ในแวดวงและชั้นเชิงธุรกิจนั้น แต่ละอุตสาหกรรมก็มีวิถีทางการแข่งขันที่แตกต่างกันออกไป สำหรับวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น คงไม่มีใครไม่รู้จัก Donald Trump ชายผู้ที่มากับความคิดที่ยิ่งใหญ่และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ และชายคนนี้ก็คือเจ้าของตึก Trump Tower ใจกลางกรุงนิวยอร์ก, เจ้าของโรงแรมชั้นนำชื่อดังระดับ 5 ดาวหลาย ๆ แห่งและรวมไปถึงสนามกอล์ฟที่ใหญ่โตของอเมริกาอีกด้วยค่ะ
ใครบางคนอาจจะมองว่าชีวิตของ Donald Trump นั้นน่าจะราบรื่นเหมือนทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดเส้นทาง เพราะพ่อของเขาก็เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเขาเองก็มักจะได้มีโอกาสตามพ่อไปดูงานอยู่บ่อย ๆ และเมื่อเขาอายุ 25 ปี เขาก็ได้เข้ามามีบทบาททำโครงการแรกเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ในย่านโอไฮโอ ซึ่ง ณ เวลานั้น อพาร์ทเม้นท์แถบนั้นมีจำนวนผู้เข้าพักอาศัยอยู่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำค่ะ แต่ Donald Trump ก็ได้ฉายแววเด่นด้วยการพลิกฟื้นอพาร์ทเม้นท์นั้นให้ผู้คนเข้ามาอยู่จนเต็มในระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นเองค่ะ
กลยุทธ์สร้างเงิน สร้างธุรกิจที่น่าสนใจของ Donald Trump ก็คือเขายึดหลักที่ว่า ถ้าคิดจะลงทุนทำธุรกิจขึ้นมาสักอย่าง คุณต้องคิดให้ใหญ่เข้าไว้ เข้าตำราที่ว่า Think Big นั่นแหละค่ะ
เพราะ Donald Trump เชื่อว่าเมื่อคนเราคิดหรือวาดภาพในหัวให้ใหญ่โตเข้าไว้ ก็จะเกิดความท้าทายและเกิดแรงกระตุ้นมาผลักดันให้คน ๆ นั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีกำลังจะลุยงานได้ค่ะ เมื่อคุณรู้จุดหมายปลายทางกันแล้ว สิ่งถัดมาก็คือคุณต้องศึกษาและวิเคราะห์ก่อนว่าธุรกิจนั้น ๆ ที่คุณสนใจมีใครเป็นคู่แข่งของคุณอยู่บ้าง แล้วบรรดาคู่แข่งของคุณเขามีจุดอ่อนอะไรบ้างหรือเปล่า มีช่องว่างตรงไหนมั๊ยที่คุณจะสามารถเจาะเข้าไปได้ เมื่อพิจารณาและศึกษาเป็นอย่างดีแล้วก็เริ่มลุยต่อได้เลย
โดยเทคนิคสำคัญที่มัดใจลูกค้าของ Donald Trump ก็คือ เขาจะยึดเอาความต้องการของลูกค้ามาเป็นอันดับแรกเสมอค่ะ สิ่งที่เขาจะทำก่อนก็คือไปสำรวจความต้องการของลูกค้า จากนั้นก็เข้าไปดูสถานที่และดูแลการก่อสร้างจนแล้วเสร็จเป็นอย่างดี อย่างเช่น ตอนที่เขาต้องการส่วนแบ่งการตลาดในเกาะแมนฮัตตัน Donald Trump ก็ลุยสำรวจตลาดเองตลอด และก็ยังเดินสายสร้างความสัมพันธ์กับนักธุรกิจท้องถิ่นรายใหญ่ควบคู่ไปด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Donald Trump สามารถหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำมารีโนเวทโรงแรมคอมมอดอร์ โดยการเปลี่ยนดีไซน์ทั้งด้านในและด้านนอกออกหมด และยังได้พันธมิตรอย่างแกรนด์ ไฮแอตต์ มาช่วยเรื่องการบริหารอีกด้วย ทำให้ Donald Trump สามารถพลิกฟื้นโรงแรมเก่า ๆ ที่ไม่มีใครสนใจนักให้กลับมาสวยงาม มีคุณค่าอีกครั้ง แถมยังทำให้เขามีรายได้และผลกำไรจากการเปลี่ยนโฉมโรงแรมในครั้งนั้นอย่างมหาศาลอีกด้วยนะคะ
กลยุทธ์ที่ 2 ของ Donald Trump ในการสร้างสรรค์อสังหาริมทรัพย์ให้โดนใจตลาดก็คือ การรู้จักใช้ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่าสูงสุด หรือที่เขาเรียกว่า Economy of Space ค่ะ
อย่างเช่น ในอาคาร 1 แห่งนั้น เขาก็จะออกแบบให้พื้นที่ด้านล่างสามารถใช้เป็นทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร และสถานที่สำหรับช้อปปิ้งสิ่งของต่าง ๆ ครบครัน ส่วนพื้นที่ด้านบน ๆ ก็ออกแบบสำหรับจัดสรรเป็นสำนักงานออฟฟิสได้อีก โดยรูปแบบของอาคารก็จะมาในลักษณะทรงสูง หรือ HiRise เพราะเขาตีโจทย์แตกว่าเมื่อทำเลที่ตั้งดี ก็ย่อมต้องมีความต้องการพื้นที่เช่าสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นมูลค่าของพื้นที่ที่มากขึ้นก็คือระดับของราคาที่ไต่สูงขึ้นไปด้วยนั่นเองค่ะ และส่วนมากแล้วผู้คนที่อาศัยในนิวยอร์กก็ย่อมต้องการที่จะเห็นวิวของเมืองจากมุมที่สูงที่สุดกันทั้งนั้นค่ะ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่แฝงอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของ Trump ก็คือ คุณค่าที่มากกว่าในสินค้าของเขาแต่ละแห่งค่ะ วิธีง่าย ๆ ในการสร้างกำไรก็คือการที่เราสามารถซื้อของมาในราคาที่ถูกมาก ๆ แล้วเราก็นำมาขายในราคาที่สูงขึ้นหลาย ๆ เท่า แต่อะไรหล่ะค่ะที่จะทำให้ลูกค้ายอมควักเงินแพงกว่า ส่วนหนึ่งเลยก็คือการออกแบบที่เน้นให้สวยงาม หรูหรา ทั้งจากภายในและภายนอกอาคารด้วยค่ะ ส่วนในเรื่องของการจัดซื้อนั้น พูดได้เลยว่า Trump ลงในรายละเอียดกันทุกเม็ด เขาจะวิเคราะห์และพิจารณาเองว่าราคาเสนอซื้อนั้น ๆ แพงไปหรือเปล่า หรือ ถูกพอหรือยัง อย่างที่ตัวเขาเองก็เคยพูดไว้ว่า ถ้าคิดจะทำการใหญ่ก็ต้องเตรียมรับกับงานที่หนักมาก และเขาเองก็เป็นคนที่จริงจังกับทุกโครงการค่ะ
อ่านเพิ่มเติม >> เคล็ดวิชา ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ สำหรับมือใหม่ <<
กลยุทธ์เด็ด ๆ อีกอย่างของเขาก็คือ เขาเลือกใช้ตัวเขาเองเป็น Brand Ambassador โดยการเลือกใช้ชื่อของตนเอง Trump เป็นชื่อของอาคารที่เขาสร้างขึ้น, คอนโด, สำนักงานให้เช่า, นาฬิกาและรวมถึงเสื้อผ้าด้วยค่ะ
ซึ่งนอกจากจะเป็นการพรีเซนต์ตัวเองสุดเก๋และเท่ห์มาก ๆ แล้ว ชื่อของเขายังได้ปรากฏตัวในสื่อต่าง ๆ ตลอดเวลา และเมื่อชื่อของเขาถูกโยงให้คิดถึงสินค้าของเขาก็ยิ่งตอกย้ำให้ผู้ที่พบเห็น หรือ กลุ่มลูกค้าได้รับสารจากเจ้าของกิจการแบบเต็ม ๆ ว่า คุณภาพของโครงการในมือของเขาก็คือ ความหรูหรา มีเอกลักษณ์และ เพียบพร้อมไปด้วยคุณภาพของงานระดับพรีเมี่ยม นั่นเองค่ะ เริ่ด ๆ นะคะ