เรื่องของโชคชะตาราศีที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี ก็จะมีการพูดต่อกันถึงเรื่องปีชงต่าง ๆ ที่เป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของทางจีน เกี่ยวข้องกับองค์เทพไท้ส่วยที่รู้จักกันดีในนามขององค์เทพคุ้มครองดวงชะตา ที่ทางจีนถือว่าเป็นองค์เทพที่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาของผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีผลต่อคนในแต่ละปี ที่มีความเชื่อว่าไท้ส่วยนั้นมีความหมายถึงดาวพฤหัสในภาษาของจีนโบราณ ทางโหราศาสตร์จีนถือว่าดาวพฤหัสนั้นเป็นประธานของดาวศุภเคราะห์ ซึ่งก็สอดคล้องกับความเชื่อของทางโหราศาสตร์ไทยที่ว่าเมื่อปีนักษัตรใดมาปะทะกัน หรือได้รับผลร้ายจากองค์เทพไท้ส่วยนี้ ในปีนั้นก็จะทำให้ได้รับผลที่ไม่ดีต่อชีวิตหรือที่เรียกกันว่าปีชงนั่นเอง สำหรับปีที่ได้รับผลไม่ดี จะมีด้วยกันอยู่ 4 ปี คือ ปีชงหรือปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุด คือชงโดยตรง ปีคักหรือปีที่เป็นนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ ปีเฮ้งหรือปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของเคราะห์กรรม และปีผั่วหรือปีที่ได้รับผลกระทบของเรื่องของสุขภาพ
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ปีชงเท่านั้น แต่จะมีเดือนชงร่วมด้วยอีกปีละ 4 เดือน ที่ถือว่าใครมีทั้งปีและเดือนที่ชงคู่กัน ต้องได้รับการแก้ไขในทันทีด้วยการเสริมดวงชะตาด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ การสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญเสริมดวงชะตาตามความเชื่อกันต่อไป เพื่อให้สามารถปัดเป่าอุปสรรค สิ่งไม่ดีในชีวิต และเคราะห์กรรมต่าง ๆ ให้เบาบางลง จึงทำให้เกิดเป็นกระแสของการเดินสายทำบุญที่เป็นการ แก้ชง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ที่โดนปีชงทั้งหลาย
โดยจะมีการแยกการทำบุญออกไปตามความแรงของแต่ละปี และการออกไปสักการะวัดจีนทั่วไป เพื่อทำการกราบไหว้ขอพรกับเทพเจ้าไท้ส่วยเพื่อให้ปัดเป่าเคราะห์กรรมออกจากตัว และทุกอย่างจะผ่อนคลายลง สามารถไปไหว้หรือทำพิธีสักการะอย่างถูกต้องได้ที่วัดจีนทั่วไป หรือที่วัดมังกรกมลาวาส ที่คนย่านเยาวราชรู้จักกันดีในชื่อวัดเล่งเน่ยยี่ และวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือวัดเล่งเน่ยยี่ 2 มีพิธีกรรมแบบเต็มรูปแบบในการสักการะ แต่ถ้าใครไม่อยากเดินทางไกลก็สามารถไปหาสักการะได้ที่ศาลเจ้าพ่อเสือประจำพื้นที่ที่ตนเองอยู่ก็ได้เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม : ไหว้พระ เสริมมงคลเทศกาลตรุษจีน อิ่มบุญอิ่มท้องย่านเยาวราช
การทำบุญทำทานกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ทั้งการปล่อยนกปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโคกระบือ บริจาคโลหิต หรือจะบริจาคทานให้แก่ผู้ที่มีฐานะยากจนทั่วไป และการเข้าไปบริจาคข้าวสารอาหารแห้งตามมูลนิธิต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นการแก้ปีชงได้เช่นกัน ทั้งยังสามารถไปทำการบริจาคให้แก่สถานพยาบาลที่ขาดแคลนกำลังทรัพย์ หรือโรงเรียนต่าง ๆ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน เพื่อให้ทางสถานที่นั้นได้รับเอาอุปกรณ์หรือเงินที่เราบริจาคนี้ไปทำประโยชน์ต่อไปในอนาคต และยังมีการทำบุญโลงศพ หรือการบริจาคโลงศพ สมทบทุนในการฌาปนกิจศพให้แก่เหล่าศพยากไร้หรือศพไม่มีญาติได้ตามศาลเจ้าหรือที่มูลนิธิที่น่าเชื่อถือ โดยวัดที่คนนิยมไปทำบุญบริจาคคือวัดหัวลำโพงและมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ที่นอกจากจะทำบุญโลงศพแล้วยังสามารถทำบุญให้แก่ครอบครัวของญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บที่ยากไร้ให้มีทุนรอนในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป
ส่วนของผู้ที่อาจจะมีทุนในการทำบุญที่ไม่มากนัก ก็อาจจะวิธีในการเข้าไปช่วยงานกุศลต่าง ๆ ด้วยแรงและด้วยกำลังตามความศรัทธา เช่น การช่วยเหลือโรงทานเพื่อแจกจ่ายอาหารให้แก่ผู้ยากไร้ หรือการช่วยเหลือวัดด้วยวิธีการทำความสะอาดบริเวณลานวัด เป็นต้น และสิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าสามารถทำได้อย่างจริงจัง คือการถือศีล 5 หรือศีล 8 ให้ได้นานที่สุด เพราะมีความเชื่อว่าการรักษาศีลนั้นจะทำให้กายใจบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เป็นการทำที่ได้ทั้งกายใจของผู้ถือศีลและประโยชน์โดยส่วนรวม ด้วยที่ว่าการถือศีลนั้นสามารถทำให้จิตใจผ่องใสและทำให้คนผู้นั้นประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การทำบุญเพื่อสร้างกุศลต่าง ๆ นั้นเป็นการช่วยทางด้านจิตใจ และเป็นกำลังใจทำให้รู้สึกว่าชีวิตปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น แต่ทางที่ดีที่สุดคือการดำเนินชีวิตไปอย่างไม่ประมาท รู้จักระมัดระวังตนประกอบกิจการต่าง ๆ อย่างมีสติ พร้อมไปด้วยการยึดมั่นในหลักของความดี ความถูกต้อง ไม่เห็นแก่ตัวเอาเปรียบใคร ถ้ารู้จักตัวเองมากพอแล้วมีสติ ก็จะยิ่งช่วยเสริมความคิดและราศีของตนเองให้เพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่ง