การเป็นเศรษฐีนับได้ว่าเป็นความฝันในวัยเด็กของใครหลายๆคนและมักจะเลือนรางไปตามกาลเวลาและประสบการณ์ ด้วยโลกภายนอกที่ดูโหดร้ายจนทำให้ใครหลายๆคนคิดแค่เพียงว่า ขอแค่มีงานทำให้อยู่รอดไปวันๆก็พอ หรืออาจจะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองก็พอ ถึงแม้ว่าในยุคสมัยนี้นั้น ที่ว่างของการเป็น เศรษฐีเงินล้าน จะมีน้อยเต็มที ด้วยโอกาสต่างๆที่ถูกฉกฉวยไปอย่างง่ายดายสำหรับนักธุรกิจมืออาชีพ ของนักลงลงทุนมือฉมัง แต่อย่างไรก็ตาม ที่ว่างของการเป็นเศรษฐีเงินล้าน ก็ยังคงถูกสำรองไว้ให้คนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่างๆให้กับทุกคนเสมอ เพียงแต่จะเจอรึเปล่าเท่านั้น
การที่เราจะได้ไปอยู่ในที่ว่างของ เศรษฐีเงินล้านนั้น อาจจะต้องศึกษาอะไรหลายๆอย่างและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งนั้น แน่นอนว่าเศรษฐีจำนวนไม่น้อยที่นอนไม่ถึงวันละห้าชั่วโมงในช่วงชีวิตที่ยากลำบาก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยนตาม ในสมัยก่อนคนที่ขยัน คนที่อดทน อดหลับอดนอนถึงจะประสบความสำเร็จ แต่ในยุคสมัยนี้นั้นมีสิ่งต่างๆรอบตัวให้ใช้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้สิ่งเหล่านั้นได้ชำนาญกว่ากัน แน่นอนว่าใครที่ฉลาดกว่า ใช้ได้ชำนาญกว่า รู้จักสิ่งต่างๆที่มากกว่า ก็จะใกล้ที่ว่างของเศรษฐีเงินล้านมากกว่า เรามีเทคนิคแนะนำง่ายๆดังนี้
เลือกสังคมที่เหมาะกับคุณ
เคยสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมเพื่อนของคุณที่ฉลาดๆ มักจะไม่อยู่กับคนที่ฉลาดน้อยกว่าหรือมักชอบที่จะไปอยู่กับคนที่ฉลาดเหมือนกัน ถ้ามองภายนอกอาจจะดูว่าเขาคนนั้นหยิ่ง ไม่คบเพื่อนที่ฉลาดน้อยกว่า แต่ถ้ามองลึกๆแล้ว มันคือการพัฒนาตัวอีกรูปแบบหนึ่ง ถ้าเราเก่งวิชาคณิตศาสตร์เราก็ชอบที่จะทำคณิตศาสตร์ พูดคุยสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ แล้วจะให้พูดเรื่องเหล่านี้กับใครล่ะ ก็แน่นอนก็ต้องพูดกับคนที่ชอบเหมือนๆกัน สังคมที่เราจะเลือกก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราเลือกที่จะอยู่ในสังคมของการพัฒนา สังคมของการเรียนรู้ธุรกิจ รับรองได้เลยว่าใช้เวลาไม่นานที่คุณจะคุยกับพวกเขาอย่างสนุกสนานแน่นอน แต่ถ้าเราไม่ถนัดสังคมธุรกิจแต่เราชอบการทำขนมล่ะ ก็ลองเข้าสังคมนั้นดูสิ ศึกษาข้อมูลต่างๆที่มีพร้อมกับพยายามหาโอกาสให้ตัวเองไปในตัวและในหนึ่งคนก็ไม่ได้จำกัดสังคมที่อยู่นะ ยิ่งอยู่หลายๆสังคมก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับตัวเองที่มากขึ้น ใครจะไปรู้ว่าสังคมที่ชื่นชอบในการเย็บปักถักร้อยจะชวนคุณที่ชื่นชอบการทำอาหารไปทำธุรกิจขนมถักร้อย
มองความแตกต่าง
บางครั้งอะไรที่เราไม่เคยนึกว่าจะมี ก็มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ใครจะไปรู้ว่าโทรศัพท์ปุ่มกดสมัยก่อนที่ยิ่งเล็กยิ่งดูดี จะถูกลบออกไปด้วยโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แน่นอนว่าตอนนั้นไม่มีใครนึกว่าจะเกิดสมาร์ทโฟนขึ้น ทุกคนล้วนคิดแค่ว่าโทรศัพท์เครื่องเล็กๆรุ่นใหม่ จะเล็กไปถึงไหน ในเชิงธุรกิจก็เช่นเดียวกัน บางครั้งการที่คนส่วนใหญ่มัวแต่หมกมุ่นกับสิ่งใดสิ่งในรูปแบบเดิมๆ จนทำให้มองไม่เห็นโอกาสที่จะพัฒนาไปยังรูปแบบใหม่ ลองจินตนาการดูสิ ถ้าคุณสามารถสร้างสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนอีกสิ่งหนึ่งไปตลอดกาล จะเป็นอย่างไร นับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างดีเลยล่ะ
พยายามหาสิ่งที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวัน
เป็นสิ่งที่นักธุรกิจหลายๆคนชอบทำกันอยู่บ่อยครั้ง การสร้างสิ่งต่างๆเพื่อตอบสนองความชอบของสังคม ก็จะทำให้สิ่งนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากเลยล่ะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามด้วยการแข่งขันบางสิ่งบางอย่างที่สูงมาก ถ้าเรายังนึกไม่ออก ลองนึกถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดดูสิ ที่ลดราคาแล้วลดราคาอีก เพิ่มปริมาณแล้วเพิ่มปริมาณอีกเพื่อที่จะเหนือกว่าอีกฝ่าย แต่การแข่งขันนี้ก็แทบจะไม่มีบริษัทไหนถูกยุบเพราะยังไงคนทั่วไปก็ยังคงซื้อไปใช้อยู่เพียงแต่จะเลือกซื้อจากบริษัทไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเราสร้างสิ่งสักสิ่งที่ไม่เหมือนใครแต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้แล้ว ยังไงเราก็อยู่ในที่ว่างสำหรับเศรษฐีเงินล้านแน่นอน
จากที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำให้ตัวเองเป็น เศรษฐีเงินล้าน แต่สิ่งไหนที่ยาก ก็มักจะมาพร้อมกับผลลัพธ์ที่พึงพอใจเช่นกัน มีนักธุรกิจไม่น้อยเลยล่ะที่กว่าจะสู่จุดที่เรียกว่า เศรษฐีเงินล้าน ได้นั้น ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง ผ่านความล้มละลายมานับไม่ถ้วน สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือประสบการณ์ เพราะประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่สอนให้เรารู้ว่าสิ่งไหนที่ควรทำและเมื่อเกิดปัญหาแล้วควรจะแก้ไขอย่างไร
ในหนังสือต่างๆที่บอกเล่าถึงความสำเร็จของเศรษฐีเงินล้านคนอื่นๆนั้น ทำได้อย่างมากคือแนวทางเท่านั้นเอง จะให้เลียนแบบก็คงไม่ใช่สิ่งที่ควรเท่าไหร่ ด้วยปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่เหมือนกันตามยุคตามสมัย ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาก็จะแตกต่างตามยุคตามสมัยด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าอย่างก็ตาม เรายังคงอ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและศึกษาไว้เป็นทางเลือกได้เสมอ การเลือกใช้สื่อให้เกิดประโยชน์เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยนนในยุคนี้
เริ่มต้นการบริหารตัวเองด้วยการเลือกอ่านหนังสือดีดีจาก SE-ED Online >> คลิก <<