ปัจจุบันมีกลโกงในรูปแบบใหม่เกิดขึ้นมามากมายจนประชาชนหลายๆ คนต่างก็ตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้ จนบางคนอาจจะสูญเงินมากกว่าล้านบาท ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ประกอบกับกลวิธีที่ดูแยบยลของตัวมิจฉาชีพ ทำให้เกิดเป็นหลุมพรางที่ผู้โดนโกงสามารถมาตกลงหลุมนี้ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในเรื่องของการ หลอกประมูลทองคำ ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเป็นส่วนช่วยในการหลอกลวง และสามารถสร้างความเสียหายให้กับเหยื่อได้อย่างมากมาย
ด้วยความสวยงามของทองคำและมูลค่าที่สูง ใครๆ ก็อยากได้จึงได้เกิดเป็นการประมูลทองคำผ่านทางโซเชียลชื่อดังอย่าง Facebook หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการประมูลสินค้าต่างๆ ที่ไม่มีมาตรฐาน และไม่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยจะมีวิธีการเล่นในรูปแบบที่ให้ลูกค้าเข้ามาประมูลทองคำตามที่ทางเจ้าของเพจหรือเจ้าของเว็บไซต์ได้กำหนดเอาไว้ ที่อาจจะเป็นสร้อยคอ แหวน และข้อมือ โดยจะทำการบิทราคา ที่การบิทครั้งหนึ่งก็ประมาณ 100-200 บาท สูงหน่อยก็จะเป็นหลักพันบาท และในบางครั้งก็อาจจะเป็นเครื่องประดับเพชรเข้ามาร่วมด้วย
แหวนทองคำและแหวนเพชรมักจะเป็นที่นิยมในการนำเอามาประมูล โดยที่ตัวสินค้านั้นจะมีเพียงรูปเท่านั้นเป็นตัวนำมาลงให้เหล่าผู้ประมูลดู พร้อมทั้งการรีวิวที่น่าเชื่อถือที่อาจจะเป็นหน้าม้าประมาณ 2-3 คน และเมื่อมีการประมูลขึ้นมาเมื่อไรลูกค้ารายแรกๆ ที่ได้ทองไปก็มักจะได้เป็นทองจริงเกือบทุกรายจนมีการไปบอกต่อคนรู้จักเพื่อให้เกิดเป็นการบอกแบบปากต่อปากที่พาเอาผู้คนมาร่วมวงในการประมูลเยอะขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีคนประมูลเยอะ มูลค่าของทองคำนั้นก็เยอะตามไปด้วย และมิจฉาชีพเหล่านี้จะนำเอาเงินที่ได้ไปทำการหมุนเวียนใช้จ่าย จนในที่สุดก็จะรวมการประมูลทีเดียวหลายๆ ชิ้น แล้วก็จะหายไปแบบเฉยๆ ปล่อยให้ผู้ที่ประมูลรอคอยเอาของไปแบบไม่รู้ตัวว่าโดนหลอกไปแล้วนั่นเอง หรือการเข้ามาประมูลได้จริงแต่มีการใช้ระบบหลอกในการบิท ซึ่งการบิทในเว็บไซต์นั้นจะเป็นตัวโปรแกรม และต้องมีการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นการซื้อสิทธิ์ในการเข้าประมูลสินค้า อาทิเช่น จ่าย 100 บาท ก็จะได้สิทธิ์ในการประมูล 20 ครั้ง โดยที่ราคาสินค้าส่วนใหญ่จะมีราคาต่ำสุดที่ 0 บาท และจะมีการเคาะประมูลแต่ละครั้งเพียงไม่กี่สตางค์ ซึ่งถ้าใครสามารถที่จะประมูลได้ในราคาที่สูงสุดในระยะเวลาที่กำหนดก็จะได้รับสินค้าไปโดยที่ต้องจ่ายเพิ่มในราคาที่ประมูล
วิธีการใช้เว็บไซต์ในการประมูลสินค้านี้มีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะทางฟากฝั่งยุโรปที่มีการเล่นกันมานาน จะมีการนำเอาสินค้าที่มีราคาสูงต่างๆ มากมายมาเป็นตัวล่อใจ ให้ผู้คนที่สนใจเข้ามาร่วมประมูล ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนชื่อดัง ทองคำ และกระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น ซึ่งการประมูลในแต่ละครั้งถ้ามีคนที่เข้ามาประมูลราคาเพิ่มในช่วงเวลาที่กำหนด ในเวลานับถอยหลังก็จะเพิ่มขึ้นอีก 10-20 วินาที เพื่อให้โอกาสผู้ที่เข้ามาร่วมประมูลรายอื่นได้ยื่นราคาสูเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งวิธีการนี้จะเน้นที่สินค้ามีมูลค่า แต่ราคาเริ่มต้นในการประมูลที่แสนถูก มีจุดอ่อนตรงที่ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์มีสิทธิ์ที่จะสามารถใช้โปรแกรมบอทหรือโปรแกรมช่วยโกงที่เรียกว่าหน้าม้า เข้ามาร่วมประมูลไปกับลูกค้าคนอื่นๆ เพื่อที่จะดีดราคาให้สูงขึ้น แล้วถ้าผู้ที่ประมูลยอมสู้ สินค้าชิ้นนั้นก็จะมีราคาที่สูงมากกว่าราคาจริงตามท้องตลาดด้วยซ้ำไป หรือถ้าไม่สู้ต่อผู้ที่เข้าประมูลก็จะเสียเงินค่าเข้าประมูลไปแบบฟรีๆ โดยกว่าจะรู้ตัวก็อาจจะหมดไปเป็นหมื่นแล้วก็ได้ โดยผู้ที่โดนเว็บไซต์ประมูลสินค้าหลอกลวงนี้ได้มีการแชร์และสอบถามทางสมาชิกคนอื่นๆ ผ่านทางเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Pantip เกี่ยวกับเรื่องราวที่ตนเองจับเว็บไซต์ประมูลได้ว่าโกงเงิน พร้อมทั้งหลักฐานที่ตนเองเก็บไว้ได้ โดยสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ http://pantip.com/topic/30229098
ส่วนขั้นตอนการประมูลทาง Facebook จะใช้วิธีการเคาะประมูลแบบ Reverse Auction คือการเคาะประมูลที่ยิ่งมากคนมากครั้งเท่าไรราคาสินค้านั้นจะลดลงเรื่อยๆ และจะมีการกำหนดตัวสมาชิกว่าสามารถที่จะเล่นได้ครั้งละกี่คนต่อสินค้า 1 ชิ้น และมีเวลาให้ว่ากี่นาที พร้อมจำนวนเงินในการบิทแต่ละครั้งสามารถเสนอได้เท่าไรก็อยู่ที่ว่าเจ้าของเพจจะเป็นคนกำหนด และจะมีกำหนดในการส่งสินค้า 15-30 วัน เลยทีเดียว แต่ผู้ที่ชนะการประมูลไปจะต้องมีการจ่ายค่าสินค้านั้นเข้ามาก่อน สิ่งที่สามารถจูงใจผู้คนให้เข้ามาเล่นได้คือการเคาะแต่ละครั้งแล้วราคาจะลดลง เหมือนกับว่าได้ของมีมูลค่าแต่ราคาแสนถูก แต่ก็มีข้อเสียที่ผู้ประมูลจะไม่สามารถเห็นสินค้าได้ก่อน ไม่มีทางรู้ว่าสินค้านั้นเป็นของจริงหรือไม่
ที่สำคัญคือสินค้าจะมีการส่งมาจริงตามที่เจ้าของเพจกล่าวอ้างหรือเปล่า ?
โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่มักนำมาประมูลผ่านทาง Facebook จะเป็นทองเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ หรือสร้อยข้อมือ เพราะเป็นสินค้าล่อใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับการหลอกประมูลทองคำผ่านทาง Facebook ที่มีเหยื่อหลายรายทุ่มเงินในการประมูลไปมากกว่าครึ่งแสน โดยใช้ชื่อเพจว่าพลอยไพลินที่เป็นสองสามีภรรยาเป็นเจ้าของการประมูล มีการทำมาแล้วหลายครั้งและมีการแจ้งความไว้ตั้งแต่กลางปี 2558 ที่มีผู้แจ้งความไว้ทั้งหมด 86 ราย และล่าสุดก็มีการแจ้งจับจากเหยื่ออีก 7 ราย ซึ่งเมื่อรวมคนที่เป็นเหยื่อทั้งหมดก็มากกว่า 800 ราย เลยทีเดียว
โดยที่สองสามีภรรยาที่โดนจับในการ หลอกประมูลทอง ครั้งนี้ ได้สารภาพว่าผู้ที่ประมูลได้ในครั้งแรกๆ มักจะได้เป็นทองจริงไป แต่เมื่อนานเข้าก็เริ่มที่จะนำเงินที่ได้มาจากการประมูลไปใช้หมุนเวียนจนไม่สามารถที่จะหามาซื้อทองให้กับผู้ที่ประมูลได้ และก็ทำการปิดเพจหนีไปในที่สุด ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทำให้รู้ว่ากลวิธีในการหลอกลวงของเหล่ามิจฉาชีพมักจะมีแผนการและรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อตายใจได้อย่างไม่ทันระวัง เพราะมีการส่งของจริงเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือไว้ก่อน จากนั้นเมื่อได้เงินในปริมาณเงินที่มากขึ้นก็จะหนีหายไปเงียบๆ คล้ายกับกลวิธีของแชร์ลูกโซ่เป็นอย่างมาก
โดยวิธีการในการป้องกันตัวที่ดีที่สุดคือการศึกษาข้อมูลก่อนทุกครั้งที่คิดจะซื้อขาย หรือลงทุนในธุรกิจที่เราไม่คุ้นเคย หรือตรวจสอบเว็บไซต์พร้อมตัวผู้ที่ทำการประมูลผ่านทางเว็บไซต์ Google โดยการนำเอาชื่อ นามสกุล และชื่อเพจที่เปิด ไปค้นหาแล้วก็อาจจะได้คำตอบที่สามารถทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ และที่สำคัญที่สุดคืออย่าเชื่อใครง่ายๆ ว่าของถูกหรือของฟรีจะมีในโลก เพราะถ้ามีจริงก็คงจะมีคนเข้ามาธุรกิจแบบนี้กันมากมาย ควรที่จะใช้วิจารณญาณให้มากที่สุด และควรที่จะไปซื้อทองเองที่ร้านขายทองทั่วไปก็จะน่าจะปลอดภัยที่สุดอีกด้วย
