ฉีดวัคซีน ไวรัสตับอักเสบบี ประกันสังคม 2568
ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) ถือเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ที่หากติดเชื้อแบบเรื้อรัง ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยมาตลอดหลายปีอีกด้วย และการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการฉีดวัคซีนครบชุด
ทำไมคนเกิดก่อนปี 2535 ถึงมีความเสี่ยงมากกว่า?
ประเทศไทยเพิ่งบรรจุวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีในโปรแกรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (EPI) ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ดังนั้นผู้ที่เกิดก่อนหน้านั้นส่วนใหญ่ จะไม่ได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด ทำให้มีโอกาสไม่มีภูมิคุ้มกัน หรืออาจติดเชื้อมาก่อนแล้ว โดยข้อมูลการสำรวจสรุปได้ว่ากลุ่มที่เกิดก่อนปี 2535 มีอัตราติดเชื้อเฉลี่ย 4 – 6% ขณะที่กลุ่มที่เกิดหลังปี 2535 เหลือเพียงไม่ถึง 1%
- ผู้ที่ติดเชื้อเรื้อรังมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับสูงกว่าคนทั่วไป ถึง 100 เท่า
- ฉีดวัคซีน ไวรัสตับอักเสบบี ประกันสังคม 2568 และสิทธิพื้นฐาน
โดยในปี 2568 ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไปสามารถใช้สิทธิในการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีได้ตามเงื่อนไข ดังนี้
-
- สิทธิคัดกรองฟรี 1 ครั้งตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 เพื่อค้นหาว่ามีการติดเชื้อหรือไม่
- หากผลตรวจพบว่า ไม่ติดเชื้อแต่ไม่มีภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม (ขึ้นกับสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพว่าครอบคลุมหรือไม่)
- หากพบว่ามีการติดเชื้อเรื้อรัง จะเข้าสู่กระบวนการติดตาม และรักษาตามสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขั้นตอนการเข้ารับวัคซีน และตรวจคัดกรอง
- ติดต่อโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม หรือสถานพยาบาลที่อยู่ในสิทธิ
- แจ้งสิทธิการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
- ทำการตรวจเลือดเพื่อประเมินสถานะภูมิคุ้มกัน และการติดเชื้อ
- ดำเนินการฉีดวัคซีนหรือเข้าสู่กระบวนการรักษาตามผลตรวจ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากไม่แน่ใจว่าตนเองเคยฉีดวัคซีนหรือไม่ ควรตรวจเลือดเพื่อดูภูมิคุ้มกันก่อน
- กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ทำงานด้านสาธารณสุข หรือผู้ที่ต้องสัมผัสเลือด และสารคัดหลั่ง ควรตรวจ และฉีดวัคซีนทันที
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยง
ประกันมะเร็ง ตัวช่วยบรรเทาความทุกข์
แม้การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งตับได้มาก แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% โดยเฉพาะในผู้ที่ติดเชื้อเรื้อรัง หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ดังนั้นประกันมะเร็ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบรรเทาความทุข์ และภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดโรคร้าย ดังนี้
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษา ครอบคลุมตั้งแต่การวินิจฉัย การผ่าตัด เคมีบำบัด และรังสีรักษา
- เงินชดเชยรายได้ ช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันระหว่างรักษาตัว
- คุ้มครองโรคมะเร็งหลายชนิด ไม่เฉพาะมะเร็งตับ แต่รวมถึงมะเร็งเต้านม ปอด ลำไส้ และอื่น ๆ
- เบี้ยประกันเริ่มต้นไม่สูง เลือกวงเงินคุ้มครองได้ตามงบประมาณ
จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่ามะเร็งตับ ถือเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของไทย และวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี อาจเรียกได้ว่าเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งชนิดแรก เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันมะเร็งตับ ที่อาจเกิดต่อเนื่องจากภาวะไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งตับถึง 80% ดังนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันไว้จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อป้องกันโรคร้ายในอนาคต โดยเฉพาะกับผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 ที่มีโอกาสไม่มีภูมิคุ้มกัน และเสี่ยงติดเชื้อมากกว่า รวมถึงอีกหนึ่งทางเสริมความอุ่นใจทั้งด้านสุขภาพ และการเงินก็คงไม่พ้นการทำประกันโรคร้ายแรง ที่สามารถสมัครออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ อีกทั้งยังมีตัวเลือกหลากหลาย เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อย