หนี้ส่วนต่างรถยนต์ อายุความกี่ปี ถ้าหากไม่ชำระ
การซื้อรถยนต์มือสองด้วยระบบผ่อนชำระเป็นทางเลือกยอดฮิตสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด แต่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้คือ การเกิดหนี้ส่วนต่างรถยนต์ ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่มูลค่าตลาดของรถต่ำกว่ายอดเงินที่ต้องจ่ายชำระคืนแก่ผู้ให้สินเชื่อ เมื่อต้องการขายรถคันนั้นออกไป หนี้ส่วนต่างรถยนต์จะเกิดขึ้นได้ง่ายสำหรับรถยนต์มือสอง เพราะมูลค่าของรถจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรก ๆ ของการใช้งาน ในขณะที่ยอดเงินผ่อนชำระจะค่อย ๆ ลดลงตามงวดการผ่อนชำระ หากเราต้องการขายรถออกไปก่อนที่จะผ่อนชำระครบกำหนด มูลค่าขายของรถก็อาจต่ำกว่ายอดเงินค้างชำระที่เหลืออยู่ ทำให้เกิดหนี้ส่วนต่างขึ้น ซึ่งหลายคนมักจะเกิดปัญหาจากหนี้ส่วนนี้ ไปจนอาจถึงขั้นฟ้องร้อง วันนี้เราจะพามาดูกันว่าถ้าหากโดนคดี หนี้ส่วนต่างรถยนต์ อายุความกี่ปี ต้องทำยังไงบ้าง?
หนี้ส่วนต่างรถยนต์ คืออะไร
หนี้ส่วนต่างรถยนต์ หรือที่เรียกว่า Negative Equity หมายถึง สถานการณ์ที่มูลค่าตลาดของรถยนต์ที่ซื้อมาด้วยระบบผ่อนชำระนั้น มีราคาต่ำกว่ายอดเงินที่ยังค้างชำระกับผู้ให้สินเชื่อ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
กล่าวคือ เมื่อผู้ซื้อต้องการขายรถยนต์คันนั้นออกไป แต่เงินที่ได้รับจากการขายรถยนต์นั้นมีมูลค่าต่ำกว่ายอดเงินที่ยังต้องจ่ายคืนให้กับผู้ให้สินเชื่ออยู่ ส่วนต่างของยอดเงินที่ต้องจ่ายชำระเพิ่มเติมจึงเรียกว่า “หนี้ส่วนต่าง” นั่นเอง
หนี้ส่วนต่างมักเกิดขึ้นกับการซื้อขายรถยนต์มือสอง เนื่องจากมูลค่ารถจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรกๆ ของการใช้งาน แต่ยอดเงินผ่อนชำระจะค่อยๆ ลดลงตามงวดการผ่อน หากผู้ซื้อต้องการขายรถก่อนผ่อนจนครบกำหนด อาจพบว่ามูลค่ารถนั้นต่ำกว่าหนี้ที่ค้างชำระ ส่งผลให้เกิดหนี้ส่วนต่าง
ตัวอย่าง นาย ก. ซื้อรถยนต์มือสองราคา 500,000 บาท ดาวน์ 100,000 บาท ผ่อนชำระรวม 5 ปี เมื่อผ่อนมา 2 ปี มูลค่ารถเหลือ 300,000 บาท แต่ยอดหนี้ค้างอีก 350,000 บาท ถ้านาย ก.ขายรถคันนี้ จะเกิดหนี้ส่วนต่าง 50,000 บาท ที่ต้องจ่ายเพิ่มให้เจ้าหนี้
การเกิดหนี้ส่วนต่างทำให้ผู้ซื้อรถมีตัวเลือกจะจ่ายส่วนต่างให้หมดเพื่อปิดบัญชี หรือไม่จ่ายซึ่งจะถือเป็นหนี้ที่มีอายุความตามกฎหมาย ดังนั้นการรู้อายุความของหนี้ส่วนต่างนี้จะช่วยให้วางแผนจัดการได้เหมาะสม
หนี้ส่วนต่างรถยนต์ อายุความกี่ปี
- จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเจ้าหนี้เพื่อปิดบัญชีการผ่อนชำระ
- ไม่จ่ายชำระ ซึ่งหนี้ส่วนต่างนั้นจะถือเป็นหนี้ประเภทหนึ่งที่จะมีอายุความตามกฎหมาย กรณีที่ไม่จ่ายชำระหนี้ส่วนต่าง ข้อสำคัญอยู่ที่การทราบถึงอายุความของหนี้ประเภทนี้ เพื่อจะได้วางแผนหรือเตรียมรับมือที่เหมาะสม โดยทั่วไปอายุความของหนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หลักดังนี้
2.1 อายุความทั่วไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 ซึ่งกำหนดให้อายุความสำหรับการฟ้องร้องเรียกให้ชำระหนี้ทุกประเภท มีกำหนด 10 ปี นับแต่วันผิดนัดชำระหนี้
2.2 อายุความของหนี้เฉพาะประเภท โดยกฎหมายได้กำหนดอายุความไว้เป็นกรณีพิเศษ แตกต่างจากข้อกำหนดทั่วไป เช่น หนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน มีอายุความ 5 ปี (ม.193/22) หนี้ตามสัญญาค้ำประกัน มีอายุความ 5 ปี (ม.193/23) หนี้ตามคำพิพากษา มีอายุความ 10 ปี (ม.193/28)
สำหรับกรณีของ หนี้ส่วนต่างรถยนต์ ที่เกิดจากสัญญาผ่อนชำระรถยนต์กับสถาบันการเงิน หรือบริษัทให้สินเชื่อรายใหญ่ จัดเป็นหนี้ประเภท “หนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน” ดังนั้นหากเลือกที่จะไม่จ่ายชำระหนี้ส่วนต่างดังกล่าว หนี้ชนิดนี้จะมีอายุความ 5 ปี นับแต่วันที่ผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม การนับระยะเวลาอายุความนี้ก็ต้องไม่มีการยอมรับหนี้หรือผิดนัดชำระหนี้รายใหม่ หากมีการกระทำเช่นนั้นจะทำให้อายุความของหนี้นั้นเริ่มนับใหม่อีกครั้งตั้งแต่วันที่ยอมรับหนี้หรือผิดนัดครั้งล่าสุด นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่า
วิธีจัดการหนี้ส่วนต่างรถยนต์
- เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนผันหรือปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขอลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อลดภาระการผ่อนชำระ จนกระทั่งสามารถชำระหนี้ส่วนต่างได้
- หากไม่สามารถเจรจาได้ ให้พิจารณาขายรถเพื่อปิดบัญชีกับเจ้าหนี้ แม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นหนี้ส่วนต่าง แต่ก็จะได้หลุดพ้นจากภาระหนี้ไปโดยสิ้นเชิง
- กรณีไม่มีเงินจ่ายหนี้ส่วนต่าง ให้เลือกวิธีไม่ชำระและรอจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความ แต่ต้องรับผลกระทบจากการบาดแผลประวัติเครดิต
- หากมีภาระหนี้อื่นควบคู่มา ควรพิจารณาการขอขึ้นศาลล้มละลายเพื่อปลดหนี้ทั้งหมด
- เตรียมวางแผนทางการเงินให้รัดกุม ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เร่งสะสมเงินออม เพื่อนำมาจ่ายชำระหนี้ส่วนต่าง หรือซื้อรถคันใหม่ในอนาคต
สุดท้ายนี้ ประสบการณ์เรื่องหนี้ส่วนต่างรถยนต์ควรเป็นบทเรียนให้ผู้ซื้อรถมีความระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินความสามารถในการผ่อนชำระก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาเดิมซ้ำรอยอีก และหากจำเป็นต้องซื้อรถราคาสูง อาจเลือกซื้อรถใหม่แทนรถมือสอง เนื่องจากสามารถคำนวณค่างวดผ่อนชำระได้อย่างแม่นยำตามสัญญา ลดความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้ส่วนต่างในอนาคต