หลังจากที่คุณแม่ลาคลอดได้ 3 เดือน ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปทำงาน แต่บางคนโชคดีไม่ต้องกลับไปทำงานไม่ต้องมีภาระเรื่องค่าใช้จ่าย หรือบางคนอาจจะต้องกลับไปทำงานเพราะอยากจะรักษาสังคมและมองเรื่องการก้าวหน้าในหน้าที่การงานไว้ เพราะถ้าไม่กลับมาทำงานตอนนี้ จะเว้นช่วงมากเกินไปกว่าจะรอให้ลูกอายุถึง 3 ปีและเข้าอนุบาล ความจำเป็นของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าได้ตัดสินว่าเราผิดหรือถูก เราควรดูตามความเหมาะสม ถ้าเราไม่สามารถอยู่ดูแลลูกได้ ควรที่จะต้องมีทีมงานที่คอยช่วยเหลือเราในการดูแลลูก ถ้าไม่มีเราก็ต้องเลี้ยงเอง และให้สามีเป็นคนหาเงินเข้าบ้านคนเดียว ไม่อย่างนั้น ต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพเพียงพอมาดูแล
ถ้าคุณแม่ต้องกลับมาทำงานหลังจากที่ลูกอายุ 3 เดือนยังถือว่าเหนื่อยใจแค่จุดเดียวคือ ใจของคุณแม่เอง แต่ถ้าลูกเริ่มโตขึ้น 1 ขวบขึ้นไปคุณแม่ เขาจะติดคุณแม่หนักมาก เพราะจำได้แม่นแล้ว เนื่องจากวัยนี้เริ่มพูดและเดินได้คล่องมากขึ้น จะมีการเดินตามคุณแม่ เกาะขาแน่น และจะชอบเบียดที่ขาเราเพื่อกอดเข้าไว้ เขาต้องการความอบอุ่นให้เราอุ้มและกอดเขา คุณพ่อหรือคุณแม่ควรใจเย็นและให้ความรักกับเขามาก ๆ เด็ก ๆ จะรู้คำศัพท์ว่า พ่อแม่จะไปทำงานแล้วนะคะ / นะครับ หลังจากเด็ก ๆ ได้ยินเขาจะเริ่มออกอาการ เกาะแน่น จะให้คุณพ่อคุณแม่อุ้ม
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเล่นกับเขาก่อนให้เขาสบายใจ หรือ เปลี่ยนสถานการณ์ อิริยาบทของเขา อาจจะให้คนที่ช่วยเลี้ยงเข้ามาหลอกเล่นด้วย อย่างไรก็ตาม การแยกตัวเองออกจากลูกนั้นลำบากใจทุกครั้ง คุณแม่ต้องทนกับเสียงร้องไห้ จากประสบการณ์ ขอแนะนำเทคนิคคร่าว ๆ ดังนี้
- ให้คนที่เลี้ยงพาเด็กน้อยออกไปข้างนอกไม่ให้เห็นขณะที่คุณแม่กำลังออกประตูบ้าน
เทคนิคนี้ใช้ได้เสมอ เรียกได้ว่า ถ้าไม่เห็นก็น้ำตาไม่ไหล แต่ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่อยู่กับน้องตอนกลางคืน ควรพูดกับเขาว่า ลูก แม่/พ่อต้องไปทำงานทุกวันเพื่อหาเงินให้หนูนะ รักหนูมาก ๆ นะคะ/ครับ พ่อกับแม่ได้ได้ทิ้งหนู หลังเลิกงานจะรีบกลับมาหาหนูทุกวันนะ และหลังจากที่กลับมาบ้านแล้วขอให้ใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุดเช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ แต่งตัว ให้นม เล่านิทาน อุ้มนอน กอดเขาให้แน่น ๆ ทุกครั้ง
- ส่งของเล่นหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ที่ปลอดภัย ผลไม้เป็นลูกให้เขาสัมผัสด้วยมือ
เด็ก ๆ มักจะตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ นอกจากของเล่นชิ้นใหม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมส่งของให้เด็ก ๆ มาเล่น อาจจะเป็นผลส้ม แอปเปิ้ล ถุงพลาสติกเป่าลม ให้เด็ก ๆ ได้เล่นและสัมผัส ยกตัวอย่างผลส้มแช่เย็น เมื่อลูกน้อยได้จับจะยิ่มและสงสัยอันนี้เรียกอะไรนะ เขาจะมีสมาธิจดจ่อ เด็ก ๆ มักจะชอบอะไรที่ไม่ใช่ของเล่นเด็ก ซึ่งแปลกมากไม่รู้ว่าทำไม แต่ต้องดูความปลอดภัยด้วย หลังจากนั้นเรารีบเตรียมของไว้ จัดที่ให้เขาเล่นพร้อมกับคนที่เลี้ยงเขาให้อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ต้องหันหลังให้ประตู และเราเอากระเป๋าเดินออกไปทำงานอย่าง เงียบ ๆ
- เตรียมของกินที่อร่อยไว้ให้เขา หรือดื่มนม
จัดให้เขาได้นั่งบนโต๊ะกินข้าวและหันหลังให้ประตู แต่ต้องให้เขาหิวจัด เขาจะมีสมาธิในการกิน อาจจะเป็นมื้ออาหาร หรือนมก็ได้ถ้าถึงช่วงเวลาดื่มนมของเขา จุดนี้เขาจะลืมคุณแม่ไปชั่วขณะให้คนเลี้ยงพูดและเล่นกับเขาขณะที่กิน และเราค่อย ๆ เดินเบี่ยงออกประตูบ้านมา