การบริหารและจัดการเรื่องเงินนั้นเป็นสิ่งที่คนเราจำเป็นต้องเรียนรู้และหัดทำความเข้าใจเอาไว้ หากคนเราสามารถ บริหารเงิน ของตนเองให้ลงตัวได้ อนาคตวันข้างหน้าก็ไม่มีวันติดขัดเรื่องเงินอย่างแน่นอน การบริหารและจัดการเรื่องเงินนั้นไม่ใช่เป็นสิ่งที่คนรวยจำเป็นต้องทำกันเท่านั้น ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือเงินน้อยก็ต้องรู้จักบริหารจัดการให้เป็นเช่นเดียวกัน การบริหารจัดการเงินนั้นเริ่มต้นไม่ยากสามารถนำไปจัดการกับเงินไม่ว่าจะเป็นเงินพัน เงินหมื่น เงินแสน หรือเงินล้านได้ทั้งหมด แต่ก่อนไป บริหารเงิน เป็นจำนวนมากก็ต้องเริ่มต้นจัดการเงินน้อยให้ได้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น การบริหารเงิน 1,000 บาท จะต้องบริหารจัดการให้ได้ดังนี้
เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกการบันทึกรายรับ-รายจ่าย เป็นวิธีการเริ่มต้นวางแผนการเงินแบบเบสิกที่สุดที่ใครก็สามารถเริ่มต้นได้ แต่ความยากของการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายก็คือจะสามารถทำอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่นั่นเอง คนส่วนใหญ่จะเริ่มต้นได้อย่างสวยงามและตั้งใจ แต่เมื่อทำไปไม่นานก็เริ่มเบื่อทำ เมื่อนึกขึ้นได้จึงจะกลับมาจดบันทึกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างมาก ควรฝึกให้เป็นนิสัยและทำให้กลายเป็นความคุ้นเคยและเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวัน
การจัดการเงินเพียงแค่ 1,000 บาท นั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่ถ้าหากจะให้ใช้เงินจำนวนนี้ให้อยู่รอดทั้งเดือนคงเป็นเรื่องยากมากพอสมควร ดังนั้น บริหารจัดการเพียงแค่ 1 สัปดาห์กับเงินจำนวนนี้ก็พอ เงินส่วนนี้อาจจะเป็นส่วนของรายได้เสริมที่อาจจะหาได้ในระหว่างช่วงเดือน บางคนมีความสามารถใช้เงินจำนวนนี้ให้หมดภายในหนึ่งวันเท่านั้น ความสามารถในด้านนี้คือการใช้เงินอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังคิดว่าหาได้เท่าไรก็ใช้ให้หมดแล้วค่อยหาเอาใหม่ มันเป็นความคิดและความสามารถของผู้ที่ไม่เคยมองเห็นถึงอนาคตวันข้างหน้าเลย ความจริงเงินจำนวนนี้สามารถใช้จ่ายให้อยู่รอดตลอดทั้งสัปดาห์ได้เลยในบางคน เพราะแบ่งส่วนนำมากินใช้แต่ละวันภายในสัปดาห์ให้ลงตัว เช่น 1 สัปดาห์มีทั้งหมด 7 วัน ใช้เงินเพียงแค่วันละ 100-120 บาทเท่านั้น ส่วนเงินที่เหลือก็เป็นส่วนของเงินเก็บเพราะต้องจำไว้ว่าไม่ว่าจะมีรายได้เข้ามาเท่าไรก็ต้องแบ่งส่วนของเงินเก็บเอาไว้ทุกครั้ง
เมื่อแบ่งเงินใช้จ่ายรายวันภายในหนึ่งสัปดาห์ได้แล้ว ก็ต้องแบ่งเงินเพื่อพกติดตัวแค่วันต่อวันเท่านั้น เพื่อเป็นการบังคับตนเองในตัวไม่ให้ใช้เงินเกินที่กำหนดเอาไว้ เพราะหากพกทั้งหมดติดกระเป๋าเอาไว้จะต้องมีสักวันที่ใช้เงินเกินงบที่ตั้งเอาไว้อย่างแน่นอน เงิน 100-120 บาทต่อวันนั้น หากใช้อย่างประหยัดก็สามารถใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ เพราะแต่ละที่ทำงานก็จะมีโรงอาหารและร้านอาหารราคาพนักงานไว้คอยบริการทั้งนั้น ราคาอาหารการกินก็ไม่แพงเท่าร้านภายนอก ดังนั้น รับประทานอาหารที่มีจำหน่ายอยู่ในที่ทำงานก็เป็นการช่วยประหยัดได้มากที่สุด เรื่องเครื่องดื่มที่ไม่มีความจำเป็นก็ตัดออกไป เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น ดื่มน้ำเปล่าได้ ทั้งประหยัดและได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย ขนมหรือของขบเคี้ยวเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายตัดทิ้งได้ก็ตัดออกไปเพียงแค่นี้เงินก็พอกินพอใช้ ยิ่งหากที่ทำงานกับที่พักไม่ได้ไกลกันก็ประหยัดค่าเดินทางได้เพิ่มอีก บางคนสามารถใช้เงินเหลือและกลับมาเพิ่มในส่วนของเงินเก็บทุกวันได้อีกด้วย
เมื่อมีเงินส่วนที่ใช้จ่ายในเวลาไปทำงานแล้ว ต้องมีสักวันในหนึ่งสัปดาห์ได้หยุดงาน เมื่อหยุดงานการรับประทานอาหารนอกบ้านก็ไม่จำเป็น ใช้งบประมาณที่ตั้งเอาไว้ซื้อกับข้าวเพื่อนำมาปรุงรับประทานเอง คุ้มค่า คุ้มราคาได้รับประทานอาหารฝีมือตนเองอีก ทั้งยังสามารถรับประทานได้ทั้งวัน หากไปรับประทานอาหารตามร้านเงินเพียง 100-120 บาทต่อวัน คงรับประทานได้แค่ 1-2 มื้อเท่านั้น การทำอาหารรับประทานเองที่บ้านจึงเป็นวิธีเชื่อมความสัมพันธ์คนในครอบครัว และยังช่วยประหยัดเงินในเรื่องอาหารการกินของวันหยุดได้อีกด้วย
เงิน 1,000 บาท อาจจะเพียงพอแค่การใช้จ่ายในการทำงานเพียงคนเดียวในหนึ่งสัปดาห์แต่หากกินใช้ทั้งครอบครัวอาจจะได้เต็มที่แค่ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับว่าในครอบครัวมีกี่คนและใช้จ่ายอะไรกันบ้าง เมื่อสามารถจัดการบริหารเรื่องเงินให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ อนาคตวันข้างหน้าจะไม่มีวันติดขัดเรื่องการเงินอย่างแน่นอน
สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้เอาไว้เสมอก็ คือ ต้องห้ามตนเองให้ได้ในการใช้เงิน ไม่ใช่ว่าหาได้เท่าไรก็กินใช้จนหมดและวันข้างหน้าก็ไม่มีกินมีใช้ อิ่ม และมีความสุขแค่วันเดียว แต่วันข้างหน้าต้องลำบากเป็นการบริหารเงินที่ผิด หากใครที่ยังคงมีพฤติกรรมการใช้เงินเช่นที่กล่าวมาก็ต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเองได้แล้ว ยิ่งเงินหายากมากเท่าไรก็ต้องรู้จักคุณค่าของเงินให้มากอย่ารักสบายแค่วันเดียว แต่ต้องคิดทำให้ตนเองอยู่ได้อย่างสบายในทุก ๆ วัน หากลองสังเกตให้ดีจะพบว่าผู้ที่มีนิสัยในการออมและวางแผนการเงินได้ดีจะมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าคนอื่นอยู่หลายก้าว อนาคตของคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะสามารถอยู่กินได้อย่างสุขสบายหรือบางคนก็สามารถมีธุรกิจเป็นของตนเองจากเงินออมและเงินสะสมของตนเองที่เริ่มต้นทำมาโดยตลอดจนเห็นถึงความเป็นจริงในวันหนึ่ง