เส้นทางชีวิตที่เราจะเลือกเดินเพื่อนำไปสู่อนาคตนั้น เราจะต้องเป็นผู้เลือกเอง สำหรับการทำงานถ้าไม่นับเรื่องของการทำธุรกิจส่วนตัว อาชีพที่คนส่วนใหญ่เลือกทำได้ก็มีอยู่ 2 อาชีพ ก็คือ พนักงานประจำกับฟรีแลนซ์ ซึ่งสองอาชีพนี้หากจะเปรียบเทียบกันก็ต้องบอกว่าแตกต่างกันแบบสุดขั้วเลยทีเดียว ไม่ได้หมายถึงว่าอาชีพหนึ่งจะดีกว่าอีกอาชีพหนึ่ง แต่ความแตกต่างนั้นหมายถึงแต่ละอาชีพมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ทำให้ค่อนข้างชัดเจนว่าใครที่ชอบอาชีพไหนก็จะชอบอาชีพนั้น ทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน และเรื่องเวลา เราลองไปวิเคราะห์ถึงสองอาชีพนี้กันค่ะ
พนักงานประจำ
ไปกันที่พนักงานประจำก่อนแล้วกัน เพราะเป็นอาชีพที่ทุกคนรู้จักและเข้าใจดี พนักงานประจำ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นพนักงานประจำ ก็หมายถึงเราต้องทำงานเป็นประจำทุกวัน ส่วนใหญ่มักต้องเดินทางเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ นั่งทำงานที่โต๊ะทำงาน พนักงานประจำจะมีชีวิตที่ค่อนข้างแน่นอน หมายถึงเรื่องวันเวลาทำงานและวันหยุดก็จะรู้ล่วงหน้าแน่นอน เช่น ทำงานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. หยุดวันเสาร์อาทิตย์และทุกวันนักขัตฤกษ์ รายได้ก็เป็นอีกสิ่งที่แน่นอนที่เรารู้ล่วงหน้า เช่น มีการว่าจ้างให้ทำงานในตำแหน่งนี้ มีเงินเดือน 20,000 บาท เมื่อถึงสิ้นเดือน เงินจำนวน 20,000 บาทก็จะเข้าบัญชีธนาคารเราแบบไม่มีขาดตกไปแม้สักบาทเดียว ไม่ว่าในเดือนนั้นจะมีวันหยุดเยอะ มีลาป่วย หรือลาพักร้อน เราก็ยังได้รับเงินเดือนเท่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันถ้าเดือนไหนมีงานเพิ่ม ก็อาจไม่ได้แปลว่าเราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น นอกจากพนักงานประจำที่เป็นสาวโรงงานที่จะมีเงินค่าล่วงเวลา
พนักงานประจำมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้บางครั้งอาจจำเป็นต้องอยู่ทำงานดึกบ้าง โดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มแต่อย่างใด การทำงานเป็นพนักงานประจำในบริษัทจะมีเจ้านายหรือลูกน้อง รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่เราต้องทำงานร่วมด้วย คำสั่งต่าง ๆ จะมาจากเจ้านาย และก็เป็นเจ้านายนี้เองที่จะเป็นผู้ประเมินผลงานของเราในระหว่างปี เพื่อที่จะพิจารณาขึ้นเงินเดือนหรือได้รับโบนัสต่อไป
พนักงานประจำเหมาะกับใคร ?
ลักษณะงานของพนักงานประจำก็เป็นแบบที่ว่ามา ดังนั้นการเลือกเส้นทางการเป็นพนักงานประจำนั้น เราต้องหันมามองที่ตัวเราเองว่า เราเป็นคนแบบไหน ถ้าเราเป็นคนอยู่ในกรอบได้ ไม่ชอบฉีกแนว มีระเบียบวินัย ชอบอะไรที่มีความมั่นคง ไม่หวือหวา ชอบอะไรที่วางแผนได้และรู้ล่วงหน้า ชอบความมั่นคง ไม่ต่อต้านการมีเจ้านาย สามารถดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับได้โดยไม่อึดอัด ถ้ามาในแนวนี้ ก็แปลว่า คุณก็เหมาะกับการเป็นพนักงานประจำค่ะ
ฟรีแลนซ์
คราวนี้มาลองดูอีกอาชีพบ้าง ฟรีแลนซ์ต้องบอกว่าเป็นงานอิสระที่คนในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่หันมายึดเป็นอาชีพกันมากขึ้น เพราะงานฟรีแลนซ์หมายถึงอิสระในการทำงานด้วยตัวเอง ตั้งแต่การเลือกรับงาน การบริหารจัดการเรื่องสถานที่และเวลาในการทำงาน การเลือกงานที่ตัวเองถนัด ชอบแสดงความสามารถให้เต็มที่ อาชีพฟรีแลนซ์เป็นอาชีพที่ไม่ได้มีสังกัด ไม่ขึ้นอยู่กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง สามารถเลือกรับงานได้จากหลายที่ ขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์เป็นหลัก ลักษณะงานบางอย่างที่มีการจ้างฟรีแลนซ์ก็เป็นเพราะเป็นงานพิเศษไม่ได้มีบ่อย และต้องอาศัยความสามารถและประสบการณ์ที่เป็นการเฉพาะ
งานฟรีแลนซ์มีข้อดีตรงที่เป็นงานที่ไม่ได้มีรูปแบบกำหนดตายตัว เป็นงานที่ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางฝ่ารถติดไปทำงานทุกวัน เป็นงานที่ไม่มีเจ้านาย แต่เป็นลูกค้าที่ดีลงานกันกับเราโดยตรง ผลงานก็จะเป็นของเราคนเดียวโดยตรงแบบเต็ม ๆ เช่นกัน ดังนั้นฟรีแลนซ์จะต้องควบคุมคุณภาพของงานตัวเองให้ดีที่สุด หากผลงานไม่ดี โอกาสที่จะได้รับการว่าจ้างอีกในอนาคตก็จะหมดไป ตรงกันข้ามกับหากสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบเข้าตากรรมการ ถ้ามีงานครั้งต่อไปเขาก็จะจ้างเราต่อแน่ ๆ
เรื่องรายได้ของฟรีแลนซ์นั้นที่จริงหากจะนับกันเป็นชิ้นงานถือว่ารายได้ดีกว่าพนักงานประจำ แต่เนื่องจากปริมาณของงานฟรีแลนซ์อาจมากน้อยหรือบางครั้งไม่ต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้รวมต่อเดือน ต่อไตรมาส หรือต่อปี อาจได้ไม่เท่าพนักงานประจำก็ได้ ยกเว้นว่าคุณต้องเป็นฟรีแลนซ์ที่มีความขยัน และหมั่นหางานเข้ามาอยู่เสมอ หากเป็นแบบนั้นก็ไม่แน่ว่ารายได้ของคุณอาจสูงกว่าพนักงานประจำหลายเท่าก็เป็นได้
ฟรีแลนซ์เหมาะกับใคร ?
เส้นทางอาชีพฟรีแลนซ์จึงเหมาะกับคนที่มีลักษณะของการมีชีวิตที่ค่อนข้างอิสระ มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ยึดติดอยู่กับที่ ชอบความแปลกใหม่ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เสมอ ที่สำคัญฟรีแลนซ์เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบ กฎเกณฑ์ ไม่ชอบฟังคำสั่ง แต่ต้องเป็นคนที่สามารถบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ของชีวิตได้ดีพอสมควร ไม่ไหลไปเรื่อย ๆ เพราะฟรีแลนซ์หากไม่มีการวางแผนหรือควบคุมชีวิตของตัวเองให้ดี ชีวิตก็อาจไม่มั่นคงไม่เหมือนกับพนักงานประจำ ที่มีเจ้านายและบริษัทเป็นกรอบอยู่
อย่างที่ว่าไว้ว่าเส้นทางชีวิตของใครคนนั้นก็ต้องเลือกเอง สำหรับเส้นทางชีวิตในการทำงานเป็นพนักงานประจำหรือฟรีแลนซ์นั้นมีข้อแตกต่างกันอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะอาชีพใดก็ดีทั้งนั้น สำคัญตรงที่เราต้องรู้ว่าอาชีพนั้นเหมาะกับตัวเราหรือไม่ และเราต้องวางแผนอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตที่เราได้เลือกไว้