เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วก็เริ่มรู้สึกแปลกใจว่าลูกตัวเล็กที่เคยน่ารัก ว่านอนสอนง่ายและเห็นพ่อแม่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขาหายไปไหน ลูกคนที่เราคุ้นเคยและยิ้มออกมาทุกครั้งที่มองหน้านั้นหายไปไหน แล้วเจ้าเด็กวัยรุ่นรูปร่างเก้งก้าง กับสีหน้ากวนอารมณ์ หน้าหงิกหน้างอที่มาพร้อมกับคำอุทานแย่ ๆ ตลอดเวลาคนนี้มาจากไหน เมื่อความเปลี่ยนแปลงของลูกตัวเล็กกลายเป็นเจ้าแสบตัวโตมาถึง พ่อแม่หลายท่านก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะรับมือกับช่วงเวลาต่อไปนี้อย่างไร ลูกหมือนจะรักแต่เพื่อน ๆ และปิดใจให้กับพ่อแม่มากขึ้นทุกที คงถึงเวลาที่เราจะต้องกู้ความเป็นหนึ่งในใจลูกกลับมาให้ได้ ซึ่งเรามีเคล็ดลับและวิธีการในการ ครองใจลูกวัยรุ่น มาฝาก
-
รับฟังสิ่งที่ลูกวัยรุ่นต้องการพูดเสมอ
สาเหตุที่เด็กวัยรุ่นรักและมอบใจให้เพื่อน ๆ มากกว่าพ่อแม่ในวัยนี้ก็เพราะว่า เพื่อน ๆ รับฟังสิ่งที่เขาพูดอยู่เสมอทุกครั้งที่ต้องการ แถมยังเออออและไม่เคยว่าหรือคอยบ่นในสิ่งที่เขาพูดนั่นเอง การรับฟังสิ่งที่ลูกวัยรุ่นพูด ไม่ใช่ฟังแล้วก็คอยสั่งสอนและบ่นหากเป็นแบบนั้นลูก ๆ ก็คงเซ็งและเข็ดไม่อยากจะเล่าอะไรหรือพูดอะไรให้ฟังอีก เคล็ดลับของพ่อแม่ที่อยากจะเตือนหรือสอนลูกในช่วงเวลาที่ลูก ๆ เล่าหรือคุยอะไรที่เราอยากสอนก็คือ ให้รับฟังไปก่อนและไม่โต้แย้งใด ๆ รอจังหวะที่ลูกถามความเห็นเรา หรือใช้วิธีการเสนอแล้วลงท้ายประโยคว่า….พ่อ หรือ แม่ ขอเสนอลูกคิดว่าไงบ้าง หรือพ่อ แม่ ให้ข้อมูลไปคิดดู แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ดูว่าควรจะตักเตือนเป็นเรื่องจริงจัง ให้รอเวลาไปก่อน ไปคุยในครั้งหน้าที่มีโอกาส ไม่ควรคุยณ เวลานั้น
-
ทำตัวเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นผู้ออกคำสั่ง
ลูกในช่วงวัยนี้ เขาเริ่มโตและเรียนรู้โลกของเขาเอง ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป เขาเป็นตัวของตัวเองและอยากให้ผู้คนรอบข้างยอมรับความเป็นตัวเขาด้วย ความคิดของเขาเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดและต้องการพิสูจน์ในทุกความคิดว่าทำได้แค่ไหน ดังนั้น หากเราไปคิดแทนแล้วใช้วิธีสั่งพวกเขาย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน เคล็ดลับที่ควรทำสำหรับพ่อแม่ก็คือ ให้ทำตัวเป็นเพื่อนและลดบทบาทความเป็นพ่อแม่ลงให้มาก ๆ และเลิกการออกคำสั่งว่า ลูกควรทำอะไรอย่างไร แต่ให้ใช้วิธีปรึกษาและทำข้อตกลงร่วมกันแทน เมื่อต้องการจะให้ลูกทำอะไร ลองใช้วิธีการบอกคร่าว ๆ โดยให้ลูกได้คิดวิธีการที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จแทน และคอยมองดูความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นละชื่นชมในสิ่งเหล่านั้น เราอาจได้พบว่าลูกของเรา มีศักยภาพมากกว่าที่เราคิดอย่าไม่น่าเชื่อ
-
ให้กำลังใจมากกว่าซ้ำเติม
เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นในลูกวัยรุ่น สิ่งที่พ่อแม่ทั่วไปมักจะทำคือดุด่าว่ากล่าว แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ลูกวัยรุ่นต้องการมากยิ่งกว่า และคาดหวังจะได้รับจากพ่อแม่นั่นก็คือ ความเข้าใจและการให้กำลังใจ ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อได้ทำสิ่งใดผิดพลาดหรือล้มเหลว คนที่ผิดหวังที่สุดและต้องรับผลของความผิดพลาดนั้นไม่ใช่ใคร ก็คือตัวลูกวัยรุ่นที่น่าสงสาของเรานั่นเอง ดังนั้นเขาจึงต้องการคำปลอบโยนและให้กำลังใจมากกว่าการตักเตือนหรือซ้ำเติมแน่นอน หากเราเข้าไปช้อนรับความรู้สึกของเขาในเวลาเล่านั้นแล้วละก็ เราย่อมซื้อใจเขาได้
-
ให้ลูกสัมผัสว่าเราเชื่อใจ
การคิดในมุมบวกและไม่มีอคติในจิตใจต่อลูกวัยรุ่น และให้ความไว้วางใจและเชื่อใจเขาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ความไว้วางใจจะทำให้ลูกรู้สึกว่าเรารักและคาดหวังในตัวเขา คงไม่มีใครอยากทำให้คนที่คาดหวังต่อเราผิดหวัง ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ลูก ๆ ต้องการโดยเฉพาะจากผู้เป็นพ่อแม่ หากคนที่สำคัญและใกล้ชิดที่สุดในชีวิตไม่เชื่อใจเขา เขาจะไปแสวงหาความคาดหวังและเชื่อใจจากคนนอกบ้านจากเพื่อน ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมหรือรู้ได้ว่า จะเกิดผลอะไรขึ้นบ้าง
-
ให้อิสระในการตัดสินใจและยอมรับความคิดสร้างสรรค์
การให้อิสระแก่ลูกวัยรุ่นที่จะตัดสินใจในหลาย ๆ เรื่องของตัวเขาเอง จะทำให้เขารู้สึกว่าเรายอมรับเขาและมองเห็นว่าเขามีความสำคัญและมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้ลูกวัยรุ่นเกิดความภูมิใจในตัวเอง และค้นพบว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้ได้ มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง และเขาจะรู้สึกรักพ่อแม่และรู้สึกว่าพ่อแม่คือคนที่เข้าใจเขา และเขาก็จะเปิดใจและให้ใจกับพ่อแม่ได้ไม่ยาก
การครอบครองจิตใจของลูกในช่วงที่เป็นวัยรุ่นนั้น เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะลูกจะดีหรือไม่ดีในวัยนี้นั้น ความสัมพันธ์ที่เขามีต่อพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญที่จะชี้วัดและเกิดผลในทางใดทางหนึ่งต่อชีวิตของเขาได้ หากใจของลูกอยู่ที่พ่อแม่แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร พายุค่านิยมขอสังคม ฮอร์โมนของวัยหนุ่มสาว และเพื่อน ๆ ก็ไม่สามารถดึงลูกไปในทางไม่ดีได้ เพราะเขายังมีความรักความผูกพันของพ่อแม่เกี่ยวใจของเขาไว้ได้เสมอ อย่าให้ใจของลูกเป็นของคนอื่น ใช้เวลาและวิธีการครอบครองใจลูกเสียก่อนในขณะที่เรายังทำได้ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ยาก เพราะลูกย่อมรักและต้องการความรักความสัมพันธ์จากพ่อแม่อยู่แล้ว