เปิดตัวแล้ว กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ หรือ อี-แกต-ทิฟ (EGATIF) ที่เป็นหน่วยงานเสาหลักในการผลิตรับซื้อพลังงานและจัดส่งพลังงานไฟฟ้ามาอย่างยาวนานกว่า 46 ปี มีการพัฒนาประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่องที่สามารถสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าที่ยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย และเพื่อเป็นการจัดหากองทุนทางเลือกใหม่ให้แก่รัฐวิสาหกิจจึงได้มีการจัดตั้งเป็นเพื่อระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ทั้งทางภาครัฐและสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งกองทุนนี้ได้ชื่อย่อว่า อี-แกต-ทิฟ (EGATIF) ที่เป็นกองทุนรวมพื้นฐานที่สามารถเข้าลงทุนในสิทธิรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือในชุดที่ 1 โดยจะมีระยะเวลาในการลงทุน 20 ปี ซึ่งจุดเด่นของกองทุนรวมนี้คือการมีองค์กรที่มีฐานทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในงานด้านที่ทำค่อนข้างสูงคือการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าที่มีประสบการณ์มามากว่า 40 ปี และยังมีโครงสร้างรายได้ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟฟ้า หรืออัตราค่าไฟ ทั้งยังสามารถให้โอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและรับเงินปันผลได้มากกว่าร้อยละ 90 และมีการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง
เรื่องที่น่าสนใจของกองทุนรวมตัวนี้คือการสามารถนำไปยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดาและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของเงินปันผลเป็นระยะเวลายามนานกว่า 10 ปี ส่วนในเรื่องของความเสี่ยงนั้นก็จะเป็นเรื่องกรณีที่ทางโรงไฟฟ้าไม่สามารถผลิตไฟฟ้าต่อไปได้เนื่องมาจากเครื่องผลิตอาจจะมีปัญหาหรือการขึ้นเบี้ยประกันภัย และความเสี่ยงในการไม่พร้อมจ่ายที่ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ค่อนข้างยาก และทางโรงไฟฟ้ายังได้มีการทำประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เอาไว้เพื่อรองรับความเสียหายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด เป็นประกันที่สามารถจะครอบคลุมความเสียหายจากเรื่องราวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ผู้ที่ร่วมลงทุนจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถลงเงินและได้รับกำไรกลับมาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ กองทุนก็น่าสนใจเนื่องมาจากการมีรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ สามารถรับผลตอบแทนได้สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลที่เฉลี่ยประมาณร้อยละ 4.5 และสามารถลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
ถ้าสนใจตัวกองทุนนี้ก็ควรศึกษาให้ดี ๆ ก่อนว่าโครงสร้างของกองทุนนั้นเป็นอย่างไร โดยดูที่รายได้ของค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้า รายได้ค่าไฟฟ้าพลังงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรายได้ที่ต่อเนื่องของทาง กฟผ. นับจากปัจจุบันไปถึงอนาคตเรื่อย ๆ ถ้าตราบใดที่โรงไฟฟ้ายังคงเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไปได้ตามปกติ ทาง กฟผ. ก็จะเข้าทำสัญญากับกองทุน อี-แกต-ทิฟ (EGATIF) ว่ากองทุนจะต้องระดมเงินทุนส่วนหนึ่งมาที่ กฟผ. เพื่อเป็นการตอบแทน ทาง กฟผ. ก็จะทำการโอนสิทธิการรับรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟไปให้กับตัวกองทุน ซึ่งรายได้ในอนาคตเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนนี้จะได้รับ ดูว่าผลตอบแทนในหน่วยลงทุนนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งในหน่วยลงทุนนั้นให้ผลตอบแทน 2 แบบ คือ ตัวเงินเงินปันผลและการคืนเงินลงทุนให้ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนด้วยการลดทุน
ส่วนเงินปันผลทางกองทุนก็มีนโยบายจ่ายอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ และกองทุนนี้ยังสามารถเป็นรายได้ในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ถ้าหากไม่เกิดสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงร้ายแรงอะไรก็คงจะไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนของผู้ที่ถือหน่วยการลงทุนมากนัก และเงินปันผลได้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับอีกหลาย ๆ ปัจจัยที่อาจจะเปลี่ยนไป เช่น ประสิทธิภาพของทางโรงงานผลิตไฟฟ้า การบำรุงรักษา และการเกิดเหตุการณ์ในอนาคตอื่น ๆ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อโรงงานไฟฟ้า
นอกจากนี้ก็ดูที่ทรัพย์สินของกองทุนว่าคืออะไร ซึ่งกองทุนตัวนี้มีการลงทุนที่กระจายในหลาย ๆ ทรัพย์สิน แต่จะลงทุนที่เพียงทรัพย์สินเดียวก็คือตัวโรงงานไฟฟ้าพระนครเหนือ ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารายได้ของกองทุนจะมีที่มาจากแหล่งเดียวนั่นคือรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือตั้งอยู่ใกล้กับทางชุมชนที่สามารถจะลดความสูญเสียในระบบสายส่งไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ถูกจัดลำดับความสำคัญให้เป็นโรงไฟฟ้าที่ต้องผลิตไฟฟ้าส่งเข้าระบบเป็นลำดับแรก ๆ อีกด้วย และต้องวิเคราะห์ดูด้วยว่ามูลค่าของหน่วยลงทุนนี้จะขึ้นหรือลง เพราะในชีวิตจริงเมื่อหน่วยลงทุนของทางกองทุนนี้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามูลค่าของหน่วยลงทุนนั้นจะขึ้นหรือว่าลง และในความเป็นจริงก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย
อย่างไรก็ดีเนื่องด้วยเมื่อเวลาผ่านไประยะเวลาในการรับรายได้จากค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าก็จะลดลงตามอายุของตัวสัญญาที่ลดลง ดังนั้น มูลค่าของทรัพย์สินกองทุนก็น่าจะมีการลดลงตามไปด้วย จึงสรุปได้ว่าเมื่อพิจารณาถึงเรื่องของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนที่น่าจะลดลง ประกอบกับว่าผลตอบแทนหลักของหน่วยลงทุนนี้คือตัวเงินปันผลและการคืนเงินลงทุนให้กับผู้ที่ถือหน่วยลงทุนด้วยการลดทุน ไม่ใช่ผลตอบแทนในส่วนของ Capital Gain เพราะฉะนั้นถ้าใครที่คาดหวังในมูลค่าหน่วยลงทุนที่สูงยิ่งขึ้นและมีการหวังผลตอบแทนจาก Capital Gain กองทุนนี้ก็ถือว่าอาจจะยังไม่เหมาะสมในการลงทุนมากนักจึงควรหาตัวใหม่ลงทุนแทนไปก่อน
Link ข้อมูลเพิ่มเติม