การจัดการเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นี่มันก็น่าปวดหัวใช่ย่อยนะ ยิ่งคนไม่ถนัดเรื่องตัวเลขแล้วล่ะก็ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หากมีตัวช่วยเป็นสูตรหรือการคำนวณอะไรแบบง่าย ๆ สำเร็จรูปได้นี่ก็จะถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว อย่างการวางแผนการเงินที่บอกให้เริ่มตั้งแต่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย หากจดอย่างเดียวพอถึงเวลาจะรวมรายรับหรือรายจ่ายก็ต้องมากดเครื่องคิดเลขกันให้วุ่นวาย แถมทุกครั้งที่จะกลับมาดูก็อยู่ในบันทึก บางทีก็หาไม่เจอ ไม่ค่อยสะดวกอีกต่างหาก
หากใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยจัดเก็บข้อมูลและช่วยประมวลผลในสิ่งที่เราต้องการรู้ก็จะช่วยแบ่งเบาในเรื่องการวางแผนการเงินได้มากเลยทีเดียว เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ต้องมีการคำนวณก็ต้องโปรแกรม Excel เลย ถือเป็นโปรแกรมที่นิยมใช้กันต่อเนื่องมายาวนาน เป็นการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบตารางหรือ spreadsheet
-
สูตร Excel ที่แนะนำในวันนี้สำหรับมนุษย์เงินเดือนเป็นบัญชีรายรับรายจ่ายแบบง่าย ๆ ที่เราสามารถใช้โปรแกรม Excel ทำเองได้ ( โดยอ้างอิงที่มาจาก link ดาวน์โหลดได้เลย ) เป็นตาราง Excel ไว้บัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละวัน มีครบทั้ง 12 เดือน แถมแต่ละเดือนยังมียอดสรุปให้เราเห็นแบ่งค่าใช้จ่ายเป็นประเภทต่าง ๆ ด้วย
ตารางแรกจะเป็นข้อมูลรายรับรายจ่ายในแต่ละวัน เราสามารถเปลี่ยนแปลงประเภทของค่าใช้จ่ายให้เหมาะกับตัวเราได้ โดยค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจรวมแสดงไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
หลังจากที่เราบันทึกข้อมูลรายวันจนครบในแต่ละเดือน ใน sheet เดือนนั้น ๆ ก็จะมีการแสดงยอดสรุปของรายเดือนให้ด้วย ดังนี้ ทำให้เราทราบได้ว่าค่าใช้จ่ายของเราในส่วนใดที่เป็นสัดส่วนที่มากหรือน้อยอย่างไร
เราสามารถ download ไฟล์ที่เจ้าของกระทู้นี้ได้แบ่งปันไว้ และนำไปใช้สำหรับเริ่มบันทึกรายรับรายจ่ายของตัวเองทุกวัน โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องประเภทของค่าใช้จ่ายเพื่อให้เหมาะกับตัวเรามากขึ้น
-
อีกสูตรสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการใช้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เราจะต้องจ่ายของปีปัจจุบัน หากเรามีสูตรสำเร็จที่จะสามารถช่วยคำนวณภาษีได้ก่อนก็จะช่วยให้เราวางแผนในเรื่องของภาษีได้ดียิ่งขึ้น
โดยเราอาจใช้การคำนวณประมาณการเพื่อเป็นการพิจารณาซื้อกองทุนหรือประกันชีวิตเพิ่มเพื่อให้ได้ลดหย่อนภาษีมากขึ้น เป็นต้น สำหรับโปรแกรมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ( อ้างอิงจาก link มีให้ download file พร้อมคู่มือแนะนำการใช้การเพื่อนำมาใช้งานได้ทันที )
Sheet แรกจะเป็นการแนะนำการใช้งาน เราก็อ่านไป
Sheet ที่ 2 จะเป็นส่วนที่เราต้องกรอกข้อมูลลงไป เราก็ทยอยกรอกข้อมูลลงไป โดยค่อย ๆ ไล่กรอกและคอยอ่านคำแนะนำที่มีอยู่เป็นระยะ ถือว่าค่อนข้างละเอียดมากสำหรับโปรแกรมคำนวณภาษีนี้
เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนก็จะได้ผลการคำนวณภาษีเงินได้ออกมาที่ส่วนท้ายของ Sheet 2 ที่เรากรอกข้อมูลลงไป เราก็จะทราบได้ว่าภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายของเราไว้ มากกว่าหรือน้อยกว่าภาษีที่เราจะต้องจ่ายจริง เพื่อที่จะวางแผนในการประหยัดภาษีเพิ่มเติมได้อีก sheet ด้านหลังของไฟล์นี้ยังมีรายละเอียดในเรื่องการหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ เพื่อใช้อ้างอิงได้ด้วย หากใครสนใจก็ลองเข้าไป download ไฟล์เพื่อลองนำมาใช้งานดูได้
เดี๋ยวคนทำธุรกิจจะน้อยใจ สูตร Excel สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจก็มีเยอะเหมือนกัน ( โดยสามารถอ้างอิง และ download จาก link นี้ ได้ )
-
ที่จะนำมายกตัวอย่างให้เห็นในวันนี้ก็เป็นในเรื่องของการคำนวณเงินสมทบประกันสังคมของพนักงานและบริษัทที่ต้องส่งให้กับประกันสังคมทุกเดือนว่าจะต้องส่งเดือนละเท่าไหร่
โดยเงินสมทบนี้จะคิดที่ 5% ของเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน แต่ให้คิดที่ฐานเงินเดือนสูงสุดแค่ 15,000 บาท เท่านั้น หมายความว่า หากเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ก็สมทบประกันสังคม 5% ของเงินเดือน สำหรับเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท เป็นต้นไป ก็จะสมทบประกันสังคมสูงสุดแค่ 5% x 15,000 = 750 บาท เท่านั้น ก็ใส่สูตรคำนวณเข้าไปใน Excel เพื่อให้คำนวณให้เราได้อัตโนมัติ ดังนี้
-
อีกตัวอย่างสำหรับคนทำธุรกิจที่มีพนักงานโดยเฉพาะธุรกิจที่มีโรงงาน พนักงานอยู่ในสายการผลิตที่ต้องมีการทำงานล่วงเวลา สูตร Excel เพื่อคำนวณค่าล่วงเวลานี้ ก็จะช่วยในการคิดค่าจ้างรวมที่ต้องจ่ายให้กับพนักงานแต่ละคน
เนื่องจากเราทราบค่าล่วงเวลาตามที่กำหนดหมายกำหนดอยู่แล้วว่าบริษัทต้องจ่ายให้พนักงานอย่างไร เช่น หากทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ จะได้ 1.5 เท่าของเงินเดือน หากทำงานล่วงเวลาในวันหยุดเช่นวันอาทิตย์ ก็จะได้ค่าล่วงเวลา 2 เท่าของเงินเดือน และหากต้องมาทำงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะได้ค่าล่วงเวลา 3 เท่าของเงินเดือน
เราก็นำตัวเลขเหล่านี้เข้าไปคำนวณในสูตร Excel เพื่อให้ได้ผลออกมาดังนี้ เมื่อเรากรอกข้อมูลในส่วนของเงินเดือน และจำนวนวันที่ทำงานล่วงเวลาในแต่ละประเภทของวัน ค่าล่วงเวลาและเงินเดือนรวมค่าล่วงเวลาที่พนักงานแต่ละคนจะได้รับก็จะถูกคำนวณออกมาอัตโนมัติ
-
อีกสูตรที่ธุรกิจส่วนมากต้องใช้กัน ก็คือ ในเรื่องการตั้งราคาขายสินค้าเพื่อให้ได้กำไรตามเป้าหมายที่ต้องการ โดยสูตรที่นำมาเป็นตัวอย่างในวันนี้เป็นสูตรการตั้งราคาขายให้สูงขึ้นเพื่อให้ยังได้กำไรที่ต้องการและได้รองรับส่วนลดที่มีให้กับลูกค้าไปแล้ว
ข้อมูลที่ต้องกรอกก็จะเป็นต้นทุนของสินค้าแต่ละชนิด อัตรากำไรที่ต้องการ บวกด้วยค่าส่วนลดสินค้า และส่วนลดที่ต้องการลดให้กับลูกค้าเพิ่มอีก ราคาขายที่จะตั้งโดยบวกส่วนที่ต้องลดราคาให้กับลูกค้าแล้วก็จะถูกคำนวณจากสูตรอัตโนมัติ
เราสามารถ download excel ที่มีสูตรต่าง ๆ เหล่านี้มาใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากที่นำมาแสดงเป็นตัวอย่างก็ยังมีอีกมากมาย เช่น สูตรการคิดโบนัสให้กับพนักงาน สูตรการตั้งราคาสินค้า สูตรการคิดกำไรขาดทุน เป็นต้น มีคนทำไว้แล้ว เราก็แค่ศึกษาและเลือกนำมาใช้งานให้เหมาะกับตัวเราหรือบริษัทของเราได้แบบง่าย ๆ