เลิกเป็นมนุษย์เงินเดือนมาทำฟรีแลนซ์ เตรียมตัวอย่างไรดี ?

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังวางแผนคิดว่าอยากจะลาออกออกมาทำอะไรเป็นของตัวเองดีนะ???  ซึ่งบางคนก็คิดว่าอาจจะเปิดบริษัทเองหรือไม่ก็ลองทำเป็นฟรีแลนซ์ไปก่อน ซึ่งหากคุณคิดว่าอยากจะออกมางานตามที่ฝันไว้ แบบที่เป็นเจ้านายตัวเองด้วยแล้ว ก็คงไม่ใช่เดินไปหาหัวหน้าแล้วยื่นซองขาวเพื่อขอลาออกทันทีหรอกนะ เพราะอย่างน้อยๆ ก่อนจะลาออกควรจะทำการวางแผนให้ดีก่อนเพราะการที่จะลาออกมาทำอะไรของตัวเองมี ความเสี่ยงมากกว่างานประจำอยู่มากพอสมควร ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนจริง ๆ มาดูความพร้อมกันดีกว่าว่าคุณจะต้องเตรียมอะไรบ้าง

1.เตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน   

เชื่อว่าหากใครมีโอกาสที่ได้ศึกษาเรื่องการวางแผนการเงินมาก่อน อาจจะเคยได้ยินมาว่าหากจะต้องออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนจริง ๆ ก็ควรเก็บเงินก้อนนี้ไว้สัก 6 เดือนกำลังดี  แต่คุณต้องดูด้วยว่าอาชีพต่อไปของคุณมีโอกาสที่จะขาดรายได้หรือไม่???  และสามารถหางานทดแทนได้ง่ายหรือยาก เพราะหากอาชีพที่คุณทำสามารถหางานใหม่ได้ง่าย หรือเป็นที่ต้องการของตลาด  หรือเป็นธุรกิจที่กำลังบูมจากการที่เปิดเป็นอาชีพเสริมมาก่อน ก็อาจจะเก็บเงินฉุกเฉินไว้ล่วงหน้าเพียง 3 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็เพียงพอ หากเป็นอาชีพที่มาเป็นช่วง ๆ งานมีโอกาสที่จะหายไปได้แบบยาว ๆ   ก็อาจทำให้รายได้คุณหายไปด้วย   หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเงินสำรองฉุกเฉินก้อนนี้เอาไว้สำหรับกรณีคุณเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ซึ่งมันไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากแต่จุดประสงค์จริง ๆ ของการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน คือเอาไว้ในกรณีที่รายได้สะดุด หรือหยุดลงหรือว่าไม่เข้ามาอย่างที่คาดไว้ เพราะว่าการเป็นฟรีแลนซ์จะมีความเสี่ยงเรื่องของรายได้สูงอยู่พอสมควร ที่งานจะไม่เข้ามาอย่างที่คาดไว้ หรือแม้แต่ถ้าได้งานแล้ว แต่เก็บเงินไม่ได้ ก็มี ทำให้ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมเสมอ

2.เงินสำหรับความเสี่ยง

แต่ในกรณีของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการลาออกมาทำงานอิสระนั้น ก่อนที่คุณจะลาออกก็ควรสร้างฐานตลาดไว้ด้วยในระดับหนึ่งการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้เป็นปีจะช่วยลดความเครียดลงได้บ้าง ในช่วงที่ยังคิดหาทางออกไม่เจอ อย่างน้อยก็จะมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายบ้าง  ก่อนลาออกจึงต้องเพิ่มเงินสำรองให้สูงขึ้น แม้แต่การเก็บเงินฉุกเฉินก็เพื่อความเสี่ยงจากการลงทุนที่เป็นความเสี่ยงที่แท้จริง คือกรณีที่คุณเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เพื่อปกป้องที่จะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมารักษา เพราะปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลสูงมากและอาจมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ  สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือควรที่จะมีการบริหารความเสี่ยงเรื่องการชดเชยรายได้ ในกรณีที่คุณไม่สามารถทำงานได้ อย่าลืมว่าการทำงานฟรีแลนซ์ หากวันไหนไม่ทำงานก็เท่ากับไม่มีรายได้ แต่ก็อย่าลืมว่า “รายจ่าย” ยังคงวิ่งเรื่อย ๆ  ส่วนสินค้าการเงินที่จะช่วยบริหารความเสี่ยงก็เห็นจะหนีไม่พ้น “ประกัน” นี่ล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ รวมไปถึงโรคร้ายแรงและการชดเชยรายได้ต่าง ๆ  แต่ก็ควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อทุกครั้งเพื่อที่จะหาแผนประกันที่เหมาะสมที่สุด

3.เตรียมเงินสำหรับการลงทุนกิจการ

เงินก้อนสำหรับทุนนั้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มธุรกิจที่ทำ ลองวางแผนธุรกิจคร่าว ๆ ดูสิ ทำล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี แล้วให้ลงรายละเอียดแบบละเอียดยิบตั้งแต่ปีแรกว่า คุณจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลงทุนอะไรบ้าง แล้วคาดว่ารายรับ จะเข้ามาเท่าไหร่ เพื่อมาเป็นแผนการดำเนินชีวิตของคุณ เพราะหลังจากที่คุณเองก็ลาออกไปแล้ว คงไม่มีใครคอยมาบอกว่าคุณควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ไม่มีใครคอยมาตั้งเป้าเวลาที่ทำงานให้กับคุณแน่นอน  ทุกอย่างคุณต้องเป็นคนกำหนด หรือวางแผน ซึ่งการที่คุณลาออกมารับงานอิสระแล้ว อย่าลืมแบ่งเงินทุก ๆ เดือนมาเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนด้วยซึ่งอาจเป็นอีกทางเลือกของการสร้างรายได้ในอนาคต  

ขอบคุณข้อมูลจาก https://daily.rabbit.co.th/ลาออก-เตรียมตัว-freelance/

งานฟรีแลนซ์ที่น่าสนใจ  

1.ขายอาหารออนไลน์

ลองมาเป็นคนทำอาหารส่งให้เพื่อน ๆ จากออฟฟิศกันบ้าง ด้วยข้อมูลวงในที่คุณอาจเข้าใจความรู้สึกของชาวออฟฟิศว่าร่างกายพวกเขาต้องการอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้เปรียบได้การคัดสรรเมนู  รับรองว่าถ้าได้ใจลูกค้าครั้งแรกแล้ว อาจได้ลูกค้าประจำแน่นอน

2.ทำแฟนเพจ

การทำเพจจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย และสนุกแถมยังได้เงินมากมาย ซึ่งการทำธุรกิจการลงโฆษณากับเพจต่าง ๆ ที่มีคนติดตามมาก ๆ  ที่มีเจ้าของร้านค้าใช้วิธีนี้ในการโปรโมทสินค้าต่อกลุ่มเป้าหมาย  ถ้าเพจคุณดังก็อาจมีโฆษณามาลงเพื่อสร้างราย ได้ไปอีกทาง

3.นักเขียนออนไลน์

การเขียนบทความต่าง ๆ ลงบนเว็บไซต์เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาอ่าน จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายเว็บกำลังต้องการ  การเขียนสามารถปรับแต่งให้ใช้ในแบบออนไลน์ ซึ่งสามารถศึกษา และฝึกฝนด้วยตัวเองได้ เป็นการลงทุนที่ไม่ต้องลงทุนใดๆ เลยล่ะ  

นอกจากนี้ การทำฟรีแลนซ์ ยังสามารถหันมาเปิดร้านขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า ฯลฯ  หรือของมือสอง , รับสอนพิเศษ , รับแปลเอกสาร , รับพิมพ์งาน , ทำงานฝีมือ  เปิดหน้าร้านค้าขาย ฯลฯ เพราะคุณจะต้องเป็นเจ้านายตัวเองในการลาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น จะต้องใช้ความกล้า ความเสี่ยงและต้องเตรียมตัวให้พร้อม หากตัดสินใจทำงานที่บ้าน สิ่งหนึ่งที่สำคัญคงหนีไม่พ้นความมีวินัยเพื่อทำงานให้เสร็จตามกำหนดนั่นเอง