ปัจจุบันข้าวของมีราคาแพงขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการออมเงิน โดยมีการวางแผนการเงินมากขึ้น ด้วยการหาวิธีต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีเงินเก็บเอาไว้ใช้สำรองในยามที่อาจเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่อยากจะเป็นหนี้เป็นสิน ไม่อยากกู้ยืม ตรงกันข้ามใครๆ ก็อยากจะเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น แม้จะบอกว่ามันเป็นเรื่องไม่ง่ายนักสำหรับการที่จะเป็นเศรษฐีได้ แต่มันก็คงจะไม่ยากจนเกินไป หากคุณมีการวางแผนการเงินให้ดี ส่วนจะได้เป็นเศรษฐีปีไหนนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เก็บมากกว่า แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าสองสิ่งนี้จะทำให้การเงินของคุณเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือพฤติกรรมที่มันดูเหมือนเป็นเส้นบางๆ คาบเกี่ยวกันอยู่ แต่ก็เพราะสองสิ่งนี้ล่ะที่จะช่วยทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีได้ในเวลาเดียวกัน แต่ก็สามารถทำให้คุณกลายเป็นยาจกได้เช่นกันหากใช้มันอย่างไม่ถูกวิธี
ความฟุ่มเฟือยไม่ได้ช่วยให้คุณถูกเรียกว่าเป็นเศรษฐีหรอกนะ
หากสังเกตจริงๆ จะเห็นว่าพวกเศรษฐีส่วนใหญ่ ดูเหมือนเป็นคนขี้เหนียวมากกว่าที่จะ ฟุ้งเฟ้อ หรือฟุ่มเฟือย เกินตัว จริงอยู่เขาเหล่านั้นอาจจะจ่ายของราคาแพง แต่อย่าลืมว่าของสิ่งนั้นจะต้องให้ประโยชน์และคุ้มค่าสมกับราคาที่เขาจ่ายไป ประกอบกับการจ่ายของพวกเศรษฐี เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผิดกับคนที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่กลับใช้ของฟุ่มเฟือยแบบไร้ค่า แทบจะกลายเป็นค่านิยมที่ยังมี่ทีท่าว่าจะหมดไปด้วยซ้ำ การใช้เงินเกินตัว หรือยอมเป็นหนี้ด้วยการผ่อนบัตรนั่นนี่ เพื่อให้ได้สิ่งของมาสำหรับตอบสนองตัณหาของตัวเอง ส่วนหนึ่งอาจจะอยู่ในสังคมที่เขามี แต่คุณอาจไม่มีทำให้เกิดการดิ้นรน และสุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาหนี้สิน คนที่รู้คุณค่าของเงินส่วนใหญ่จะต้องคิดก่อนจ่าย แถมของบางอย่างที่ซื้อมาอาจต่อยอดทำให้เป็นเงินขึ้นมาอีกก็ได้
หาเงินไว้ลงทุน..ไม่ใช่เพื่อใช้จ่าย นิสัยพื้นฐานก่อนจะเป็นเศรษฐีเงินล้าน
บางคนอาจจะไม่มีนิสัย หรือพฤติกรรมของการเก็บเงิน หรือวางแผนเงินเลย แต่นิสัยเหล่านี้สร้างและบ่มเพาะกันได้ บางคนอาจจะแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือนำนิสัยเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้อย่างไม่ยากเย็น ลักษณะนิสัยของการออมและรู้จักใช้เงินให้เป็น เปรียบเสมือนกฎขั้นพื้นฐานที่เศรษฐีส่วนใหญ่ทั่วโลกยึดถือและปฏิบัติ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่าง และจะช่วยให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี่เอง บางคนหาได้เงินมากแต่กลับมีรายจ่ายมาก บางคนทำมาหากินกว่าจะได้เงินมาก็เลือดตาแทบกระเด็น สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องเอามาใช้หนี้สินที่ติดอยู่ แม้หลายคนจะบอกว่าตัวเองขยัน และมุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเงินมากมายหรือร่ำรวยเงินทองเลย เพราะคนที่หาเงินได้มาก ไม่ได้หมายความว่าจะเป็น เศรษฐีสักหน่อย แต่สำหรับคนที่เป็นเศรษฐีเท่าที่เห็นนิสัยที่ค่อนข้างชัดเจน ส่วนใหญ่เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปต่อยอดเพื่อทำการลงทุนอะไรสักอย่าง เป็นการหาเงินไว้เพื่อลงทุน แต่ไม่ใช่เพื่อใช้จ่าย เพราะหลายคนที่ไม่เป็นเศรษฐีสักที ก็เพราะว่าส่วนใหญ่ทำงานหนัก เพื่อชำระหนี้ต่างๆ หรือบำเรอความสุขให้กับชีวิตตัวเองทดแทนสิ่งที่เคยขาดหายไป เวลามีเงินทำให้ใช้เงินอย่างลืมตัว ต่างกับเศรษฐีที่มักตระหนักว่าหากมีการใช้เงินก้อนที่มีอยู่ไปต่อยอด เพื่อทำให้ออกดอกออกผลเพิ่มซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองน่าจะได้ผลดีกว่า คนที่เป็นเศรษฐีเมื่อมีรายได้เข้ามา แทนที่เขาจะโหมค่าใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยแต่ พวกเขากลับนำเงินไปต่อยอดลงทุนเพื่อให้เงินออกดอก
วางแผนการเงินให้พร้อมและดำเนินการทำตามแผนที่วางไว้
การวางแผนการเงิน และทำตามแผน จะทำให้คุณไปสู่จุดหมาย นั่นคือการนำเงินมาลงทุนและสั่งสมความมั่งคั่งไว้ตลอดชีวิต เพราะเศรษฐีเงินล้านที่รวยได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ร่ำรวยเพราะความบังเอิญ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขามีนิสัยและพฤติกรรมที่มีแผนและมีการลงมือปฏิบัติตามแผนมาตลอด ทำให้กลายเป็นแรงผลักดันที่จะช่วยพวกเขาให้เดินไปสู่ประตูความรวย เรื่องสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับมือใหม่หัดลงทุน และอยากเป็นเศรษฐี ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะละเลย นั่นก็คือการทำตามแผนที่วางไว้อย่างกลยุทธ์เบื้องต้นจากการออมเงิน ซึ่งการมีวินัยในแผนลงทุนรวมถึงผู้ลงทุนจากการเลือกการลงทุน โดยใช้กลยุทธ์เฉลี่ยต้นทุน จากการลงทุนเป็นประจำด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆ กันโดยที่ผู้ลงทุนควรมีวินัยและไม่หวั่นไหวไปกับการขึ้นลงของภาวะตลาด ใครก็ตามที่วางแผนทางการเงินให้ตัวเอง แล้วเดินตามแผนส่วนใหญ่มักจะมีแววที่จะเป็นเศรษฐี เพราะการวางแผนการเงิน การลงทุน ซึ่งคุณคิดว่าจะทำโน่นนี่นั่น แต่ขอบอกได้เลยว่าไม่ใช่ทุกคนที่วางแผนแล้วจะปฏิบัติหรือลงมือทำตามแผนได้
ต้องมีการวางแผนทางการเงิน
พวกเศรษฐีมักจะพากันแสวงหาหนทาง เพื่อที่จะสร้างหรือหารายได้ให้ได้มากๆ อย่างต่อเนื่องและไม่มีวันหยุด นิสัยประจำตัว ของบรรดาเศรษฐีคือ ยิ่งร่ำรวยอยู่แล้ว ยิ่งไม่หยุดทำงาน และมักจะสร้างความมั่งคั่ง ด้วยการไม่หยุดนิ่งกับการต่อยอดการลงทุน เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้นและหาช่องทางเพื่อขยับขยายความรวย ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้มักจะสีการให้เงินทำงานช่วยอีกแรง เรียกว่าทำเงินได้ 2 ต่อเลยทีเดียว ยังมีการแสวงหาคำแนะนำเรื่องการลงทุน เพื่อนำไปปฏิบัติและตัด สินใจได้ด้วยตัวเอง เพื่อพยายามสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง ต้องมีความตื่นตัวกับการรับรู้รายได้ในบัญชี และรู้ว่าการไหลเวียนของเงินเข้าออกในบัญชีมีเท่าไร ต้องมีการวางแผนเพื่อให้เข้าใจฐานะการเงินของตนเอง
ต้องรู้ว่ารายรับสม่ำเสมอแค่ไหน มีส่วนเกินกว่ารายจ่ายหรือไม่ มีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งเงินที่ตั้งใจเก็บไว้เพื่อการลงทุนระยะยาวหรือไม่ นอกจากนี้การเป็นผู้กล้ารับความเสี่ยง ต้องลองทำเพื่อเพิ่มความรวยให้ตัวเอง หากไม่ลองเสี่ยงเงินที่มีอยู่จะไม่มีโอกาสงอกเงย แต่ต้องมีการวางกลยุทธ์อย่างดีเผื่อความผิดพลาด แต่ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน การตัดสินใจลงทุนก็ต้องเผื่อใจสำหรับโอกาสที่จะขาดทุนด้วยเช่นกัน คนที่จะเป็นเศรษฐีจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะทำให้ตัดสินใจได้ว่าในสถานการณ์นั้นๆ ควรตัดสินใจอย่างไร