จากบทความที่แล้วที่พูดถึงการทำแบบประเมินความเสี่ยง ก็มาถึงหมวดสุดท้าย !! นั่นคือคำถามเกี่ยวกับทัศนคติในการลงทุนครับ
อ่านบทที่แล้ว : Happy Investing The Series : มาทำ แบบประเมินความความเสี่ยง กัน (1)
โดยในคำถามหมวดนี้เป็นการวัดความStrong!!!ล้วนๆ เพราะจะถามเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ผลตอบแทนที่คาดหวัง ความอดทนต่อความผันผวน อะไรทำนองนั้น
โปรยกันมาแบบจัดเต็มขนาดนี้แล้ว เพื่อให้เห็นภาพกันแบบคมชัดระดับ HD เอาเป็นว่าไปลองทำแบบประเมินความเสี่ยงกันเลยดีกว่า ทำจริง ตอบจริง อย่ามนง อย่ามโนนะครับ…
1. ปัจจุบันท่านอายุเท่าไร
a. มากกว่า 60 ปี
b. 50-60 ปี
c. 35-49 ปี
d. ต่ำกว่า 35 ปี
2. ระดับการศึกษาของท่าน
a. ต่ำกว่าปริญญาตรี
b. ตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป
3. ท่านมีประสบการณ์การลงทุนในตราสารทางการเงินมานานเท่าไร
(ในข้อนี้ไม่รวมการฝากเงินในธนาคารนะครับ เพราะการฝากเงินคือการออม แต่ไม่ใช่การลงทุนนะ)
a. ไม่เคยลงทุนมาก่อน
b. น้อยกว่า 1 ปี
c. 1-5 ปี
d. มากกว่า 5 ปี
4. ปัจจุบันท่านมีเงินออมเพื่อใช้จ่ายได้นานเท่าไร
(คำถามข้อนี้ถามว่าผู้ลงทุนมีเงินออมในปัจจุบันเพียงพอกับรายจ่ายในชีวิตประจำวันได้นานแค่ไหน หากไม่มีรายได้จากการทำงาน)
a. มีเงินออมที่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้น้อยกว่า 1 ปี
b. มีเงินออมที่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่ 1-3 ปี
c. มีเงินออมที่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่ 3-5 ปี
d. มีเงินออมที่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่ 5 ปี
5. ระยะเวลาในการลงทุนของท่าน
(คำถามข้อนี้จะถามว่า ผู้ลงทุนสามารถใช้เงินก้อนนี้ลงทุนได้นานแค่ไหน มีภาระใช้เงินก้อนนี้ลงทุนได้นานแค่ไหน มีภาระต้องใช้เงินก้อนนี้ในช่วงเวลาอันใกล้หรือไม่)
a. น้อยกว่า 1 ปี
b. ตั้งแต่ 1-3 ปี
c. ตั้งแต่ 3-7 ปี
d. มากกว่า 7 ปีขึ้นไป
6. ท่านต้องการรายได้จากเงินทุนก้อนนี้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไม่
(คำถามข้อนี้จะถามผู้ลงทุนว่า ผู้ลงทุนต้องการายได้จากเงินลงทุนก้อนนี้ เพื่อไว้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไม่ ผู้ลงทุนมีรายได้ไว้ใช้จ่ายจากเงินส่วนอื่น เช่น เงินเดือน)
a. ต้องการมากที่สุด
b. ต้องการบ้าง
c. ต้องการเพียงเล็กน้อย
d. ไม่ต้องการเลย
7.ทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุน
(คำถามข้อนี้จะถามผู้ลงทุนเกี่ยวกับการยอมรับการขาดทุนเงินต้น และผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน)
a. ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนเงินต้นได้เลย แม้ว่าจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
b. สามารถทนต่อการขาดทุนเงินต้นได้เล็กน้อย เพื่อมีโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
c. สามารถทนต่อการขาดทุนเงินต้นได้ค่อนข้างมาก เพื่อมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
d. อยากได้ผลตอบแทนที่สูง โดยไม่มีข้อจำกัดในการลงทุนและสามารถทนต่อการขาดทุนได้สูง
8.ท่านสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับใด
(คำถามข้อนี้จะเป็นคำถามที่แสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนมีเป้าหมายในการลงทุน และยอมรับความผันผวนของราคาได้มากแค่ไหน)
a. น้อยที่สุด เน้นการลงทุนที่มีรายได้ประจำ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินต้น แม้ว่าจะได้รับ ผลตอบแทนในระดับที่ต่ำที่สุด
b. รับได้ในระดับหนึ่ง เพื่อสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
c. รับได้ปานกลาง เพื่อสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
d. รับได้มากเพื่อผลตอบแทนที่สูงสุดในระยะยาว
9.เป้าหมายในการลงทุนของท่านตรงกับข้อใดมากที่สุด
(คำถามข้อนี้จะถามผู้ลงทุนเกี่ยวกับผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนคาดหวัง)
a. ยอมรับผลตอบแทนในระดับต่ำกว่าเงินเฟ้อ เพื่อเน้นการรักษาเงินต้น
b. คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อ โดยยอมรับการขาดทุนเงินต้นได้บ้าง
c. เน้นผลตอบแทนที่สูง โดยสามารถยอมรับการขาดทุนของเงินต้นได้
d. ต้องการผลตอบแทนที่สูงสุด โดยสามารถยอมรับความเสี่ยงได้เต็มที่
10.ท่านคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน และยอมรับการขาดทุนจากการลงทุนได้เท่าไร
a. โอกาสกำไรหรือขาดทุนได้ต่ำ 10%
b. โอกาสกำไรหรือขาดทุนหรือขาดทุนระหว่าง 10-20%
c. โอกาสกำไรหรือขาดทุนหรือขาดทุนระหว่าง 20-50%
d. โอกาสกำไรหรือขาดทุนได้มากกว่า 50%
เมื่อทำแบบทดสอบกันเรียบร้อยต่อไปก็ใช้กึ๋นการคำนวณกันซักหน่อย (แหม่ แค่บวกเลขนี่นะ)
มารวมคะแนนกันเลย !!
- เลือกคำตอบ a ได้ 1 คะแนน
- เลือกคำตอบ b ได้ 2 คะแนน
- เลือกคำตอบ c ได้ 3 คะแนน
- เลือกคำตอบ d ได้ 4 คะแนน
เมื่อเราได้ทำแบบประเมินกันไปแล้ว ผลที่ออกมาก็จะบอกได้ว่าเราเป็นผู้ลงทุนแบบไหน เหมาะแก่แบ่งเงินลงทุนไปในสินทรัพย์ประเภทใด จำนวนเท่าไร หรือภาษาแบบแอลิแก๊นซ์นิดๆ คือ Asset Allocation นั่นเอง ตามที่เราได้เกริ่นไว้ในตอนแรกเริ่มเลย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านผู้อ่านที่น่ารักแต่ละคนแล้วล่ะครับว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบใด ตามผลลัพธ์ที่ได้จากการทำแบบประเมิน มาลุ้นไปพร้อมๆกันครับว่าเราจะอยู่ในระดับไหนกันนะ…
10 – 15 คะแนน
Super Conservative Investor ผู้ลงทุนวัยเตาะแตะ
ใครที่มีผลประเมินออกมาอยู่ในระดับนี้บอกได้เลยว่าเป็นนักลงทุนที่กำลังตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กินเลยที่เดียวครับ เดาได้ไม่ยากเลยว่าน่าจะเป็นคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อนครับ มือใหม่ใสๆซิงๆมากเลยทีเดียว โดยจะไม่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงมาก ประมาณ 3-5% ต่อปี แต่จะเน้นไปการปกป้องเงินลงทุนมากกว่า เรียกได้ว่ายอมรับความเสี่ยงได้ต่ำสุดๆ เซนซิทีฟมากจริงเลยเชียว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะลงทุนไม่ได้เลยนะ เพราะยังมีตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำให้เราเลือกลงทุนได้อยู่ โดยผู้ลงทุนวัยเตาะแตะทั้งหลายอาจกระจายการลงทุนเป็นแบบ เงินฝาก 50% ตราสารหนี้50% ผลตอบแทนอาจจะไม่สูงมากแต่อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนนะครับ เอาไปเม้าท์กับใครต่อใครได้สบาย
16-25 คะแนน
Conservative Investor ผู้ลงทุนวัยใส
หากใครที่มีผลประเมินออกมาแล้วจัดอยู่ในกลุ่มนี้ล่ะก็ แสดงว่าคุณอาจพอมีประสบการณ์ในการลงทุนอยู่บ้าง ความคาดหวังก็จะเพิ่มมากขึ้นจากนักลงทุนวัยเตาะแตะสักหน่อย อยู่ที่ 6-7% ต่อปี แต่ใจอาจจะยังไม่กล้าพอที่จะลงทุนในหุ้น อาจจะเพราะความผันผวนสูงนั่นเอง แต่ที่จริงแล้วผู้ลงทุนวัยใสสามารถลงทุนในหุ้นได้ครับ การกระจายการลงทุนจะมีลักษณะเป็น เงินฝาก 30 % ตราสารหนี้ 40 % ตราสารทุน 30 % แต่ถ้าหากคิดว่าการลงทุนในหุ้นมากไป ก็ลดสัดส่วนลงมาได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าเงินที่เรานำมาลงทุนในหุ้นนั้น หากวันหนึ่งเกิดวาร์ปหายไป !! จะกระทบกับชีวิตประจำวันของเราหรือเปล่า ถ้ามันไม่ถึงขนาดนั้น อย่าได้แคร์ครับ ลุยไปเลย !! 30% จิ๊บๆ แต่ถ้าหากรู้สึกกระวนกระวายกับความผันผวน คล้ายจะลมพัดตึ่ง !! ตลอดเวลา แนะนำให้ลดสัดส่วนตาใจชอบเลยครับ
26 – 35 คะแนน
Moderate Investor ผู้ลงทุนวัยว้าวุ่น
เรียกได้ว่าถ้าใครได้คะแนนจัดอยู่ในกลุ่มนี้เรียกว่าเดินทางสายกลางระหว่างรักความเสี่ยงหรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เป็นฟีลประมาณว่า “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” แบบที่พี่ๆบิ๊กแอสบอกไว้อะไรทำนองนั้น ถือว่ามีความเข้าใจในการลงทุนในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ผลตอบแทนที่คาดหวังก็จะอยู่ที่ประมาณ 8-10% แต่ก็มีแอบคาดหวังกับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเหมือนกันนะ โดยสัดส่วนการกระจายการลงทุนจะเป็น เงินฝาก 20 % ตราสารหนี้ 30% ตราสารทุน 50% โดยแบ่งระหว่างสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างละครึ่งทางนั่นเองครับ
มากกว่า 35 คะแนน
Aggressive Investor ผู้ลงทุนวัยเซียน
มาถึงตรงนี้ใครที่เป็น Survivor เข้ามาในโซนนี้ได้ จัดว่าเป็นถึงผู้ลงทุนระดับเซียนเลยทีเดียว ประสบกาณ์โชกโชนพอสมควรในการลงทุน สตรองต่อความผันผวนของราคาได้มาก เรียกว่าไม่เคยหวั่นไหวเลย แหม่ !! คนจริงเห็นๆ คาดหวังผลตอบแทนสูง เพื่อชดเชยความเสี่ยง โดยมีความคาดหวังมากเกิน 10% เลยทีเดียว แต่ต่อให้สตรองประดุจพ่อบ้านใจกล้าขนาดไหน ก็ต้องแบ่งเงินลงทุนบางส่วนไว้ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เผื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉินด้วยนะครับ โดยรูปแบบการกระจายการลงทุนจะเป็น เงินฝาก 10% ตราสารหนี้ 20% ตราสารทุน 70 %
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับกับเรื่องของแบบประเมินความเสี่ยง ที่พวกเรา Moneyhub นำมาฝากกัน เห็นไหมครับว่าแบบประเมินธรรมดาๆไม่กี่แผ่น จริงๆแล้วมีส่วนช่วยในก้าวแรกของการลงทุนได้มากเลย จึงอยากให้ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านคอนเซนเทรด !! กับการทำแบบประเมินกันด้วยนะครับ (ย้ำแล้วย้ำอีก) แต่ !! เชื่อว่าหลายๆคนคงมีข้อสงสัยในใจกันใช่มั้ยครับ ว่าตราสารทุน ตราสารหนี้ ที่แพลมๆมาในบทความมันคืออะไรนี่ ?? เก็บข้อสงสัยเหล่านั้นไว้ครับ !! แล้วมาพบกันในบทความหน้าเราจะมาทำความรู้กันมากขึ้นครับ สำหรับวันนี้ สวัสดี