รีไฟแนนซ์รถยนต์จะได้กี่บาท ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
หลายคนที่มีรถยนต์อยู่แล้ว แต่อยากได้เงินก้อนมาใช้ด่วน อาจจะเคยได้ยินเรื่องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าคือการทำอะไร และจะได้เงินมากน้อยแค่ไหน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันดีกว่า ทำไมถึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนมีรถ และ รีไฟแนนซ์รถยนต์จะได้กี่บาท ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การนำรถยนต์ที่เราผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์เดิม ไปขอสินเชื่อใหม่กับสถาบันการเงินอื่น เพื่อปิดยอดหนี้ที่ค้างอยู่กับไฟแนนซ์เดิม แล้วเริ่มผ่อนใหม่กับไฟแนนซ์ใหม่แทน เหตผลหลัก ๆ ที่คนจะมาทำรีไฟแนนซ์มีดังนี้
-
- อยากได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
- ต้องการขยายระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น เพื่อลดภาระค่างวดรายเดือน
- ต้องการเงินก้อนมาใช้ด่วน โดยการกู้เพิ่มจากยอดหนี้เดิมที่เหลืออยู่
รีไฟแนนซ์รถยนต์จะได้กี่บาท
คำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้คือ ถ้าทำรีไฟแนนซ์รถยนต์แล้วจะได้เงินกี่บาท คำตอบคือ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปแล้ว การรีไฟแนนซ์รถยนต์มักจะได้เงินประมาณ 70-80% ของราคาประเมินรถ
ตัวอย่าง: สมมติว่าคุณมีรถยนต์ราคาประเมิน 500,000 บาท และยังมีหนี้ค้างชำระกับไฟแนนซ์เดิมอยู่ 300,000 บาท
ถ้าสถาบันการเงินใหม่ประเมินให้คุณกู้ได้ 80% ของราคาประเมินรถ นั่นคือ 400,000 บาท
เงินที่คุณจะได้รับจริงๆ จะเป็นส่วนต่างระหว่างยอดที่กู้ได้ใหม่ กับยอดหนี้เดิมที่ต้องปิด คือ 400,000 – 300,000 = 100,000 บาท
ปัจจัยที่มีผลต่อวงเงินรีไฟแนนซ์รถยนต์
แต่ละสถาบันการเงินอาจจะมีเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยที่มีผลต่อวงเงินรีไฟแนนซ์รถยนต์มีดังนี้:
-
- อายุรถ รถยิ่งใหม่ โอกาสได้วงเงินสูงก็มีมากกว่า เพราะมูลค่ารถยังสูงอยู่
- ยี่ห้อและรุ่นรถ รถยี่ห้อที่ขายง่าย ราคาตกช้า มักจะได้วงเงินสูงกว่า
- สภาพรถ ถ้ารถสภาพดี ไม่มีอุบัติเหตุหนัก ก็มีโอกาสได้วงเงินสูง
- ประวัติการผ่อนชำระ ถ้าคุณมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ไม่เคยค้างค่างวด ก็อาจจะได้วงเงินที่สูงขึ้น
- รายได้และความสามารถในการผ่อน สถาบันการเงินจะดูด้วยว่าคุณมีรายได้เพียงพอที่จะผ่อนได้ไหม
- นโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน บางที่อาจจะให้วงเงินสูงถึง 90% ของราคาประเมิน ในขณะที่บางที่อาจจะให้แค่ 70%
วิธีเลือกสถาบันการเงินสำหรับรีไฟแนนซ์รถยนต์
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ดูว่าที่ไหนให้ดอกเบี้ยถูกที่สุด
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียม บางที่อาจจะมีดอกเบี้ยถูก แต่ค่าธรรมเนียมแพง ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด
- ดูความยืดหยุ่นของเงื่อนไข เช่น สามารถเลือกระยะเวลาผ่อนได้หลากหลายไหม มีตัวเลือกการชำระเงินที่สะดวกไหม
- พิจารณาวงเงินที่ให้ บางที่อาจให้วงเงินสูงกว่า ทำให้ได้เงินก้อนมาใช้มากกว่า
- ประเมินคุณภาพการบริการ ลองสอบถามข้อมูลดูว่าพนักงานให้บริการดีแค่ไหน ตอบคำถามชัดเจนไหม
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการรีไฟแนนซ์รถยนต์
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานรายได้อื่นๆ
- สำเนาบุ๊คแบงก์ย้อนหลัง 6 เดือน
- คู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- ใบแจ้งยอดหนี้คงเหลือจากไฟแนนซ์เดิม
การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเงินก้อน หรืออยากปรับโครงสร้างหนี้ แต่ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบ คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ดี และเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจ
ถ้าคุณกำลังคิดจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ ลองติดต่อสถาบันการเงินหลายๆ แห่งเพื่อขอใบเสนอราคา แล้วเปรียบเทียบดูว่าที่ไหนให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับคุณ อย่าลืมอ่านเงื่อนไขในสัญญาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์
สรุปโดยทั่วไป การรีไฟแนนซ์รถยนต์จะได้เงินประมาณ 70-80% ของราคาประเมินรถ แต่จำนวนเงินที่จะได้รับจริงๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งอายุรถ สภาพรถ ยี่ห้อรถ ประวัติการผ่อนชำระ และนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน