ปัญหาโลกแตกของมนุษย์เงินเดือนที่ต่างต้องการชักหน้าให้ถึงหลัง หลายๆคนประสบปัญหาเงินเดือนหรือรายรับไม่พอกับรายจ่าย แล้วเราจะทำอย่างไรกับปัญหาโลกแตกนี้ดีล่ะ เพราะแต่ละคนพื้นฐานรายได้ไม่เท่ากัน รายจ่ายไม่เท่ากัน แล้วจะแก้ปัญหา บริหารรายรับรายจ่าย อย่างไร
อ่านเพิ่มเติม >>> ปรับปรุง การเงิน เริ่มจากในครอบครัว <<<
ก่อนอื่นต้อง แจกแจงรายจ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายประจำทุกๆเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร หากมีลูกก็ต้องรวมรายจ่ายของลูกเข้ามาด้วย แล้วก็มาดูรายรับว่าทั้งครอบครัวมีรายรับเท่าไหร่ อันนี้ขอให้รวมหมดหากอยู่เป็นครอบครัวแบบสามี ภรรยา เพราะหากต้องการให้ครอบครัวอยู่รอดต้องร่วมกันรับ ร่วมกันจ่าย หลังจากลิสต์รายการรายรับรายจ่ายแล้ว เราก็มาดูว่ารายจ่ายนั้นมีอะไรบ้างที่ต้องชำระทุกเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายให้ลูกไปเรียน (หากมี) ค่าอาหารต่อวัน (ทั้งครอบครัว) หนี้สินต่างๆ รวมยอดนี้ไว้เป็นรายจ่ายประจำ ว่าแต่ละเดือนอยู่ประมาณเท่าไหร่ให้บวกเผื่อไว้สัก 10% เพราะบางรายการอาจมีเพิ่มได้ หลังจากนั้นก็มีดูค่าใช้จ่ายอื่นๆ จิปาถะ เช่น ค่าใช้จ่ายไปทำงาน ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ซึ่งบางรายการนั้นสามารถลดทอนได้ในเดือนถัดไป
ให้นำยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาหักลบกับรายได้ ดูว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่ หรือ ติดลบเท่าไหร่ เราก็มาดูว่ารายการไหนที่เราสามารถลดทอนได้ เช่น ค่าใช้จ่ายประจำวันมีรายการไหนที่เราจะประหยัดได้บ้าง สามารถลดรายจ่ายอันไหนลงได้บ้าง เพื่อให้มีเงินรายรับเหลือไว้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน ซึ่งทั้งหมดนี้ทั้งครอบครัวต้องช่วยกัน เพราะในปัจจุบันบางครอบครัวนิยมกระเป๋าใครกระเป๋ามัน แบ่งภาระกันไปตามสัดส่วนของรายได้ ซึ่งความจริงแล้วมันก็ทำได้ หากสามี และ ภรรยา นั้นรายรับของแต่ละคนมากพอสมควร
แต่บางครอบครัวรายได้น้อยทั้งคู่ หรือ รายได้สูงต่ำต่างกัน ปัญหาก็จะเกิดขึ้นเพราะอีกฝ่ายจะคิดว่าแบกรับภาระมากเกินไป ทำให้รู้สึกว่าเงินไม่พอใช้ ซึ่งหากสามารถนำรายรับแต่ละคนมารวมกันได้จะทำให้รายรับของครอบครัวชัดเจนมากขึ้นว่ามีเท่าไหร่ รายจ่ายในครอบครัวที่ต้องจ่ายจริงๆมีเท่าไหร่ ซึ่งหากครอบครัวมีภาระหนี้สินการรวมรายรับจะช่วยให้มีเงินจ่ายภาระต่างๆได้เพิ่มขึ้น และ ลดการกู้หนี้ยืมสิน หรือ หนี้บัตรต่างๆได้ เพราะหากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจ่ายมากกว่า แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่เงินไม่พอ และ อีกฝ่ายไม่ให้ปัญหากู้หนี้ยืมสินต้องเกิดขึ้นแน่นอน และหลายๆครอบครัวประสบปัญหานี้จนหาทางแก้ไม่ได้ก็มี
ดังนั้น ตกลงปลงใจอยู่กันเป็นครอบครัวแล้วสิ่งสำคัญคือต้องร่วมกันรับผิดชอบกับภาระในครอบครัว จัดสรรเงินรายได้เข้าครอบครัวเป็นกองกลาง โดยอาจจะแบ่งไว้ใช้ส่วนตัวบ้าง ซึ่งต้องตกลงกันให้ดีๆว่าจะนำเงินรายได้เข้ากองกลางเท่าไหร่ เก็บเงินออมสำหรับครอบครัวเท่าไหร่สำหรับไว้ใช้ในอนาคต แม้ว่าแต่ละฝ่ายจะมีรายได้ของตัวเองและคิดว่าแบ่งกันจ่ายได้ไม่มีปัญหา แต่อย่าลืมนึกถึงอนาคตหากมีลูกค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น ใครจะรับผิดชอบส่วนไหนอย่างไร
ดังนั้นหากสามารถนำรายรับของแต่ละคนมาเป็นเงินกองกลางสำหรับครอบครัวจะช่วยให้แต่ละฝ่ายไม่ต้องแบกภาระไว้ฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะมีรายได้มาก หรือ รายได้น้อย ก็สามารถทำได้เพราะการรวมรายได้ของแต่ละคนเข้ากองกลางนั้นจะช่วยให้อยู่รอดได้ทั้งครอบครัว หรือ หากมีหนี้สินก็ต้องรับรู้กันทั้งสองฝ่าย ว่าหนี้นั้นเกิดจากอะไร การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือ ภาระจำเป็นในครอบครัว เพราะหากเกิดปัญหาจะได้ช่วยกันหาทางแก้ไข ดีกว่าการที่เป็นหนี้แล้วไม่บอกรู้อีกทีหนี้ท่วมตัวหาทางแก้ไม่ได้ หลายครอบครัวต้องแตกเพราะหนี้สินก็มีเยอะ หลายครอบครัวต้องขายบ้านเพราะหนี้ที่อีกฝ่ายไปก่อไว้โดยไม่บอกก็มีเยอะ การใช้ชีวิตคู่หรือชีวิตครอบครัว มีรายรับก็ต้องแบ่งปัน มีรายจ่ายก็ต้องจ่ายร่วมกัน มันถึงจะไปรอด