แทบอึ้งไม่น้อยที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เวียนเทียน ไทม์ส ของ สปป. ลาว ได้ออกมาเผยว่า ลาวกำลังจะมีเมกะโปรเจ็กต์สร้างสวนสนุกแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “ท่าแขก ดรีมเวิลด์ ซิตี้” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Disney Laos” ในเดือน ก.พ. 59 ซึ่งมีมาตรฐานเดียวกับสวนสนุกระดับโลกอย่าง “Disney Land” ด้วยงบลงทุนประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 185,000 ล้านบาท
เป็นเมกะโปรเจ็กต์ที่สร้างความอึ้งไม่น้อย…โดยเฉพาะกับประเทศไทย
เรียกว่า ชวนกันร้องว้าว! คงยังไม่พอ เมื่อนายสมจิตร อารียาประพล ประธานบริษัทอากาเนะ ฟาร์ม โซล ย้ำถึงความจริงด้วยการเปิดเผยต่อเวียงจันทน์ ไทม์สว่า เมกะโปรเจ็กต์นี้มีทั้งหมดด้วยกัน 3 เฟส และ Disney Laos จะอยู่ในเฟสสุดท้าย โดยตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษท่าแขก แขวงคำม่วน ซึ่งเป็นพรมแดนคั่นระหว่างลาวกับจังหวัดนครพนมของไทย ในขณะนี้การดำเนินงานโครงการกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างเฟสแรก ซึ่งเป็นศูนย์การเงินระหว่างประเทศท่าแขก-อีสาน หรือ Thakhaek Ehsan International Financial Centre และเสร็จไปแล้วประมาณ 80-90% โดยมีผู้ถือหุ้นหลักคือ Akane Farm Sole Company ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติมาเลเซีย แต่มีนักธุรกิจไทยเข้าหุ้นด้วยร้อยละ 20 และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จทั้งหมดภายใน 7-10 ปี ข้างหน้า
แม้ความสนุกจะกำลังมาอยู่ใกล้ๆ บ้าน เพียงแค่ลำโขงกั้น แต่คนไทยก็เริ่มประหวั่นพรั่นพรึงแล้วว่าเรื่องที่ ลาวผุด ‘ดิสนีย์แลนด์’ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้านเราอย่างไรกันบ้าง
ซึ่งนายชาญยุทธ อุปพงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนมได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากโครงการดิสนีย์ลาวเกิดขึ้นจริง จะเป็นผลดีต่อจังหวัดนครพนมอย่างยิ่ง เพราะด้วยความพร้อมของจังหวัดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม รถยนต์ เครื่องบิน ร้านอาหาร โรงแรมที่พักที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นพันๆ ห้อง จะทำให้นครพนมกลายเป็นแม่เหล็กดูดนักท่องเที่ยวที่รองรับผู้คนได้ดีทีเดียว แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เกรงว่า ข่าวการสร้างดิสนีย์ลาวจะเป็นเพียงแค่กระแสที่โหมพัดเพื่อมาปั่นราคาที่ดินให้สูงขึ้นเท่านั้น เพราะจากการที่ตนได้เช็คข่าวกับนักธุรกิจในแขวงคำม่วนเองก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้เท่าที่ควร คงต้องรออีกสักระยะว่าโครงการนี้จะเป็นจริงขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม แม้ความชัดเจนในเรื่องนี้ยังไม่แน่นอนนัก แต่ขณะนี้ทางลาวเองก็กำลังจะมีสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในลาว ภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ITECC ที่มีชื่อว่า เวียงจันทร์โอเชี่ยนปาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชัยเศรษฐาที่นครหลวงเวียงจันทร์ ด้วยพื้นที่ถึง 32,000 ตารางเมตร จะเป็นทางเลือกให้คนลาวได้พักผ่อน และใช้จ่ายภายในประเทศ โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวหรือจับจ่ายซื้อของในจังหวัดอุดรธานีหรือหนองคายอีกต่อไป
นับเป็นความเจริญของประเทศบ้านพี่เมืองน้องที่ไทยเองไม่ควรมองข้าม หากเรายังยืนอยู่กับที่ ไม่มีโปรเจ็กต์หรือสิ่งสร้างสรรค์ใหม่ใดๆ เกิดขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เติบโต ต่อไปเราอาจกลายเป็นผู้ตามที่ออกแรงวิ่งไล่ประเทศเพื่อนบ้านเท่าไหร่ก็ไม่ทันเขาสักที
ที่มา