มากันอีกแล้วเรื่องเล่าและคำสอนจากคุณยาย หวังว่าหลายๆคนคงยังไม่เบื่อกันนะ ต้นเหตุของเรื่องนี้คือ คลังสมบัติของคุณยาย แต่ไม่ใช่คลังสมบัติแบบมีทองมีเพชรนะ แต่มันคือบรรดาของใช้ต่างๆที่คุณยายซื้อเก็บไว้ บางชิ้นอายุมากกว่าผู้เขียนเสียอีกจึงทำให้สงสัยว่า คุณยายเก็บของยังไงและใช้ยังไงทำไมมันทนทานแบบนี้ ของบางอย่างเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ คุณยายเก็บจนเราลืม พอมาวันนี้รื้อของเหล่านี้มาจัดเก็บใหม่ถึงกับอึ้งกันเลยทีเดียวว่า มันยังอยู่อีกเหรอเนี่ย
อ่านเพิ่มเติม >> คุณยายอยากเล่า ลำบากวันนี้สบายวันหน้า นะหลาน ! <<<
คุณยายมักบอกเสมอว่า
ข้าวของมันแพงจะซื้ออะไรแต่ละอย่างก็เปลืองเงิน เสียดายเงิน เวลาใช้อะไรก็ให้ถนอมๆมันหน่อย ใช้แล้วก็ให้ทำความะอาดเก็บเข้าที่เข้าทาง เพื่อที่มันจะได้อยู่สภาพเดิมและเราใช้งานได้นานๆ ยกตัวอย่างเช่น หม้อหุงข้าวที่บ้าน เชื่อไหมว่าหม้อหุงข้าวที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ซื้อมากว่า 20 ปีแล้ว แต่มันยังใช้งานได้อย่างดี แม้จะมีรุ่นใหม่ๆแต่คุณยายก็ไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมให้ซื้อจนกว่าใบเก่านี้จะพัง หม้อหุงข้าวที่ว่านี้เป็นสมัยก่อนนิยมมากมันเป็นรุ่นอุ่นทิพย์ คุ้นๆกันใหม่ ซื้อมาตั้งแต่มันออกใหม่ๆ และคุณยายใช้ถนอมมาก ไม่ว่าใครจะเป็นคนหุงข้าว คุณยายต้องสั่งเสมอว่า ให้วางเบาๆ ให้กดเบา ดึงปลั๊กเบาๆ เช็ดหม้อให้แห้งก่อนใส่ แค่นี้ยังไม่พอ หลังหุงข้าวเสร็จคุณยายจะคอยยกหม้อในออก และจัดการทำความสะอาดด้านในของตัวหม้อหุง เช็ดคราบน้ำขาว เช็ดด้านนอกด้านไหน อันไหนถอดล้างได้ คุณยายไม่พลาดที่จะถอดมาทำความสะอาด และทำแบบนี้ทุกครั้งปัจจุบันนี้ก็ยังทำอยู่ และมันเป็นสิ่งที่เราเห็นเลยว่าถ้าเราใช้มันอย่างถนอม และ หมั่นทำความสะอาด มันอยู่ได้นานจริงๆ แต่ยังไม่หมดแค่นี้
ของใช้ต่างๆที่มีภายในบ้าน คุณยายจะสั่งให้ทำความสะอาดเสมอๆ ไม่ว่าจะใช้บ่อยหรือนานๆใช้ที คุณยายจะเอามันออกมาทำความสะอาดตรวจดูความเรียบร้อย ซึ่งการที่ทำแบบนี้คุณยายบอกว่า
ของใช้สมัยนี้มันแพง ไม่อยากให้เสียเงินซื้อ ของเราดีๆมีเยอะ ใช้ระวังๆ เก็บรักษาให้ดีๆ มันก็อยู่ได้อีกนาน จะได้ ไม่เปลืองเงิน ซื้อใหม่
ซึ่งบางอย่างนั้นมันเป็นอย่างที่คุณยายบอกจริงๆ อย่างพวกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ของพวกนี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ทน แต่ของคุณยายนี้รุ่นโบราณเลยขอบอก เวลาใช้งานเสร็จคุณยายจะให้ล้างและเช็ดให้แห้งเก็บใส่กล่องอย่างดี ครกและสากหินที่ปัจจุบันราคาชุดละหลักพัน ที่บ้านก็มีใช้คุณยายบอกซื้อมาตั้งแต่เรายังไม่เกิด ใช้แล้วต้องล้างเช็ดให้แห้งก่อนเอาผ้าคลุม สากต้องห่อกระดาษเก็บใส่ตู้เพราะกลัวหล่นแตกราคามันแพงหาซื้อยาก นี่แค่ของใช้ครัวนะส่วนของใหญ่ๆ เช่น
จักรเย็บผ้าแบบสมัยก่อน คงพอนึกกันออกใช้ไหม เหมือนจักรตามร้านซ่อมผ้าข้างทาง ที่บ้านผู้เขียนก็มีและจำได้ว่าเห็นมันตั้งแต่เกิด ซึ่งคุณยายนำไปติดมอเตอร์เพื่อให้ใช้งานง่าย ซึ่งสมัยก่อนตอนที่คุณยายยังอายุไม่มากก็ใช้จักรตัวนี้ซ่อมเสื้อผ้าลูกๆหลานๆ หรือ เย็บเสื้อ เย็บผ้าถุงใส่เอง ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะทำไม่ไหวแต่จักรตัวนี้ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100% เพราะได้รับการดูแลอย่างดี มีการเช็ดการหยอดน้ำมันเป็นประจำ ใครมาเห็นยังต้องทึ่งเพราะมันยังใช้งานได้ พัดลมก็เช่นกัน บางบ้านอาจจะ 2-3 ปีต้องซื้อใหม่ที แต่ที่บ้านนี้พัดลมอยู่ได้เกิน 5 ปีขึ้นไปทุกตัวเพราะ คุณยายจะสอนเสมอว่าให้หมั่นล้างทำความสะอาด หยอดน้ำมันตามแกนใบพัดเพื่อไม่ให้เป็นสนิม เลิกใช้ให้ถอดปลั๊กเก็บสายไฟให้ดีๆเพื่อที่สายจะได้ไม่หักงอ ทำให้เกิดไฟช๊อต
ฟังดูอาจเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่มันทำแล้วเห็นผลจริงๆ เพราะหากเราใช้อย่างระมัดระวัง มีการดูแลรักษา หลังใช้งานมีการทำความสะอาด เก็บให้เรียบร้อย อายุการใช้งานจะนานมากจนเราลืมไปว่าซื้อมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
คุณยายจะบอกเสมอว่า
ใช้ก็ต้องระวัง เก็บล้างก็ต้องระวัง ของอะไรที่มีแล้วก็ไม่ต้องซื้อต้องหาให้เสียเงิน ของยุคใหม่ไม่ทนมือเหมือนของยุคเก่า และที่สำคัญราคามันแพง ซื้อมาแล้วใช้ไม่ถนอมอยู่ไม่นานก็พัง ก็ต้องเสียเงินซื้อใหม่ ซื้อมาแล้วหากไม่ระวังอีกก็ต้องเสียเงินอีกเป็นแบบนี้ไม่รู้จบ แล้วเมื่อไหร่จะมีเงินเหลือ แต่ถ้ารู้จักใช้ รู้จักเก็บ เราก็ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ พอมันหมดอายุการใช้งานหรือพังหลังจากใช้มานานแล้ว เราก็จะเสียดายตรงที่มันเป็นของเก่าของดี ซึ่งบางทีหาซื้อของใหม่ก็หาแบบนี้ไม่ได้แล้ว แต่เราจะไม่เสียดายเงินเพราะใช้มันจนคุ้มเกินราคาที่ซื้อ เมื่อซื้อของใหม่มาแทนก็ให้เลือกของยี่ห้อดีๆ มีราคา มีคุณภาพ แล้วใช้งานมันอย่างถนอม อย่างระวัง เก็บรักษาให้ดีๆ มันก็จะกลายเป็นของที่ซื้อมาแล้วใช้คุ้มค่าคุ้มราคากับเงินที่เรายอมเสียไป