ทุกคนต้องกินอาหารเพื่อความอยู่รอดของชีวิต แต่เมื่อสบายขึ้นจนกลายเป็นผู้มีอันจะกิน ก็จะกินมากเกิน สมัยนี้มีอาหารที่ยั่วน้ำลายหลากหลาย แต่งแต้มเติมสี ใส่ถุงกล่องสวยงามน่ากินยิ่งขึ้น จนบางครั้งแม้ฐานะไม่มีจะกิน ก็อดไม่ได้ที่อยากจะได้ลองลิ้มชิมรสอาหารวิเศษแสนแพงกับเขาบ้างสักครั้งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ จนบางครั้งเรื่องการกินก็กลับมาทำลายสุขภาพของเราเอง รวมทั้งสุขภาพทางการเงินของเราด้วย
การกินที่มากเกินทำให้เกิดโทษหลายอย่าง
ยกตัวอย่างด้านการเงิน ถ้าค่าใช้จ่ายด้านการกินของเรา เกินกว่าร้อยละ 40 ของเงินที่เราหาได้ นั่นถือว่ามากเกินไปแล้ว ถือว่าเป็นการกินที่เกินพอดี เพราะการกินมีแต่ทำให้เงินของเราไหลออกไป ถ้าเราไม่สามารถอุดรอยรั่วจากการกินนี้ได้ เท่ากับว่าเราเป็นพวกไม่ฉลาดในการใช้เงิน เพราะเราสามารถอดทนอดกลั้นที่จะไม่กินแบบสุรุ่ยสุร่ายได้ ร่างการเราต้องการอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ส่วนที่กินเกินเข้าไปนั้นไม่มีประโยชน์ สู้เราประหยัดเรื่องการกินแล้วนำเงินที่ประหยัดได้นั้นมาทำอย่างอื่นให้เป็นประโยชน์หรือทำให้เงินนั้นงอกเงยเพิ่มขึ้นจะดีกว่า หรือถ้าไม่รู้จักนำเงินไปต่อยอด ก็เก็บเงินนั้นไว้เฉยๆก็ได้ อย่างน้อยเงินก้อนนี้ที่เราอดเรื่องการกินมาได้ ก็จะไม่ทำร้ายร่างกายให้เจ็บป่วยหรืออ้วนลงพุง
คนหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยทำงาน ยังไม่มีครอบครัวนั้น มีช่องทางให้เงินรั่วไหลไปกับการกินหลายร้อยเรื่อง เช่น วันเกิดเพื่อนก็กิน วันเกิดตัวเองก็กิน เย็นวันศุกร์ก็นัดกันไปดื่มกิน เสาร์และอาทิตย์ไม่ต้องไปทำงานก็หาเรื่องออกนอกบ้านพาเพื่อนฝูงออกไปกิน ชีวิตวนเวียนอยู่กับเรื่องของเฮฮาปาร์ตี้ เงินจึงรั่วไหลไปกับส่วนนี้เสียมาก วิธีแก้คือต้องรู้จักควบคุมตัวเอง รู้จักปฏิเสธเพื่อนบ้าง เปลี่ยนพฤติกรรมการกินเที่ยวมาเป็นศึกษาหาความรู้เรื่องการเงินการลงทุน หรือออกไปท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่ไม่ต้องใช้เงินเรื่องดื่มกินเยอะ ก็จะทำให้มีเหลือเหลือเก็บแน่นอน
สำหรับคนที่มีครอบครัวมีลูกแล้ว ค่าใช้จ่ายเรื่องการกินนับว่าเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมาก สำหรับครอบครัวที่มีหลายปากท้อง แต่ก็ยังคงต้องรักษาสัดส่วนค่าใช้จ่ายเรื่องการกินไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 40 ของจำนวนเงินที่หามาได้ บางครอบครัวมีพ่อแม่ช่วยกันหาก็ไม่ฝืดเคืองมาก แต่บางครอบครัวที่มีคนหาเงินคนเดียวนั้น นับว่าเหนื่อยยากแสนสาหัส ยังไงต้องประหยัดเรื่องการกินไว้ให้มาก เพราะร่างกายต้องการอาหารตามความเหมาะสมของวัย ซึ่งตามท้องตลาดของประเทศไทยนับว่า มีอาหารอุดมสมบูรณ์พอเพียงกับความจำเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว หากขัดสนจริงๆ คนในครอบครัวก็ช่วยกันปลูกพืชผักไว้กินเองได้ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาไว้เก็บไข่ กินเนื้อได้เป็นครั้งคราว ก็จะช่วยลดรายจ่ายด้านการกินไปมาก ถ้าไม่มีสถานที่ และขัดสนจริงๆ ก็ต้องหารายได้เสริม หรืออีกทางหนึ่งเมื่อมีโอกาสก็ไปตามงานบุญหรือโรงทานที่มีอาหารกินฟรีไม่เสียเงิน แต่อยู่ที่ว่าจะกล้าหรือเปล่า ในความเป็นจริง ถ้าไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนและทำแล้วเป็นผลดีกับตนเองและครอบครัว ก็ละวางคำว่าหน้าตา ศักดิ์ศรีไว้ข้างหลังบ้าง เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีของเราเองในอนาคต
อ่านเพิ่มเติม : แก้ปัญหาการใช้เงินเกินตัวด้วยการวางแผนการเงิน
สรุปได้ว่า เรื่องการกิน เป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิตและร่างกายของเราก็จริง แต่ร่างกายของคนเราก็ไม่ได้เรียกร้องอาหารเลิศรส หรือต้องกินพร่ำเพรื่อ ส่วนใหญ่ปัญหาเรื่องการกิน จะเป็นการกินที่มากเกินไป กินเกินความจำเป็น กินเพื่อความบันเทิง ซึ่งทำให้เงินทองของเรารั่วไหลและสูญเปล่า สำหรับคนที่มีรายได้มากพอ ก็ลองลดเรื่องการกินแบบไร้สาระลงแล้วเก็บเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีเงินหรือมีไม่พอกิน ก็ต้องประหยัด อะไรที่ทำเองได้ ปลูกเองได้ เลี้ยงเองได้ ก็ต้องหัดทำไว้บ้าง ไม่ใช่รอแต่ซื้อแต่จ้างคนอื่นเพื่อความสะดวกสบาย และต้องคุมค่าใช้จ่ายเรื่องการกินไว้ไม่ให้เกินร้อย 40 ของจำนวนเงินที่หามาได้ และค่อยๆเก็บออม หมั่นหาความรู้เรื่องการใช้เงินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แล้ววันหนึ่งเราก็จะหลุดพ้นจากความยากจน กลายเป็นคนมั่งมีและร่ำรวยได้