เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต เมื่อก่อนหลายร้อยปีอาจไม่เป็นความจริง แต่โลกยุคปัจจุบันเงินโคตรสำคัญ เงินคือพระเจ้า ถ้ามีเงินก็สามารถซื้อทุกอย่างที่อยากได้ ซื้อทุกอย่างที่อยากกิน พอได้ข้าวของทุกอย่างแล้ว กินทุกสิ่งที่อยากกินแล้ว ชินแล้ว ไงต่อ ก็คงเบื่อ เบื่อ เบื่อ และต้องการเสพสิ่งใหม่ๆ ไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อต้องไขว่คว้าไปเรื่อยๆ จะดีหรือ ก็คงดีมั้ง สำหรับคนที่มีเงินมหาศาลขนาดนั้น เขาคงอยู่ในโลกบนกองเงินกองทอง จะกินใช้เสพสุขอย่างไรก็ช่างเขาเถอะ เพราะคนแบบนี้มีน้อยนิดในโลก
มาว่ากันเรื่องของคนส่วนใหญ่บนโลกที่มีทุกอย่างอย่างจำกัด อยากได้อะไรก็ไม่ใช่ว่าจะได้ดังใจง่ายๆ ต้องทำงาน อดทน ใช้เวลา แลกสิ่งเหล่านั้นมา คนส่วนใหญ่หวังว่า วันหนึ่งถ้ามีเงินมากขึ้นก็จะสบาย และมีความสุขมากขึ้น ความหวังและความเชื่อแบบนี้ ถูกต้องแต่ไม่ถูกทั้งหมด เพราะความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนเงินที่เรามีไปตลอดชีวิต
ผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ความสุขของคนเรา แปรผันตามจำนวนเงินเพียงแค่ช่วงแรกๆ ที่ยังขาด นั่นแสดงว่า เมื่อเราไม่ขาดแล้ว มีครบแล้ว เงินกับความสุขก็แยกทางกันอย่างนั้นใช่ไหม ตอบว่า ใช่ ประเด็นอยู่ที่ สิ่งที่ขาด นั้นคืออะไร ช่วงแรกที่ยังขาดนั้นก็คือ ปัจจัยสี่ ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ยารักษาโรค เมื่อเรามีปัจจัยสี่เหล่านี้ครบแล้ว เงินที่เพิ่มขึ้นมาหลังจากนี้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราส่วนที่น้อยลง ยกตัวอย่างสมัยที่หลายๆคนยังเป็นเด็ก เป็นนักเรียน นักศึกษา แน่นอนว่าตอนนั้นต้องขอเงินพ่อแม่ หรือถ้าทำงานเองได้ ก็ได้เงินไม่มาก ทุกคนก็มีความสุขได้ในระดับหนึ่ง พอจบมาทำงานมีเงินเดือน ที่ถือว่าตอนนี้มีเงินมากกว่าสมัยเรียนหลายเท่านัก แต่ความสุขที่มีนั้นสุขมากกว่าสมัยวัยเรียนหลายเท่าตามจำนวนเงินที่เรามีเพิ่มขึ้นด้วยหรือเปล่า ส่วนใหญ่ตอบว่าไม่ แถมหลายๆคนยังบอกอีกว่า ตอนเด็กสมัยที่ยังไม่มีเงินนั้น มีความสุขมากกว่าตอนทำงานด้วยซ้ำ
ความสุขหลายๆอย่างเกิดได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองมากมาย เช่น จากการเล่นกีฬา วาดรูป ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ คนที่มีความสุขมากๆบางคน ไม่ต้องมีเงินมากมายก็ยังมีความสุขได้ คนที่ลำบากมาตั้งแต่เด็กดูจะได้เปรียบในเรื่องความสุขที่อาจมีได้บ่อยกว่าเด็กที่เกิดบนกองเงินกองทอง ตัวอย่างเช่น เด็กที่ฐานะยากจนได้ไปเที่ยวสวนสนุกท้องถิ่นครั้งแรกเขาจะมีความสุขมาก เด็กที่ฐานะร่ำรวยไปเที่ยวสวนสนุกชื่อดังของต่างประเทศครั้งแรกก็สนุกและมีความสุขมากเช่นกัน ต่อมาเด็กที่ได้เคยไปสวนสนุกใหญ่ๆมาแล้ว จะไม่สนุกอีกเมื่อได้ไปเที่ยวสวนสนุกท้องถิ่น หรือเล่นอะไรที่ดูตื่นเต้นน้อยกว่า ขณะที่เด็กยากจนถ้ามีโอกาสได้ไปสวนสนุกที่กว้างใหญ่ ทันสมัยขึ้นอีก ก็จะมีความสุขสนุกมากขึ้นอีกเป็นลำดับขั้นไป
ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้คนเรามีความสุขได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้วเหมือนๆกัน อิสรภาพทางใจนั้นไม่ขึ้นกับอิสรภาพทางการเงิน พระสงฆ์องค์เจ้าไม่มีทรัพย์สมบัติ ก็มีอิสระทางใจ สามารถหาความสงบสุขให้กับตนเองได้เหมือนกัน และดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าคนที่ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองหลายๆคนด้วยซ้ำไป คนที่มีฐานะยากจนตั้งแต่เด็กแล้วสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจากการทำงานที่ตนเองรักอย่างมีความสุข ถึงวันหนึ่งฐานะการเงินก็ร่ำรวยขึ้นมาเทียบเท่ามหาเศรษฐีได้ก็มีให้เห็นกันหลายคน จึงสรุปได้ว่า เงินกับความสุขไม่จำเป็นต้องมากขึ้นหรือลดลงติดตามกันไปด้วยทุกครั้ง บางครั้งเงินน้อยลงกลับมีความสุขมากขึ้นก็ได้ หรือคนที่มีเงินน้อยกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขน้อยกว่าคนที่มีเงินมาก คำกล่าวที่ว่าความสุขจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเงินที่มีนั้นไม่แน่เสมอไป หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ความสุขไม่ได้แปรผันไปตามจำนวนเงิน
อ่านเพิ่มเติม : มีเงินมากแล้วมีความสุข จริงหรือ ?