ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวสร้างผลกำไรและผลประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศเราอย่างมหาศาล เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ประคับประคองระบบเศรษฐกิจในภาพใหญ่ เป็นการดึงดูดให้เงินตราจากต่างประเทศให้เข้ามาใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจของเรา ถึงแม้จะมีสะดุดจากปัจจัยด้านการเมืองและด้านอื่น ๆ อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ยังเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่ในขณะเดียวกันทุกคนต่างทราบว่า มีปัญหาหนึ่งที่ลากยาวมาตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา
ปัญหา ไกด์ผี-ทัวร์เถื่อน เป็นปัญหาที่เหมือนจะอยู่ควบคู่มากับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากการที่มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนและรัสเซียเข้ามาทำตัวเป็นมัคคุเทศก์ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีทางได้รับอนุญาตเพราะอาชีพไกด์หรือมัคคุเทศก์เป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้กับคนไทยเพียงเท่านั้น การที่ผู้ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาทำอาชีพนี้ ทำให้เกิดปัญหามากมาย ถือว่า เป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างจริงจัง
อ่านเพิ่มเติม : รู้ทันสถานการณ์ การท่องเที่ยวของไทย ตลอดทั้งปี
เฝ้ามองปัญหาอย่างใกล้ชิด (แล้วหรือยัง)
ถ้าจำได้กันเมื่อ 7-8 ปีก่อนมีกลุ่มมัคคุเทศก์ ออกมาเรียกร้องสิทธิและขอให้มีการดำเนินการกำจัดกลุ่มไกด์เถื่อนให้หมดไป น่าเสียดายที่ตอนนั้นมีการเรียกร้องกันอย่างไร ณ ขณะนี้ก็ยังออกมาเรียกร้องออกมาเรียกร้องกันอย่างเดิม ยังไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด ทั้ง ๆ ที่ทุกคนรู้ว่า แหล่งสำคัญที่มัคคุเทศก์เถื่อนเหล่านี้ใช้เป็นแหล่งหากิน คือ แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ตและกรุงเทพฯ
ถึงจะรู้แหล่งการประกอบอาชีพของคนกลุ่มนี้ แล้วทำไมยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้สักที หรือจะเป็นเพราะคนไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้เท่าที่ควร แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นละก็ผิดถนัดเลย จากการสอบถามความคิดเห็นกลับพบว่า ร้อยละ 59.84 มีความเห็นส่วนตัวที่ว่า ปัญหาไกด์ผี-ทัวร์เถื่อนเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่วนอีกร้อยละ 27.17 คิดว่า เป็นปัญหาที่มีความรุนแรงระดับปานกลางและมีเพียงร้อยละ 12.99 ที่เห็นว่า เป็นปัญหาที่ไม่มีความสำคัญ เมื่อพิจารณาถึงความวิตกกังวลจากปัญหา พบว่า ร้อยละ 77.29 มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้
ระหว่างรอการแก้ไข ผลเสียก็เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง ผลกระทบจากปัญหานี้ค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาของกลุ่มไกด์ผี-ทัวร์เถื่อน สามารถแบ่งออก 4 ส่วนใหญ่ ๆ ได้กัน
- การเผยแพร่เอกลักษณ์ของไทยที่ไม่ถูกต้อง และมีความเป็นไปได้ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
- เป็นการแย่งอาชีพของคนไทยงผลทำให้รายได้ของผู้ประกอบอาชีพไกด์ถูกกฎหมายลดลง
- พฤติกรรมที่ไม่ดีของไกด์เถื่อนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของผู้ประกอบอาชีพไกด์ชาวไทย
- อาจมีปัญหาต้มตุ๋นและไม่รับผิดชอบนักท่องเที่ยว รวมถึงการข่มขู่ทำร้ายร่างกายไกด์-มัคคุเทศก์ตัวจริง
มองให้ลึกถึงแก่นแท้ของปัญหา
การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า ยังไม่ประสบผลสำเร็จที่ดีนัก หากถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปมากถึงร้อยละ 80.86 เห็นว่าการจัดการและกฎหมายของภาครัฐไม่มีความเด็ดขาด ร้อยละ 57.81 คิดว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากไกด์ผี-ทัวร์เถื่อน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่ถึง 10 คน มีความเป็นไปได้สูงจ้างไกด์ผี-ทัวร์เถื่อนที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าและมีความชำนาญด้านภาษาที่มากกว่า อีกร้อยละ 52.73 เห็นว่าจำนวนไกด์และบริการทัวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยไม่เพียงพอ และ ร้อยละ 48.44 มีความเห็นว่า การแก้ปัญหาที่ไม่ได้ผลเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทำการทุจริต
นอกเหนือไปกว่านั้นกลุ่มของไกด์และบริการทัวร์ที่ถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่ไม่มีความเชื่อมั่นต่อนโยบายการแก้ไขปัญหาของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนี้ได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขต่อภาครัฐ โดยควรมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้างวดและจริงจังกับบทลงโทษมากยิ่งขึ้น ควรมีการทำงานอย่างเต็มที่ในการสงวนอาชีพไกด์ไว้สำหรับคนไทย มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างกวดขัน เพื่อให้ปลอดการรับสินบน และเปิดการอบรมพัฒนาอาชีพไกด์ให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น
น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
จากข้อมูลที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้น เห็นได้ชัดว่าปัญหาไกด์ผี-ทัวร์เถื่อนเป็นปัญหาที่สร้างผลเสียให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามในขณะนี้ปัญหาที่ว่าจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ แต่จะว่าเล็กก็เล็ก เพราะถึงแม้จะสามารถสร้างผลเสียเป็นจำนวนมาก แต่หากมองในภาพใหญ่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยก็ใหญ่เกินกว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเรื่องนี้
ประเทศไทยโชคดีที่มีพื้นฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่แข็งแรง มีองค์ประกอบที่ครบถ้วนเท่าที่ประเทศหนึ่งจะมีได้ มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ธรรมชาติที่น่าค้นหา และชื่อเสียงที่สะสมมาอย่างยาวนานจนติดอันดับต้น ๆ ประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดของโลก ทำให้ยังคงมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวอย่างล้นหลามในแต่ละปี เมื่อคิดคำนวณดูแล้วในระยะสั้นปัญหานี้จะส่งผลเหมือนเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงให้เจ็บ ๆ คัน ๆ เล่น แต่ในระยะยาวหากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ความเจ็บ ๆ คัน ๆ จะค่อย ๆ เริ่มเป็นแผลที่เหวอะหวะมากยิ่งขึ้น
หากเป็นไปได้ ไม่ว่าใครก็อยากให้ปัญหานี้หมดไป เพื่อขจัดเสี้ยนหนามออกก่อนที่แผลจะกลัดหนอง และหวังว่า เสี้ยนหนามที่หยั่งรากลึกมาหลายปีนี้จะถูกถอนรากถอนโคนออกไปโดยเร็วที่สุด ก่อนกลายเป็นแผลที่ฉุดเอารากฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่แข็งแรงและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจอันหนึ่งของเราให้ตกต่ำล้มฟุบลงไปจนแก้ไขอะไรไม่ได้
