลนอาหาร และมีการควบคุมอัตราการเกิด คนในยุคนี้จะเกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 ซึ่งในปัจจุบันคนในช่วงอายุนี้จะเป็นคนในวัยทำงานที่เติบโตมากับการเริ่มใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี จึงทำให้เริ่มมีแรงต่อต้านจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากกว่าเดิมและเริ่มหลุดออกนอกกรอบอย่างชัดเจน
Generation Y
คือคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2540 เป็นคนที่เกิดมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง และค่านิยมที่แตกต่างไปจากรุ่นไปก่อน มีความคิดที่สร้างสรรค์ มีความทันสมัย เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มของวัยเรียนและวัยทำงาน มีการทำงานที่มีเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีความรู้ที่สูงกว่าคนในรุ่นก่อน ๆ มีชีวิตที่สบายไม่ยึดติดการเป็นทางการมากขึ้น
Generation Z
คนที่เกิดมาในปี พ.ศ. 2541 ขึ้นไป เป็นคนในยุคใหม่ที่เพิ่งเกิดและยังอยู่ในวัยเรียนที่เป็นเด็ก ๆ วัยใสที่กำลังจะเป็นอนาคตของชาติ เติบโตมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ และได้เรียนรู้ในรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่เคยมี เป็นเจนเนอเรชั่นที่เติบโตมาจากสิ่งแวดล้อม ที่พ่อและแม่ต้องออกทำงานทั้งคู่ จึงทำให้เป็นอนาคตในวัยทำงานที่สามารถสร้างสรรค์งานด้านต่าง ๆ ได้ดีมากกว่าในรุ่นก่อน ๆ