ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ใน สภาวะเงินเฟ้อ มากว่า 8 เดือนแล้ว โดยความจริงตอนนี้คือ เงินเฟ้อติดลบ ซึ่งหมายถึง การเงินในภาพรวมของประเทศนั้น เงินฝืด เกิดสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินในประเทศ ไม่มีการลงทุน ประชาชนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยอย่างที่ควรจะเป็น เลยทำให้การหมุนเวียนเม็ดเงินน้อยลงเรื่อยๆ แสดงถึงการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศอย่างชัดเจน
แต่คนส่วนใหญ่คงไม่รู้กันเพราะเคยชินกับการที่ในแต่ละวันนั้นใช้จ่ายเงินแบบไม่มีข้อสงสัย ไม่มีข้อสังเกตกันว่าราคาสินค้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รู้หรือไหมว่าสินค้าแต่ละชนิดนั้นขึ้นแล้วไม่ลง แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดแต่ค่าสินค้าไม่ลดตาม
ซึ่ง สภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุเช่น เกิดจากต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น ซึ่งต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าอาจจะสูงขึ้นได้จากทั้งส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า , ค่าจ้างแรงงาน, รวมทั้งค่าขนส่งสินค้าที่แพงขึ้น เช่น กรณีของราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ก็มีส่วนทำให้สินค้าแพงขึ้น และยังมีเหตุปัจจัยอื่นอีกหลายประการ ซึ่ง ภาวะเงินเฟ้อ นี้ส่งผลกระทบถึงเราโดยตรง เพราะเราต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าหลักที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ข้าวสาร , นมเด็กทารก, แก๊สหุ้งต้ม , ยา , ค่ารักษาพยาบาล และ สินค้าจำเป็นอื่นๆ รวมถึงค่าบริการต่างๆ ที่มีผลกับการดำรงชีพ มีการปรับราคาขึ้นลงในแต่ละเดือนนั้นหลายรายการ หากคุณสังเกตุสักนิดคุณจะพบว่าแม้แค่ผ้าอนามัยยังขึ้นราคาเลย แบบนี้ถ้าคุณไม่คิดวางแผนการใช้เงินจะไหวไหมกับอีก 3 เดือนที่เหลือจนกว่าจะข้ามปีถึงจะเห็นได้ว่า แนวโน้มการเงินภารวมในภาพรวมของชาติเป็นอย่างไร
อ่านเพิ่มเติม : >>> วางแผนรับมือกับ ภาวะเงินเฟ้อ <<<
หากให้พูดกันจริงๆ ก็คือ รัฐบาลควรมีมาตรการต่างๆกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะ ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนในบ้านเราสักระยะแล้ว ทัวร์ต่างๆก็หดหาย กานส่งออกก็ลดลง แต่การนำเข้ายังสูงอยู่ ว่าง่ายๆเราขายของได้น้อยแต่ซื้อของเยอะ ซึ่งมันไม่ดีจริงๆหากยังเป็นแบบนี้จนข้ามปี แนวโน้มที่จะมีบริษัทปิดตัวเพราะสภาพเศรษฐกิจมีแน่ๆ และ SME คือกลุ่มที่โดนไปแล้ว แรงงานค่าแรงไม่พอกับค่าครองชีพ ต่อให้ขึ้นอีก 100 รอบก็ไม่พอเพราะเราไม่มีวิธีคุมราคาสินค้าหลักที่ได้ผล และยิ่งตอนนี้ผลกระทบจากค่าเงินหยวนที่ลดต่ำ ทำให้โดนพิษจีนกันทั่วโลก หากใครได้ติดตามข่าวหุ้นคงรู้กันดีว่าตกราวรูดทั้ง จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกา จนกลายเป็น Black Monday และหุ้นต่างในตลาดหุ้นไทย ณ.ตอนนี้ก็ตกกระฉูดทิ้งดิ่งกันหลายตัว ซึ่งมีข่าวแว่วๆวา ซีพีกว้านซื้อหุ้นคือในราคาหุ้นละ 1 บาท ซึ่งจริงเท็จอย่างไรคอหุ้นคงต้องไปติดตามกันเอาเอง
ส่วนมนุษย์เงินเดือน เดินดิน รูดบัตร ไม่รู้ว่าจะมีกี่คนที่ตระหนักถึงสภาวะเงินเฟ้อ นี่บอกตรงๆเลยว่า คนรากหญ้าเขาอยู่รอดแน่ เพราะเขารู้จักการปรับตัว รู้จักการประหยัด แต่มนุษย์กลางต้นหญ้านี่ล่ะที่จะเดือดร้อนเพราะ จนไม่เป็น จมไม่ลง ประหยัดคืออะไรไหนบอกทีสิ นี่คือเรื่องจริง ไม่ได้จะว่านะ ลองหันไปมองในออฟฟิศคุณดูสิ มีมนุษย์กลางต้นหญ้ากี่คน แล้วรู้ไหมว่าตอนนี้โอกาสเสี่ยงตกงาน เสี่ยงลดเงินเดือน เสี่ยงสารพัดเสี่ยง มันมากขึ้นทุกวัน แต่ก็เห็นมนุษย์กลางต้นหญ้ายังรูดปรื้ดกันอยู่แบบไม่สะทกสะท้าน งานนี้ระวังตายหมู่นะจ๊ะ ส่วนมนุษย์ยอดหญ้า แน่นอนว่าเขาสบายๆ มีเงินเหลือเฟือ ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ช้อปของแบรนด์เนม กินหรู อวดโซเชี่ยล เจียมๆกันหน่อยนะ วันไหนตกงานขึ้นมาจะกลายเป็นยิ่งกว่าคนรากหญ้า งานก็ไม่มี หนี้บัตรก็เยอะ ไหนจะผ่อนไอโฟน 6s ผ่อนรถคันแรก ผ่อนคอนโด ตายกันมาเยอะแล้ว และ ยิ่งพวกเลือกงานด้วยนะฝังลงหลุมกันไปเลยหากเจอพิษเศรษฐกิจเด้งออกจากงาน
ประหยัดกันบ้าง เตรียมวางแผนรับมือให้ดีๆ ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง คงไม่ต้องโทษใครให้วุ่นวาย เราทุกคนต้องหันมาช่วยกันเอง ตอนนี้เน้น ซื้อของไทย กินของไทย ใช้ของไทย เพื่อให้เงินหมุนเวียนอยู่ในบ้านเรา ของนอกงดๆ ไปก่อนให้เครษฐกิจมันฟื้น ค่าเงินคงที่ ส่งออกเยอะกว่านำเข้า เราค่อยหันมาซื้อ บอกต่อๆกันนะจะได้ช่วยกันเตือนสติคนที่ยังประมาทกับการใช้เงินจะได้ระวังตัวไว้