หลายคนที่ทำงานได้สักระยะหนึ่งแล้วก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องสร้างทรัพย์สินให้กับตัวเองและครอบครัวกันบ้างแล้ว ซึ่งที่คนส่วนมากจะนึกถึงกันก็คือ บ้านหรือรถยนต์ แต่คำถามที่ตามมาบ่อยๆ ก็คือ แล้วจะซื้ออะไรก่อนดีล่ะ ถ้าเราเป็นคนที่มีเงินมากพอสามารถซื้อทั้งสองอย่างได้ทันที ก็คงจะไม่ต้องมีคำถามแบบนี้ขึ้นมาในใจ แต่เมื่อวันนี้รายได้ส่วนใหญ่ของเรายังมาจากรายได้ประจำเพียงอย่างเดียว เราคงจะต้องศึกษาเงื่อนไขของการมีบ้านและรถให้ครบถ้วนกันก่อนตัดสินใจดีกว่า
แต่ก่อนที่เราจะไปศึกษาเงื่อนไขในแต่ละเรื่องเราน่าจะต้องตอบคำถามกับตัวเองให้ได้ก่อน คือ ทั้งบ้านและรถมีความจำเป็นและมีประโยชน์ใช้สอยอะไรให้กับเราบ้าง
เช่น ถ้าวันนี้เราอยู่บ้านกับพ่อแม่อยู่แล้วการซื้อบ้านเป็นของตัวเองก็อาจจะยังไม่จำเป็น หรือบางคนเป็นเด็กต่างจังหวัดมาทำงานในเมืองหลวง อีกทั้งหน้าที่การงานก็มั่นคงดี สามารถอยู่ได้ไปจนตลอดอายุการทำงาน การมองหาบ้านสักหลังก็น่าจะเป็นเรื่องจำเป็น หรือบางคนเป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน คิดว่าเก็บประสบการณ์ในเมืองหลวงสักพักก็จะกลับไปต่างจังหวัด การซื้อบ้านอาจจะไม่จำเป็นแถมเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่อีกต่างหาก
เมื่อตอบคำถามเรื่องบ้านได้แล้วก็ลองมาหาคำตอบในเรื่องรถกันดูบ้างว่าจำเป็นหรือเปล่า
เช่น บางคนอยู่บ้านกับพ่อแม่แต่บ้านกับที่ทำงานไกลกันเหลือเกิน นั่งรถก็หลายต่อมากมายจนบางครั้งมาคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทางบวกกับเวลาที่ต้องเสียไปจากการต่อรถ การหาซื้อรถมาใช้สักคันก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดีก็ได้ หรือบางคนที่ต้องใช้รถยนต์ในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เช่น การใช้รถเพื่อบรรทุกของสำหรับเอาไปขาย หรือใช้รถเพื่อไปติดต่องานหาลูกค้าแถมบริษัทยังช่วยออกค่าน้ำมันให้ แบบนี้ก็น่าจะซื้อรถมาใช้กัน
ถัดมาก็เป็นเรื่องของความสามารถในการชำระหนี้
แน่นอนว่าถ้าการซื้อรถหรือบ้านเราสามารถซื้อด้วยเงินสดได้ทันทีเราก็มองผ่านข้อนี้ไปได้เลย แต่ส่วนใหญ่มักจะต้องขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อที่จะหาบ้านหรือรถมาครอบครองได้ ดังนั้นเราก็ต้องดูเราด้วยว่ารายได้และค่าใช้จ่ายที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนี้มีเพียงพอต่อการจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนโดยที่เราไม่เดือดร้อน ไม่หนักจนเกินไปหรือเปล่า ซึ่งง่ายๆ เลยก็คือ ถ้าเรานำค่าใช้จ่ายและเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนมารวมกันแล้วมากกว่า 1 ใน 3 ของรายรับในแต่ละเดือนของเราแล้วล่ะก็ การมีบ้านหรือรถที่เป็นเงินผ่อนนั้นก็คงจะต้องรอไปก่อน ยอมลำบากไปสักนิดแล้วค่อยสร้างก็ยังไม่สาย เพราะถ้าหากการผ่อนในแต่ละเดือนที่หนักจนเกินไปสำหรับการมีบ้านหรือรถนั้น ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนเพราะถ้าหากเดือนไหนที่เราผิดนัดชำระให้กับธนาคาร สิ่งที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่ายในการทวงหนี้ ประวัติเครดิตก็เสีย และจะทำให้มีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตก็เป็นได้
อ่านเพิ่มเติม : เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ กันนะ ?
และเมื่อเรามีบ้านหรือรถยนต์เป็นของตัวเองเราจะต้องไม่ลืมเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะตามมาด้วย หากเราเลือกซื้อรถ เราจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าประกันภัย ค่าซ่อมบำรุงตามระยะทาง ส่วนบ้านเราอาจจะมองว่าไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิกเหมือนรถยนต์ แต่อย่าลืมว่าถ้าเราซื้อบ้านตามโครงการต่างๆ สิ่งที่จะตามมาทุกปี คือ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ในแต่ละปีเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยกันเลย เพราะฉะนั้นก่อนซื้อบ้านซื้อรถก็ลองคำนวณดูก่อนว่ารายรับของเราในแต่ละเดือนนั้น เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า
ซึ่งหากเราหาคำตอบทั้งสามส่วนให้ตัวเองได้แบบไม่หลอกตัวเองแล้วล่ะก็ ถ้าพร้อมจะมีบ้านมีรถก็ตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของได้ตามแบบที่ชอบกันได้เลยไม่ว่ากัน