ประกันชีวิต ที่หลายๆคนสมัครกันไว้เพื่อหวังในการคุ้มครองชีวิตเมื่อเกิดปัญหาทางสุขภาพกันนั้น นอกจากจะสามารถคุ้มครองเราได้ในเวลาที่เราป่วยหรือประสบอุบัติเหตุแล้ว แต่เอ๊ะ ประกันชีวิตมันก็มีตั้งหลากหลายรูปแบบเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราอยากจะใช้ประกันชีวิตแบบไหน ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่าหนูแจ๋วมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ มาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า
ป้าจิน : อ้าวหนูแจ๋วไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีไหมคะ เป็นยังไงบ้างไปทำงานที่กรุงเทพ แล้วกลับมาทำอะไรล่ะเนี่ย งานยังไม่หยุดพักร้อนไม่ใช่หรอ
หนูแจ๋ว : สวัสดีค่ะป้าจิน ทำงานอยู่กรุงเทพก็สบายดีค่ะ ทำงานไปได้เรื่อยๆพอมีเงินเก็บบ้างช่วงนี้ ก็เหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไปอ่าแหละค่ะ
ป้าจิน : ดีแล้วล่ะแม่จะได้สบาย และตกลงกลับมาทำอะไรเนี่ย เห็นเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนก็เพิ่งมาไม่ใช่หรอ
หนูแจ๋ว : อ๋อ กลับมาทำ ประกันชีวิตสำหรับพ่อแม่ ค่ะ เวลามีปัญหาอะไรจะได้สบายๆ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องค่ารักษาพยาบาล หนูแจ๋วอยู่ไกลด้วยจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก
ป้าจิน : อืมก็ดีนะ แล้วจะทำประกันอะไรกันหรอ เผื่อป้าจะทำบ้าง นี่ก็อายุมากแล้วยังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้ลูกหลานเลย
อ่านเพิ่มเติม : > ทำ ประกันชีวิต จำเป็นแค่ไหน ? <
หนูแจ๋ว : จริงๆก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ รอไปคุยรายละเอียดอีกที แต่ก็เลือกไว้แล้ว 2 แบบเดี๋ยวให้พ่อกับแม่ตัดสินใจเอง
ป้าจิน : หนูแจ๋วเลือก ประกันชีวิตสำหรับพ่อแม่ อะไรไว้ลูก บอกป้าหน่อยสิ
หนูแจ๋ว : ตอนนี้เลือกเป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองทั้งการเจ็บป่วยกับอุบัติเหตุไว้ค่ะป้า เป็นประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ก็ยังลังเลอยู่ว่าจะทำแบบไหนดี เพราะก็น่าสนใจทั้งสองแบบเลย คงต้องให้พ่อกับแม่เลือกเองดีกว่าค่ะ
ป้าจิน : มันต่างกันยังไงบ้างหรอลูก ป้าเพิ่งรู้ว่ามันมีหลายอย่าง ทีแรกคิดว่ามีแต่ประกันชีวิตอย่างเดียว สำหรับคนสูงอายุแบบป้า
หนูแจ๋ว : ที่เห็นชัดๆเลยคือระยะเวลาในการคุ้มครองค่ะป้า แบบชั่วระยะเวลาหนึ่งมันจะคุ้มครองสั้นกว่าแบบตลอดชีพแล้ว เดี๋ยวอธิบายให้ฟังนะคะป้า คือ ไอ้ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งเนี่ย มันจะคุ้มครองเราแค่ช่วงเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เงินที่คุ้มครองก็จ่ายตอนที่ผู้ถือกรมธรรม์ประกันเสียในเวลาที่มันกำหนดเท่านั้น คือถ้าพ้นกำหนดแล้ว เราก็จะไม่ได้เงินประกันนั่นเอง ส่วนประกันชีวิตแบบตลอดชีพเนี่ยมันจะคุ้มครองชีวิตไปจนกว่าผู้ถือกรมธรรม์ประกันจะเสียชีวิตลงหรืออยู่จนครบกำหนดตามสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตนั่นแหล่ะป้า
ป้าจิน : แล้วเราต้องจ่ายเงินเท่ากันไหมเนี่ย หรือว่าประกันแบบไหนที่ถูกกว่ากัน
หนูแจ๋ว : เอาจริงๆมันขึ้นอยู่กับวงเงินที่คุ้มครองเราอยู่ด้วยนะป้า ยิ่งเรามีวงเงินคุ้มครองเยอะ เงินที่ต้องจ่ายให้บริษัทประกันก็แพงตามไปด้วย แต่ถ้าสมมิตว่าเราจะตัดสินใจเลือกประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่มีวงเงินคุ้มครองเท่ากันเนี่ย ตัวประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งจะมีเบี้ยถูกกว่าประกันชีวิตแบบตลอดชีพเล็กน้อย ในขณะที่วงเงินสูงสุดของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะเท่ากัน และอีกอย่างที่สำคัญคือทั้งประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งและประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จะมีการจ่ายเงินบริษัทประกันเป็นงวดในจำนวนที่คงที่เหมือนกันด้วยค่ะป้า ซึ่งถ้าหากคิดดีๆ ในระยะยาว กระกันแบบตลอดชีพก็น่าจะคุ้มกว่ามากทีเดียว
ป้าจิน : แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ยว่าเราควรจะทำประกันแบบไหน
หนูแจ๋ว : อย่างแรกก็ต้องดูความเสี่ยงในการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของเราก่อนค่ะ เพราะประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งจะเหมาะกับคนที่มีความเสี่ยงสูง และต้องการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวหลังจากตนเองเสียชีวิตหรือบาดเจ็บนั่นเอง ในขณะที่ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จะคล้ายกับการประกันไว้เพื่อคุ้มครองตนเอง สร้างความมั่นคงให้คนข้างหลังในลักษณะของการทำมรดกไว้ให้ลูกหลานด้วยค่ะป้า เพราะประกันชีวิตแบบตลอดชีพมันจ่ายเบี้ยสูงกว่านิดหน่อยด้วยแหล่ะ เลยทำให้ได้เงินตอนหมดสัญญาหรือการจ่ายเงินชดเชยให้เราได้ในจำนวนที่มากกว่านั่นเอง
จริงๆที่ยังลังเลไม่รู้จะเลือกอะไร ระหว่างประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพก็เพราะว่ามันจ่ายพอๆกันเลยค่ะ แต่ดูจากพวกโรคร่วมกับงานที่พ่อแม่ทำแล้วหนูอาจจะเลือกประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แทนเพราะพ่อแม่ไม่ได้เป็นโรคอะไร อาชีพก็ปลอดภัยดี ประกันชีวิตแบบตลอดชีพก็น่าจะดีกว่าเพราะคุ้มครองได้นานกว่า ไม่เปลืองเงินมากเท่ากับทำประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งหลายๆรอบด้วยค่ะ แต่ยังไงก็ต้องรอถามเจ้าตัวอีกทีอยู่ดี
ป้าจิน : โอ้ย ป้าว่าพ่อแม่หนูแจ๋วก็คงว่าตามหนูแจ๋วนั่นแหล่ะน่า เราก็เลือกไปเลยดีกว่าไหม
ประกันชีวิตสำหรับพ่อแม่ หรือผู้สูงอายุ มี 2 แบบหลักๆ เลยคือ ประกันแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งและประกันแบบตลอดชีพนั่นเอง ซึ่งการเลือกประกันนั้น ควรเลือกที่เหมาะกับตัวเองที่สุด โดยดูได้จากสุขภาพและหน้าที่การงานของผู้จ่ายประกันนั่นเอง แต่ทั้งนี้อย่าลืมอ่านสัญญาให้ครบถ้วนทุกครั้ง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวคุณเอง และเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกโกงนั่นเอง