ความเครียดนี่ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ นะ เพราะนอกจากคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ หรือทั้งสองคนที่จะต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับคนในบ้าน ซึ่งหากทำงานได้เงินดีๆ สองคนรวมกันก็คงจะอยู่ได้แบบพอ เพียง ยิ่งไม่เป็นหนี้เป็นสินด้วยแล้ว อาจจะมีความสุขไม่น้อย อย่าว่าแต่ความเครียดเยือนพ่อกับแม่เลย ลูก ๆบางคนทีเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ อาจจะเครียดตามไปด้วย เพราะอยู่ในช่วงรอรับปริญญา ซึ่งบางคนอาจจะหางานยังไม่ได้ ทำให้รู้สึกกดดันมากมาย เพราะต้องการนำความรู้ที่เรียนมานำมาใช้กับงานนั่นเอง ประกอบกับหากมีงานทำแล้ว ก็จะได้ไม่เป็นภาระพ่อแม่ และจะได้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบ้านอีกด้วย
ส่วนเด็กจบใหม่บางคนที่ได้งานทำเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ย่อมจะดีใจเป็นธรรมดา แต่ก็ใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไป..เพราะจัดสรรชีวิตและการใช้จ่ายที่ไม่มีระบบ หรือใช้จ่ายเกินตัว ส่วนหนึ่งในช่วงวัยเรียน อาจจะถูกจำกัดค่าใช้จ่ายมากมาย อยากได้อะไรก็ไม่ได้ ทั้งค่ารถ ค่ากิน จะกินของแพงๆ หรู ๆ เหมือนเพื่อนก็มีเงินไม่พอ ได้แต่เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ เรียกว่ามันประดังอยู่ในใจทุกอย่าง
และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนของเด็กจบใหม่ กับการมีเงินเดือนใช้เป็นของตัวเองซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกสำหรับหลาย ๆ คนที่ได้สัมผัสรายได้ครั้งแรก สิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับเด็กจบใหม่ส่วนใหญ่คือการได้รับเงินเดือนก้อนแรก และก้อนต่อ ๆไป ที่เรียกได้ว่าเป็นจำนวนเงินที่ได้รับมากกว่าค่าขนมที่เคยได้ตอนเรียน เมื่อเงินอยู่ในมืออะไรที่อยากได้อยากมีก็จะรีบหาซื้อเพื่อทดแทนในช่วงที่ตอนไม่เคยมีไม่เคยได้ ว่าแล้วก็ถอยโทรศัพท์ใหม่ กระเป๋าใบใหม่ บางคนถึงขนาดผ่อนรถยนต์กันเลยทีเดียว เพราะในวัยเรียนจะรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนคนไหนมีรถขับมันดูเท่ดี และไปไหนมาไหนก็สะดวก พอ ทำงานมีเงินเป็นของตัวเองก็เลยอยากมีบ้าง เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้เด็กจบใหม่มากกว่าครึ่งมีการเริ่มต้นชีวิตมนุษย์เงินเดือนแบบเดือนชนเดือนทันที แล้วพอชีวิตเริ่มชินกับมาตรฐานการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะทำให้พวกเขาจะกลับมาเก็บเงินเพื่อให้มีเงินออมได้
แปลกมั๊ย??? ว่าทำไม ตอนที่เรียนหนังสืออยู่ค่าขนมก็ไม่ได้เยอะกว่าเงินเดือน หรือได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงอยู่รอดมาได้ทุกเดือน ๆ แต่พอเริ่มทำงานกลับรู้สึกว่าไม่เคยพอ…สำหรับใครที่กำลังเข้าสู่วัยทำงานสิ่งแรกที่อยากให้ทำก็คือเมื่อคุณมีเงินเดือนออกมา อยากได้ให้รู้จักเก็บเงินออกมาก่อนใช้เสมอเมื่อได้รับเงินเดือน เพราะชีวิตต่อจากนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จำเป็นต้องใช้เงินทั้งนั้น แม้อยากจะมี Passive Income ก็จำเป็นต้องเก็บเงินแล้วลงทุนให้เป็นเพื่อสร้างสินทรัพย์ในการสร้างรายได้ให้กับเราอยู่ดี
ทำอย่างไรให้มีเงินออมสำหรับเด็กจบใหม่
ปัญหาของเด็กจบใหม่ น่าจะเป็นว่าไม่รู้จะทำยังไงให้ออมเงินได้เยอะ ๆ เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็มีแต่ของที่อยากได้เยอะแยะไปหมดไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า โทรศัพท์ คอนโด หรือแม้แต่รถยนต์ บอกได้เลยว่าเยอะมาก แล้วไหนจะทำงานเหนื่อยในแต่ละวันอีก แล้วก็ต้องให้รางวัลชีวิตบ้าง ? เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยเกิดปัญหากับเด็กจบใหม่ทำให้กลายเป็นวงจรแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งความจริงแล้วมันก็มีวิธีที่ส่วนให้เด็กจบใหม่สามารถหาวิธีออมเงินได้เยอะนะหากรู้จักวิธีออม
- หักเงินออมออกไปก่อนเสมอเมื่อได้รับเงินเดือนครั้งแรก
หากต้องการมีเงินเก็บจริง ๆ ควรทำการหักเงินออมออกไปก่อนเสมอเมื่อได้รับเงินเดือนครั้งแรก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ธรรมดามากและได้ผลที่สุดในวิธีการทั้งหมดที่จะทำให้คุณมีเงินออม แต่เชื่อมั้ย?? ลองไปถามคนที่ไม่มีเงินออมดูสิ บอกเลยว่าเกิน 90% ต้องตอบว่าเงินออมคือเงินส่วนที่เหลือจากใช้จ่ายแล้ว ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ลองคิดดูว่าหากคุณอยากเปลี่ยน แปลงผลลัพธ์อะไรสักอย่าง คุณก็ควรเริ่มแก้ที่ต้นเหตุนั่นล่ะ
- ใช้โปรแกรมออมเงิน
วิธีนี้จะเป็นวิธีที่โหดขึ้นมาหน่อยและเหมาะสมสำหรับคนที่หักห้ามใจไม่ค่อยอยู่หรืสำหรับคนมือเติบ หากคุณออมเงินเองไม่ได้ลองใช้วิธีติดต่อกับ บลจ. หรือ ธนาคารก็ได้ว่าอยากเปิดโปรแกรมออมเงินหรือโปรแกรมหักเงินลงทุนอัตโนมัติ จากนั้นก็เลือกสินทรัพย์ที่คุณอยากลงทุนอย่างพวก LTF หรือ RMF หรือจะเป็นกองทุนอื่นๆ ก็ได้ แต่ให้ธนาคารหักแบบอัตโนมัติเพื่อทำการลงทุนไปเลย ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าลองแยกบัญชีดูดีกว่าแบบแยกเก็บ ซึ่งเชื่อเหอะว่าสุดท้ายก็เอาไปถอนออกมาใช้อยู่ดี แนะนำให้ไปลงทุนแบบถอนยาก ๆ แบบพวกกองทุน LTF ดีกว่า เพราะต้องรอ 7 ปีกว่าจะถอนออกมาได้ ซึ่งก็ดีนะจะได้เป็นการชัวร์ว่าคุณจะมีเงินเก็บแน่ ๆ
- หักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เต็ม!
วิธีพิเศษสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สามารถเก็บเงินออมก็คือ เพราะการหักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทำได้เฉพาะพนักงานประจำเท่านั้นซึ่งจะสามารถหักออมได้ ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพปกติจะหักออมได้ 2-15% แต่ลองใช้วิธีหักออมให้เต็มไปเลยที่ 15% บางบริษัทจ่ายสมทบให้สูงสุดอีก 15% นั่นแปลว่าในแต่ละเดือนคุณจะมีเงินออมสูงถึง 30% ต่อเดือน!
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Rabbit finance