พลิกวิกฤตเป็นโอกาสช่วงน้ำท่วม

ช่วงนี้ปลายฤดูฝนอย่างนี้เชื่อว่าทั่วทั้งประเทศไทยเราคงกำลังเผชิญกับฝนตกหนักกันอย่างถ้วนหน้ากัน มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่พื้นที่ บางพื้นที่อาจจะตกไม่มากนัก แต่บางพื้นที่ต้องประกาศเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าน้ำท่วมอย่างนี้พี่น้องเกษตรกรหลายคนอาจจะออกไปทำการเกษตรไม่ได้ ได้แต่มองดูและภาวนาไม่ให้น้ำท่วมจนพืชสวนไร่นาเสียหาย แต่บางคนกลับมองวิกฤตตรงนี้เป็นโอกาสในการทำรายได้

อ่านเพิ่มเติม : น้องน้ำจะมาไหม ! เตรียมตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับน้ำท่วม

พักงานเกษตรมาเป็นชาวประมง

โดยโอกาสที่เราพูดถึงกันในวันนี้ก็คือ การออกไปจับปลาแทนการลงมือทำการเกษตร หากใครที่อยู่ตามต่างจังหวัดจะเห็นว่า ตอนนี้บริเวณไหนที่เป็นเวิ้งน้ำกว้างใหญ่ หรือ เป็นบริเวณสะพาน เราจะเห็นชาวบ้านหลายคนออกมาจับปลากันอย่างคึกคักทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจับด้วยเบ็ด จับด้วยแห หรือจับด้วยอะไรก็ตาม ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการเป็นเกษตรกรในเทือกสวนไร่นา มาเป็นชาวประมงน้ำจืดกัน

จับปลา แล้วปลามาจากไหน

คำถามแรกที่หลายคนสงสัยก็คือว่า ชาวประมงน้ำจืดจำเป็นอย่างนี้ จะไปจับปลาจากไหน คำตอบก็คือ ปลาจะมาจากสองแหล่งด้วยกัน หนึ่งปลาที่อยู่ในแหล่งน้ำตามธรรรมชาติอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ห้วย หนอง คลอง บึง ทีนี้เมื่อน้ำฝนมาหนุนทำให้ปลาเหล่านั้นขึ้นมาอยู่เหนือน้ำมากขึ้น หรือบางทีน้ำก็พัดปลามาทางอื่นด้วย ทำให้จับได้ง่าย กับสองเป็นปลาที่อยู่ในบ่อเลี้ยงของคนในพื้นที่ตอนแรกก็อยู่อย่างมิดชิดี ทีนี้พอน้ำมามากเข้า ก็เข้าไปเพิ่มจนล้น พอล้นปลาก็ออกไปข้างนอกบ่อ ไปรวมกับมวลน้ำที่พัดมา ก็เลยกลายเป็นแหล่งชุกชมของปลาไป

รายได้ของการจับปลา

มาดูกันที่เรื่องของรายได้กันบ้าง แน่นอนว่าอาชีพเสริมอย่างนี้ ต้องบอกเลยว่าใครดีใครได้จริงๆ แต่ว่ารายได้ของการจับปลาก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อเหมือนกัน โดยราคาของปลาที่จับได้นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาทเป็นต้นไป เกษตรกรบางคนหากเลือกทำเลดีๆ บวกกับโชคนิดหน่อย อาจจะจับปลาได้มากถึงวันละ 10-15 กิโลกรัมต่อวันเลยทีเดียว คิดเป็นเงินก็อยู่ที่ 600-1,000 บาทกันเลย ก็ถือว่าพอมีรายได้มาช่วยเหลือและเสริมสภาพคล่องได้เหมือนกัน ส่วนบริเวณที่ขายนี่ก็แล้วแต่ บางคนก็ขายกันตรงที่จับเลย(ตรงถนน) แต่บางคนก็รวบรวมเอาไปขายที่ตลาดในชุมชนอีกทีหนึ่ง ซึ่งมีการอัพราคาขึ้นไปเบาๆ

อุปกรณ์การหาปลาขายดี

น้ำท่วมคราวนี้ไม่เพียงแต่เกษตรกรจะหันมาเหวี่ยงแหกันแล้ว บรรดาร้านค้าขายของต่างๆก็ขายดีไม่แพ้กันด้วย โดยอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจับปลาจะขายดีเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น แหขนาดต่างๆ คันเบ็ด รอก หรือ อุปกรณ์จับปลาอื่น ต่างขายดีกันจนของหมดร้านกันเลย นอกจากนั้นอุปกรณ์เสริมอื่นก็ขายดีด้วย ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ไฟฉายที่คาดหน้าผาก ถือว่าขายดีไม่แพ้กัน เพราะคนหาปลาเค้าหากันไม่เว้นแม้แต่ตอนกลางคืน

ไม่เพียงแต่ปลาที่หากันเยอะ

นอกจากปลาแล้วสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ กบ และอึ่งอ่าง ที่มักจะออกมาตอนที่ฝนตกอย่างนี้แหละ บางที่ร้องกันสนั่นเลย แล้วก็แน่นอนสำหรับคนขยันแล้วนี่คือโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง พวกเค้าจึงไม่พลาดที่จะออกไปจับกบ จับอึ่งอ่างกันด้วย บางครั้งขับไปตามถนนนี่กระโดดกัน พึ่บพับเลยทีเดียว ส่วนเรื่องของราคาอาจจะเป็นรองปลาอยู่พอสมควร แต่หากรวมกันเยอะๆเข้าก็สร้างรายได้ให้พอตัวเหมือนกัน

อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย

แต่การออกไปจับปลาช่วงน้ำท่วมอย่างนี้ แน่นอนว่ามันเป็นโอกาสที่ไม่ได้มาบ่อยๆ เลยทำให้หลายคนรีบออกไปคว้าเอาไว้ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเตือนพี่น้องที่ออกไปจับสัตว์เหล่านี้ก็คือ เรื่องของความปลอดภัยควรต้องดูด้วย อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของการจับสัตว์น้ำริมถนน บางครั้งขับรถไปก็เสียวๆจะไปชนพี่น้องบริเวณสะพานเหมือนกัน ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ บางทีมองไม่เห็นจริงๆเนื่องจากใส่เสื้อสีเข้ม ดีว่าคาดไฟฉายที่หน้าผากนะ ไม่งั้นเกิดอุบัติเหตุแน่นอน อีกส่วนก็คือระวังเรื่องของการตกน้ำตกท่ากันด้วย เกิดเสียชีวิตเนื่องจากลงน้ำไปจับปลาพี่น้องที่อยู่ข้างหลังคงเสียใจแย่

ในเมืองเรื่องร่ม และชุดกันฝนต้องมา

สำหรับคนค้าขายแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ขายดีมากช่วงหน้าฝนอย่างนี้ก็คือ เรื่องของอุปกรณ์กันฝน ไม่ว่าจะเป็นร่ม ชุดกันฝนแบบต่างๆ โดยเฉพาะของเด็กนี้บอกเลยว่ามีเท่าไรขายได้หมด เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกเปียกฝนแน่นอน ถ้าเลือกทำเลดีๆ มาขายวันฝนตกล่ะก็ รับรองขายได้เกลี้ยงเลย หรือจะเป็นบรรดาพี่วินที่ออกบริการถี่ขึ้น เพราะคนเดินทางลำบากกว่าเดิม ทำเอาหลายคนได้เงินมากกว่าเดิมตั้ง 2-3 เท่า เห็นไหมล่ะว่าเมื่อใดที่เราเจอวิกฤตหากเรานั่งมองแล้วใช้สติแก้ปัญหาเราก็จะเจอโอกาสใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างเช่นโอกาสจากน้ำท่วมน้ำหลากในครั้งนี้