สำหรับคนที่ไขว่คว้า มีความพยายาม ประสบความสำเร็จ ในชีวิตนั้น ย่อมรู้ดีว่า ความสำเร็จที่ได้มานั้นยากเย็นเพียงใด และผู้ประสบความสำเร็จแล้วคงจะไม่ปล่อยให้สิ่งที่ตนทำมานั้น ถดถอยด้อยค่า เสียอันดับ หรือล้มเหลวไปกับมือได้ มีแต่จะพยายามรักษาไว้ และทำให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันด้านทรัพย์สินให้กับตนเองและลูกหลานสืบต่อไป ถือเป็นตรรกะที่ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว จึงไม่หยุดนิ่ง
โลกของเราหมุนไปตลอดเวลา โลกของธุรกิจก็เช่นกัน ออกจะหมุนเร็วและพลิกแพลงกว่าโลกจริง ๆ เสียด้วยซ้ำ กระแสโลกเปลี่ยนเร็ว กระแสธุรกิจและความเป็นไปในโลกล้วนสัมพันธ์กันทั้งหมดทั้งสิ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกซีกโลก สามารถส่งผลกระทบถึงเราได้ภายในข้ามคืน ข้อมูลข่าวสารมีมากมาย ผู้ที่ตื่นตัวและรับข้อมูลใหม่ๆอยู่เสมอย่อมได้เปรียบ มีแหล่งข้อมูลอยู่กับตัวก็เปรียบเสมือนมีภูมิคุ้มกันต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบกับเราได้ ถือเป็นการเตรียมรับความพร้อมที่ดีที่สุด และนี่เองคือหนึ่งสิ่งที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่หยุดขวนขวายหาข้อมูลใส่ตัวอยู่เสมอ เพราะเมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นมาถึงจะได้สามารถรับมือได้ทันที
บางครั้งการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยความต่อเนื่อง เพราะความสำเร็จสูงสุด หรือ Goal นั้น อาจยิ่งใหญ่และห่างไกล จึงต้องแบ่งลำดับขั้นของความสำเร็จด้วยตนเองที่เรียกว่า Achievements แล้วสะสมไปจนถึง Goal ที่วางแผนไว้ในวันหนึ่ง ดังนั้น Achievements แต่ละขั้น จึงอาจเป็นแค่ก้าวหนึ่งของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ คนภายนอกจึงอาจเกิดความสงสัยว่า บุคคลผู้นั้นประสบความสำเร็จในการทำงานแล้วแต่ทำไมจึงยังไม่หยุด
ผู้ที่เคยศึกษาประวัติคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต พบว่าทุกคนล้วนมีลักษณะนิสัยบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน 17 ประการ และถึงแม้จะประสบความสำเร็จสูงสุดแล้ว ก็ไม่หยุดนิสัยเหล่านี้ เช่น หัวเราะอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เป็นผู้ฟังที่ดี กล้าถาม ช่างสงสัย เห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักขอบคุณ พร้อมรับความล้มเหลว ชอบผจญภัยเพราะถือเป็นการเรียนรู้และก้าวออกสู่ Comfort Zone รู้จักมอบความรัก ให้อภัยผู้อื่นไม่คิดโกรธแค้น แต่ก็จดจำและเรียนรู้เพื่อเป็นบทเรียน กล้าเสี่ยงในสิ่งที่ไม่เคยทำ รู้จักการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต โดยรู้ว่าจะต้องทำสิ่งใดก่อนหลังเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ รู้จักยกระดับชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น สุดท้าย คือการประเมินตนเองว่าสำเร็จอะไรไปแล้วบ้างเมื่อเทียบกับแผนงานที่ได้วางไว้
สังเกตเห็นได้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วนั้น จะสามารถประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกเหมือนว่าไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเขาเหล่านั้นมีมุมมองที่กว้างกว่า เนื่องจากอยู่ในจุดที่สูงกว่า ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอจึงทำให้มีความรอบรู้สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ รักการผจญภัย ชอบการท่องเที่ยวและยอมรับในวัฒนธรรมที่หลากหลาย (Diversity) นิสัยเหล่านี้ทำให้มีโอกาสเห็นโลกได้มากกว่า มีความกล้าได้กล้าเสีย พร้อมสำเร็จ กล้าลงมือทำ และพร้อมยอมรับความล้มเหลว ด้วยความที่ถึงพร้อมด้วยแหล่งเงินทุน (Capital) และถึงพร้อมด้วยความเป็นเจ้าของ (Entrepreneurship) ซึ่งนับ 2 ใน 4 ปัจจัยหลักเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
เมื่อเราทราบแล้วว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วมีลักษณะนิสัยอย่างไรบ้าง การเริ่มต้นมองตัวเองในฐานะคนทำงานคนหนึ่งว่า เราจะประสบความสำเร็จในการทำงานได้อย่างไ และเมื่อความสำเร็จนั้นมาถึง เราจะทำอย่างไรต่อไป จะหยุดความสำเร็จไว้เพียงเท่านั้นเพราะพอใจแล้ว หรือจะเดินหน้าต่อเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาให้รอบด้าน เพราะการเป็นมนุษย์เงินเดือนอาจทำให้คิดไปได้ว่า สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็สบายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนขวนขวายให้เสียเวลา แต่มีสิ่งหนึ่งที่พนักงานกินเงินเดือนจำเป็นจะต้องตระหนักคือ Dynamic ในโลกธุรกิจหรือการเปลี่ยนแปลงแปรผันของโลกธุรกิจมีความรุนแรงเกิดขึ้นเสมอ
ซึ่งบริษัทเองก็ต้องปรับตัว เมื่อถึงเวลานั้น เราพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดนั้นได้หรือไม่ การเป็นพนักงานบริษัท ไม่ว่าจะอยู่ในระดับปฏิบัติการ หรือระดับผู้บริหาร ย่อมมีความไม่ปลอดภัยในหน้าที่การงานเหมือนๆกัน เพราะบริษัทอาจต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด และนี่เองคือเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
ความสำเร็จนั้นไม่ได้มาถึงง่ายๆ บางคนอาจต้องแลกกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเพื่อให้ได้มา บางคนพ่อแม่หยิบยื่นความสำเร็จให้ตั้งแต่ยังวัยหนุ่มสาว ถ้าหยุดความสำเร็จไว้เพียงแค่นั้น หรือพัฒนาช้ากว่ากระแสโลก นั่นหมายความว่าเรากำลังถดถอย สิ่งเดียวที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องคือการพยายามก้าวเดินไปข้างหน้า การพบอุปสรรคถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ ประสบการณ์และการเรียนรู้จะช่วยจัดการปัญหาเหล่านั้นไปได้