ไม่ติด แบล็คลิสต์ ทำไม ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ต้องแก้ยังไง
เชื่อว่าหลายคนคงอยากทราบว่า แบล็คลิสต์ มีจริงไหม ไม่ติดแบล็คลิสต์ ทำไมขอสินเชื่อไม่ผ่าน ต้องแก้ยังไง อย่างที่ทราบกันดีว่า การติดเครดิตบูโร เป็นการแสดงถึงสถานะทางการเงินที่มีการค้างชำระหนี้ หรือไม่ ชำระหนี้ตามกำหนด ซึ่งข้อมูลทางการเงินเหล่านี้จะถูกจัดเก็บ และถูกรายงานข้อมูลทางการเงินจาก เครดิตบูโร
แบล็คลิสต์มีจริงไหม?
เครดิตบูโร เป็นการรายงานประวัติทางการเงิน โดยแสดงข้อมูลประวัติสินเชื่อว่า มีอะไรบ้างที่ผ่านมา เช่น ข้อมูลบัญชีสินเชื่อทั้งหมด ประเภท และเลขบัญชีสินเชื่อ วงเงินที่ได้รับอนุมัติ วงเงินที่ใช้ และรวมถึงสถานะการเงินที่มีค้างชำระหนี้อะไรบ้าง การชำระหนี้ตรงตามกำหนดไหม สำหรับข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ ได้แก่ ข้อมูล ส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เครดิตบูโร จะไม่มี การแสดงสถานะบัญชีเป็น แบล็คลิสต์ ของผู้กู้ หรือลูกหนี้ในเครดิตบูโร ซึ่งกล่าวได้ว่าแบล็คลิสต์นั้น ไม่มีอยู่จริงนั่นเอง
ไม่ติด แบล็คลิสต์ ทำไม ขอสินเชื่อไม่ผ่าน
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า เมื่อไม่ติด แบล็คลิสต์แต่ทำไม ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ซึ่งปัจจัยที่ใช้ประกอบในการ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั้น จากสาเหตุเหล่านี้ ได้แก่
- รายได้ ต้องเป็นผู้มีรายได้ประจำที่สม่ำเสมอตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งต้องแสดงรายการเดิน บัญชี ที่มีเงินเข้าบัญชีอย่างประจำสม่ำเสมอ และต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน เป็นต้น
- ภาระหนี้ การพิจารณาถึงความสามารถของการชำระหนี้ ธนาคารจะดูจากภาระหนี้ของผู้ยื่นขอ สินเชื่อ ต้องมีภาระหนี้ไม่เกิน 40% ของรายได้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
- ประวัติการชำระหนี้ ธนาคารจะพิจารณาถึงประวัติการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ หรือตรวจสอบ รายงานข้อมูลของเครดิตบูโร จะดูถึงวินัยในการชำระหนี้ที่ผ่านมาเพื่อใช้ประกอบการอนุมัติสินเชื่อ
การติดเครดิตบูโร หากมีการชำระหนี้ปิดบัญชีแล้ว ข้อมูลในเครดิตบูโร นับตั้งแต่ได้รับรายงานว่าปิดบัญชี เมื่อครบกำหนด 3 ปี บัญชีบัตรเครดิตจะถูกลบออกไปจากฐานระบบข้อมูลเครดิตบูโรโดยอัตโนมัติ
เคล็ดลับ วิธีขอสินเชื่อให้ผ่านง่ายขึ้น
เชื่อว่า หลายคนยังสงสัยว่า เมื่อไม่ติด แบล็คลิสต์แต่ทำไม ก็ยังขอสินเชื่อไม่ผ่าน วันนี้ เรามีเคล็ดลับ การขอ สินเชื่อให้ผ่านอนุมัติง่าย ก่อนขอสินเชื่อต้องทำอย่างไร ด้วย 4 วิธีขอสินเชื่อให้ผ่านง่ายขึ้น ทำตามนี้
- สร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี
การสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งบ่งบอกถึงวินัยทางการเงิน เช่น ไม่มีหนี้ค้างชำระ จ่ายหนี้ตามกำหนด เป็นต้น ดังนั้น การมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีตลอดมา จะมีรายงานในระบบเครดิตบูโรว่า เรามีหนี้ค้างจ่าย ไหม ค้างเท่าไหร่ มีสินเชื่ออะไรบ้าง จ่ายตามกำหนดไหม ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากประวัติการชำระหนี้ที่ ผ่านมา เพื่อประเมินถึงความสามารถในการชำระหนี้ หากได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว อาจเกิดเป็นหนี้เสียได้
- ประเมินความสามารถในการชำระหนี้
การขอสินเชื่อ โดยปกติธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อนั้น ธนาคารจะประเมิน ความสามารถในการชำระหนี้คืนของผู้ขอสินเชื่อ โดยดูจากภาระหนี้ในขณะนั้นต้องไม่เกิน 40% ของรายไดั ในแต่ละเดือน เพราะหากธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้ไป ก็ส่งผลต่อโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้
- ทำรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
เอกสารสำคัญอย่างหนึ่งในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ นั่นก็คือ ราย การเดินบัญชีแสดงรายได้อย่างสม่ำเสมอของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรายได้ที่ได้รับเป็นประจำอย่าง สม่ำเสมอทุกเดือน หรือการมีเงินฝากประจำอยู่ในบัญชีก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นทางการเงินที่ดี
- ไม่สร้างภาระหนี้
ควรสำรวจตัวเองก่อนขอสินเชื่อว่า ตัวเองมีภาระหนี้ตอนนี้มีอะไรบ้าง เพราะธนาคารจะเช็กเครดิตบูโร ดูว่า มีภาระผ่อนสินเชื่ออะไรบ้าง เมื่อจะขอสินเชื่อ ธนาคารก็จะประเมินถึงภาระหนี้สินที่กำลังผ่อนอยู่มีภาระอยู่ เท่าไหร่ มีภาระหนี้รวมต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ ดังนั้น ต้องเป็นหนี้ให้น้อยที่สุด ก่อนขอสินเชื่อคือดีที่สุด
สรุป แบล็คลิสต์ มีจริงไหม? ตอบคือ ไม่มีอยู่จริง! เมื่อไม่ติด แบล็คลิสต์แต่ทำไม ขอสินเชื่อไม่ผ่าน สำหรับ การพิจารณาสินเชื่อของธนาคารมีปัจจัยประกอบหลายอย่าง เกณฑ์สำคัญ ได้แก่ มีรายได้ตามเกณฑ์ที่ ธนาคารกำหนด ความสามารถในการชำระหนี้ และเครดิตบูโรทีดีเพื่อให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า ผู้ขอสินเชื่อ จะสามารถชำระหนี้ได้ตลอดสัญญา ไม่ผิดนัดกลายเป็นหนี้เสียในอนาคต