เมื่อก่อนเรายกย่องคนเก่ง คนสอบได้ที่หนึ่ง แต่ตอนนี้คนดีที่อาจจะไม่เก่งเท่า อาจเป็นที่ต้องการมากกว่า เพราะว่าคนเก่ง ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นคนดีด้วยเสมอไป เพราะคนเก่งที่ใช้ความเก่งไปในทางที่ผิด ย่อมทำความเดือดร้อนให้ตัวเองและคนอื่นได้ ดังนั้นการจะเป็นทั้งคนเก่งและคนดี จำเป็นต้องฝึกตัวเองในหลายๆด้าน ที่สำคัญคือ ต้องไม่ให้ด้านมืดมานำพาชีวิตให้เดินผิดทาง สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ไม่เดินผิดทางได้คือความฉลาดทางอารมณ์ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์มักจะเห็นคุณค่าของตัวเอง ย่อมไม่อยากให้ตัวเองเป็นที่รังเกียจของตัวเองและของคนอื่น วันนี้มาเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์กันดีกว่า มาดูเลยว่าจะทำยังไงได้บ้าง
1 ไม่จ้องหาความสมบูรณ์แบบ
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะยอมรับความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ เพราะพวกเขารู้ว่า ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง หรือถึงจะมีก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่คงทนและไม่อาจอยู่ไปตลอดกาล ถ้าใครที่มองหาความสมบูรณ์แบบมักจะพบกับความผิดหวังและจิตใจจะตกอยู่ในห้วงทุกข์บ่อยๆ
2 ไม่ตัดพ้อ ไม่เปรียบเทียบ
มีเรื่องแปลกแต่จริงเรื่องหนึ่งที่ว่า ถ้านายเอ มีเงิน หนึ่งล้านบาท เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไร จนกว่าจะรู้ว่า มีนายบี นายซี ที่มีเงิน ห้าแสน และสามแสนตามลำดับ นายเอจะมีความสุขมาก เพราะเหนือกว่าคนอื่น แต่ถ้าหากนายเอ มีเงิน หนึ่งล้านบาทเท่าเดิม แล้วมารู้ว่า นายบีและนายซี มีเงินคนละหนึ่งล้านห้าแสนบาท นายเอจะเป็นทุกข์และรู้สึกไม่พอใจทันที เพราะมีน้อยกว่าคนอื่น แบบนี้เรียกว่า นายเอคิดไม่เป็น ความสุขของนายเอขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบกับคนอื่น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดทางอารมณ์เอาเสียเลย ดังนั้นคนที่อยากเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์ต้องไม่ปล่อยให้ความสุขทุกข์ของเราขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบกับคนอื่น
3 อยู่กับปัจจุบัน
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะไม่คร่ำครวญไปกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่จะจดจ่อและใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและปัจจุบัน พวกเขารู้ดีว่าการจะเก่งขึ้นต้องได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดบ้าง ซึ่งก็คือความล้มเหลวในอดีตนั่นเอง แต่เขาจะไม่จมอยู่กับอดีต จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่ และก้าวต่อไปเสมอ
4 ไม่หมกมุ่นกับปัญหา
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์รู้ดีว่า ถ้าเขาจมอยู่กับเรื่องอะไร ก็จะได้อารมณ์แบบนั้น ถ้าหมกมุ่นอยู่กับปัญหา อารมณ์ก็จะออกมาเป็นลบอยู่ตลอดเวลา ความเครียดก็จะติดตามมา ทางที่ดีคือให้จดจ่ออยู่กับการลงมือทำ มุ่งมั่นแก้ปมปัญหาไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดอารมณ์มุ่งมั่นเชิงบวกมากกว่า
5 ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น
การอาฆาตแค้นมักจะคุกรุ่นอยู่ในใจเงียบๆตลอดเวลา เป็นอารมณ์ในแง่ลบที่ทำลายตัวเองอย่างเงียบๆ หากเราไม่ปล่อยวางความแค้น ก็คือไม่ยอมปล่อยมือจากความเครียด ในท้ายที่สุดก็จะส่งผลต่อร่างกาย ทั้งเรื่องความดัน โรคหัวใจ และจะนำพาอีกหลายโรคตามมา คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะไม่เคียดแค้น ชิงชัง หมดเรื่องก็จบกันไป จะไม่ยอมทำร้ายตัวเองด้วยความแค้นเป็นอันขาด
6 อยู่ห่างจากคนคิดลบ
เพราะคนคิดลบมักขี้บ่น เรียกร้องให้คนหันมารับรู้ความทุกข์และปัญหาของตน แทนที่จะเอามาเวลาในการพร่ำบ่นไปลงมือลงแรงสะสางงานและปัญหาให้ลุล่วง คนฉลาดจึงมักจะหลีกเลี่ยงและไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อ รับรู้ระบายเรื่องลบๆของคนคิดลบ
7 ไม่รับปาก ถ้าไม่อยากทำ
การฝืนใจทำหรือทำอะไรให้ใครด้วยความเกรงใจ ทั้งๆที่ใจตัวเองไม่อยากทำ รังแต่จะนำความทุกข์และเพิ่มความเครียด คนฉลาดทางอารมณ์จึงกล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองไม่พร้อมและไม่อยากทำ
ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นสิ่งที่คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์เลือกปฏิบัติอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับอารมณ์ด้านลบ มุ่งมั่นลงมือทำงานมากกว่าจะมาพร่ำบ่น คนเรานั้นมีปัญหาและอุปสรรคกันทุกคน หากมัวเอาแต่จมอยู่กับปัญหาและเรียกร้องให้คนหันมาสนใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี คนฉลาดเมื่อเจอปัญหาจึงเลือกที่จะแก้ปัญหาพร้อมๆกับเสริมสร้างพลังทางบวก ในท้ายที่สุดงานก็ได้อารมณ์ก็ดี เมื่ออารมณ์ดีก็จะไม่ถูกด้านมืดชักนำไปสู่เรื่องเลวร้ายทางลบ อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าคนเก่งและดี คนที่ใครๆก็ต้อนรับและต้องการ