ราคาทอง พุ่งไม่หยุด จากอะไร แนวโน้มในปี 2025 จะเป็นยังไงบ้าง?
แม้ไม่ได้เป็นสายสะสมทอง แต่ก็คงเห็นข่าวราคาทองที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่เข้าสู่ปี 2025 ที่ไต่ระดับไปกว่า 30% ด้วยปัจจัยหลักอย่างสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไม่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่จึงเลือก ทองคำ ที่มีความมั่นคงมากกว่า และถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงนี้แทน ในวันนี้เราก็จะพาไปเจาะประเด็นเพิ่มเติมว่า ราคาทอง พุ่งไม่หยุด จากอะไร แนวโน้มในปี 2025 จะเป็นยังไงบ้าง?
ราคาทอง 2025 พุ่งไม่หยุด จากอะไร?
1.นโยบายการเงินของสหรัฐฯ
เหล่านักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (The Federal Reserve – FED) จะเริ่มปรับดอกเบี้ยนโยบายภายในปี 2025 เพื่อตอบรับภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนโอกาสการถือครองทองคำสูงขึ้นกว่าเดิม
2.เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า
ในปี 2025 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงกว่า 9% ส่งผลให้ราคาทองคำที่ซื้อขายในสกุลดอลลาร์ถูกลงตามไปด้วย ผู้ถือเงินสกุลอื่น ๆ ซื้อได้ถูกลง จึงทำให้มีความต้องการทองคำทั่วโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3.สงครามการค้า สหรัฐฯ – จีน
ถือเป็นประเด็นร้อนแรงของโลก หลัก โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่ ในการเริ่มสงครามการค้ากับประเทศจีนเป็นหลัก ด้วยมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้า อีกทั้งความขัดแย้งบริเวณยุโรปตะวันออก และตะวันออกกลาง ทำให้นักลงทุนหันมาหาทองคำมากขึ้น
4.การลงทุนกองทุนทองคำทั่วโลก
เฉพาะช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 กองทุนทองคำ ETF ทั่วโลกมีเงินทุนลงเพิ่มมากถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศเพิ่มการซื้อทองคำสำรองอย่างต่อเนื่อ งเพื่อกระจายความเสี่ยงของสำรองเงินตราต่างประเทศ
5.ความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งภาวะสงครามการค้า สงครามด้านภูมิศาตร์ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง จึงทำให้เหล่านักลงทุนรายใหญ่ รายย่อยหันมาถือครองทองคำที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) แทน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
แนวโน้มราคาทอง ปี 2025 จะเป็นยังไง?
แนวโน้มราคาทอง 2025
ราคาทองวันนี้ (22 เมษายน 2025) ราคาทองคำ ทุบสถิติไต่ถึงระดับ 3,450 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งสูงกว่าที่หลาย ๆ สถาบันทางการเงินได้วิเคราะห์ไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 2 พันปลาย โดยทาง Economic Times รายงานว่าหากสถานการณ์สงครามการค้า สหรัฐฯ – จีน จะส่งผลให้ราคาทองพุ่งถึง 3,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในเร็ว ๆ นี้ และหากยิ่งยืดเยื้อไปเรื่อย ๆ ก็มีโอกาสแตะถึง 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้เลย
ปัจจัยที่ต้องจับตามอง
- การปรับดอกเบี้ยของ Fed หากยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจะกดดันทองคำให้ปรับตัวลงได้
- การฟื้นตัวของสกุลเงินดอลลาร์ หากดอลลาร์กลับมาแข็งค่า จะลดแรงหนุนการลงทุนในทองคำ
- สภาวะสงครามการค้า และภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงเหตุการณ์ใหม่ ๆ ที่อาจเพิ่มแรงซื้อทองคำเป็น safe haven อีกครั้ง
แนวทางสำหรับนักลงทุน
นักลงทุนทองคำทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ ควรพิจารณากระจายความเสี่ยงโดยถือครองทองคำควบคู่กับสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย และหมั่นติดตามข่าวนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญ เพื่อประเมินจังหวะเข้าซื้อ หรือขายทองคำได้อย่างเหมาะสม
สรุปแล้ว แนวโน้มทองคำในปี 2025 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยนโยบาย เงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งต่าง ๆ ที่หากยังคงมีความตึงเครียด และยืดเยื้อต่อไปเรื่อย ๆ ราคาทองคำก็อาจไต่จนทะลุกรอบบนที่นักวิเคราะห์หลายสำนักตั้งเป้าไว้ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ก็เป็นได้ ทั้งนี้หากอยากลงทุน ให้ศึกษาให้ดี ประเมินความเสี่ยง และวางแผนการเงินให้รัดกุม เพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต