วันนี้เราจะมารีวิวหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเงินดีดีกันสักเล่ม หากเริ่มตั้งแต่พื้นฐานก็ต้องเล่มนี้เลย “อยากรวยต้องเปลี่ยนวิธีคิด” ของ ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ และ ทิวัตถ์ ชุติภัทร์ ดร. วีรพงษ์ ชุติภัทร์ หรือ DoctorWe ของเราถือเป็นผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการการเงินการลงทุนของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ท่านเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นคอลัมนิสต์เขียนคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เคยเป็นกรรมการและเหรัญญิกของสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
นอกจากนั้น ดร. วีรพงษ์ ยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเงินการลงทุนไว้มากมายหลายเล่ม เช่น รวยหุ้นใน 30 วัน, 30 วันรวยได้ด้วยรายได้ที่ไม่ต้องทำงาน, รวยหุ้นกับ 7 เมกะเทรนด์ เป็นต้น และยังเป็นวิทยากรในการบรรยายหัวข้อการเงินการลงทุนอีกด้วย ใครสนใจก็สามารถติดตามดูได้ในรายการ wisdom talk ของทาง www.rsutv.tv
สำหรับหนังสือ “อยากรวยต้องเปลี่ยนวิธีคิด” เป็นหนังสือที่บอกถึงแนวคิดของการลงทุนของนักลงทุนระดับโลกไว้ โดยในหนังสือจะแบ่งออกเป็น 3 ภาคใหญ่ ๆ คือ ภาคแรกจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อให้รวย ภาคที่สองจะเป็นเรื่องอยากรวยควรลงทุนอะไรดี และภาคสุดท้ายจะเป็นเรื่องของเทคนิคของเซียนหุ้นที่จะหาหุ้น 10 เด้ง หากเริ่มอ่านตั้งแต่ภาคแรกไปจะได้เรียนรู้ตั้งแต่เริ่มพื้นฐานของวิธีคิดหรือทัศนคติเพื่อให้รวยก่อนเลย เมื่ออ่านมาเรื่อย ๆ ก็จะได้เรียนรู้ถึงการลงทุนที่มีอยู่ในประเภทต่าง ๆ ว่ามีรูปแบบผลตอบแทนหรือความเสี่ยงอย่างไรบ้าง และสุดท้ายก็จะได้เรียนรู้เจาะลึกในเรื่องของการลงทุนในหุ้นจากเซียนหุ้นที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เนื้อหาทั้ง 3 ภาคนี้ จะถูกจัดเรียงไว้เป็นหัวข้อ 30 หัวข้อเรียงกันแบบน่าอ่าน เพื่อให้ผู้อ่านค่อย ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ วันละบท พอครบ 30 วัน หรือ 1 เดือนก็จะอ่านจบพอดี แต่หากผู้อ่านคนใดมีเวลาจะอ่านวันละหลายบทหรืออ่านรวดเดียวหมดเลยก็ได้ อันนี้ไม่ว่ากัน
ในภาคแรกดร.วีรพงษ์ ได้กล่าวถึงวัฏจักรแห่งความยากจนว่าคนเราจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรแห่งความยากจนไปได้ก็ต้องถีบตัวให้พ้นออกไป คนที่สามารถทำได้ก็จะมีต้องปัจจัยสำคัญอยู่ 4 ประการ ก็คือ ในเรื่องของการศึกษา ความสัมพันธ์กับผู้คน ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการวางแผนทางการเงิน การที่คนเราจะรวยได้นั้นจะต้องเริ่มจากความคิดที่อยากจะหลุดพ้นจากความยากจนก่อนเลย คือ ต้องอยากรวย หลังจากนั้นต้องเลิกคิดที่จะใช้ชีวิตแบบหนูถีบจักรไปตลอด ในช่วงเริ่มต้นของการทำงานหากอยากรวยเราต้องมีชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เราทำได้ เพื่อให้เราสามารถเก็บออมได้ หลักสำคัญคือเราต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้สามารถรอคอยความสุขในอนาคตให้ได้
ในหนังสือยังได้บอกนิสัยที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นแนวคิดของคนรวย 21 แนวคิดที่ทำให้คนรวยแตกต่าง เช่น คนรวยจะคิดถึงอนาคต คิดว่าเราต้องขยันและประสบการณ์จะเป็นตัวนำพาความสำเร็จ คนรวยมักจะกล้าเสี่ยงและวางเป้าหมายชีวิตที่ท้าทาย อีกแนวคิดที่ชอบมากคือ คนธรรมดาคิดว่าเราต้องเลือกระหว่างเงินหรือครอบครัว ในขณะที่คนรวยจะคิดว่าเขาต้องได้ทั้งสองอย่าง อ่านแนวคิดทั้ง 21 ข้อนี้แล้ว เหมือนเรามีแรงบันดาลใจมีแนวคิดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในหัวเรามากมาย คืออ่านแล้วเกิดความฮึกเหิม
ดร.วีรพงษ์ ได้ให้คำแนะนำในเรื่องของการวางแผนการเงินไว้ 2 ข้อคือ เรื่องของการออมแบบเฉลี่ยควรทำไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน และการวางแผนเพื่อให้รวยแบบอัตโนมัติ หมายความว่าเราต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการช่วยเราให้ออมหรือเก็บเงินได้แบบอัตโนมัติด้วย เช่น การหักเงินจากบัญชีเงินเดือนแบบอัตโนมัติจะเป็น 10% หรือ 20% ทุกเดือนเพื่อไปออมหรือลงทุน เป็นต้น ขนาดพวกบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์เรายังกลัวลืมจ่ายเลย ต้องให้หักบัญชีจากธนาคาร การออมเงินหรือลงทุนของเราไม่สำคัญกว่าเหรอ หากคิดว่าสำคัญและไม่อยากลืมก็ควรให้หักบัญชีธนาคารแบบอัตโนมัติเช่นกัน
ในหนังสือยังได้บอกทางเลือกที่หลากหลายและข้อดีข้อเสียในการลงทุนแต่ละประเภทไว้ ดังนี้
- การฝากเงินกับธนาคาร มีความมั่นคงก็จริง แต่ให้ผลตอบแทนต่ำ
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ผลตอบแทนสูง ค่าใช้จ่ายก็สูงเช่นเดียวกัน และเป็นทรัพย์สินที่ต้องการการดูแล
- การลงทุนในทองคำ เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำมีความผันผวนมาก ทองคำจึงกลายมาเป็นทรัพย์สินที่ลงทุนเพื่อเก็งกำไรกันไปเสียแล้ว
- การลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยงสูง แต่หากเลือกลงทุนถูกจังหวะและเวลา ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี
ในส่วนครึ่งหลังของหนังสือเล่มนี้จะเป็นการบริหารเงินในการลงทุนหุ้น ดร.วีรพงษ์ ถือว่าเป็นผู้ที่เชื่อในการลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่าต่อให้มีวิกฤตเศรษฐกิจกี่ครั้ง ตลาดหุ้นไทยก็จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในที่สุด ในหนังสือได้ให้ความรู้ในเรื่องของฟันด์โฟลว์ที่มีต่อตลาดหุ้น โดยยกกรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเพื่อเป็นกรณีศึกษาหลายครั้ง มีการอธิบายความแตกต่างกันระหว่างหุ้นปันผลและหุ้นเติบโต โดย ดร.วีรพงษ์ได้ให้ข้อคิดว่าผลตอบแทนจากหุ้นปันผลอาจไม่ได้ดีเสมอไป หากเทียบกับหุ้นเติบโตที่สามารถให้ผลตอบแทนเราได้มากเป็นหลายเท่าหากเราถือไว้ในระยะยาว
ส่วนสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลกถึง 10 แนวคิด ที่จะสามารถหาหุ้นแบบ 10 เด้งได้จริง โดยจะยกตัวอย่างบางท่าน ท่านแรกเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ของการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่า ก็คือ เบนจามิน เกรแฮม ที่ใช้เทคนิคหาหุ้นหลายเด้งจาก “Margin of Safety” คือ ต้องหาหุ้นที่มีราคาต่ำมาก ๆ ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ยิ่งมากก็แสดงว่าเรามีส่วนเผื่อความปลอดภัยมาก มองอีกแง่ก็เหมือนเราซื้อหุ้นได้ในราคาถูก
อีกท่านที่รับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ก็คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เรียกได้ว่าเป็นไอดอลตลอดกาลของนักลงทุนก็ว่าได้ บัฟเฟตต์จะให้ความสำคัญกับราคาของหุ้นในระยะยาวเท่านั้น เทคนิคในการหาหุ้นหลายเด้งของบัฟเฟตต์ก็คือ เขาจะหาธุรกิจหรือกิจการที่ดีที่เขาเชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้ในอนาคตและต้องเป็นธุรกิจที่เขาสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ด้วย ประโยคทองในการลงทุนของบัฟเฟตต์ก็คือ ราคาหุ้นคือสิ่งที่คุณจ่ายไป ส่วนคุณค่าของหุ้นคือสิ่งที่คุณได้มา ในหนังสือยังมีอีกหลากหลายแนวคิดจากกูรูมากมายจากทุกประเทศ อ่านแล้วได้มุมมองที่แตกต่าง ได้ทราบวิธีที่แต่ละคนใช้ในการเลือกลงทุนในหุ้นที่หลากหลายเป็นการเปิดมุมมองในการลงทุนอย่างแท้จริง