ยุคนี้คนมีเงินเยอะ ก็เยอะมากๆจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรดี คนที่มีเงินน้อย ก็มีน้อยนิดจิ๊ดเดียวจริงๆ ช่องว่างระหว่างคนมีกับคนไม่มีนั้นห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็คงไม่สามารถที่จะไปเรียกร้องอะไรมากไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือ การเรียนรู้และไขว่คว้าโอกาส เพื่อที่วันหนึ่งจะได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง
ข้อความข้างต้นนี้ เป็นคำบ่นปนน้อยใจของ เจ๊พิน หญิงแกร่งที่หาเลี้ยงลูก 5 ชีวิตเพียงลำพัง ยังดีที่พอมีความรู้เรื่องซื้อขายที่ดินติดตัวมาบ้าง ทำให้พอมีพอกิน เหลือเงินเก็บบ้าง ไว้เป็นทุนรอนในการซื้อที่เพื่อเก็งกำไรต่อไป เจ๊พินไม่ได้เป็นเซียนอสังหาแต่อย่างใด เพียงแต่เคยศึกษาหาความรู้อย่างจริงจังจากผู้รู้ทานหนึ่ง ที่สอนเคล็ดวิชาให้สำหรับหาเลี้ยงลูกและเลี้ยงตัว เจ๊พินไม่ได้หวงวิชาแต่อย่างใด และพร้อมที่จะแชร์ความรู้นี้เสมอ ด้วยคิดว่า เพราะตนเองเคยได้รับโอกาสจากคนใจดี จึงอยากส่งความรู้และความดีนี้ให้กับคนที่ต้องการเรียนรู้ และนำไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวต่อๆไป เคล็ดลับของเจ๊พินในการเลือกซื้อที่ดินเปล่าเพื่อนำไปเก็งกำไรหรือขายต่อมี 7 ข้อดังนี้
1 ต้องเลือกทำเลที่ดี
เป็นที่ดินที่อยู่ไม่ไกลจากความเจริญมากนัก ประมาณว่า อยู่ในแนวการพัฒนาตามผังเมืองของภาครัฐ ที่ดินตามขอยชานเมืองที่อยู่ในเขตแนวของการพัฒนานี้ มีระยะเวลาในการรอไม่นาน ที่ความเจริญจะไปถึง เรียกว่าอยู่ในเขตแนวที่จ่อจะเจริญในลำดับถัดไป เมื่อซื้อมาแล้วมีโอกาสที่จะปล่อยขายออกไม่ยาก เพราะคนซื้อต่อก็ไม่อยากรอความเจริญนานนักเหมือนกัน
2 ต้องเลือกที่ดินที่มีทางเข้าออก
ถ้าใครสอบตกข้อนี้ เห็นทีจะไม่มีแววเป็นนักค้าที่ดินที่ดี ที่ดินที่ไม่มีทางเข้าออก จะทำอะไรก็ลำบาก ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ ถ้าเลือกได้ เจ๊พินสั่งว่า ห้ามซื้อที่ตาบอดหรือที่ที่ไม่มีทางเข้าออกเด็ดขาด
3 ต้องอยู่ในแนวเสาไฟฟ้า ประปา สายโทรศัพท์
คือมีเครือข่ายช่องทางให้สิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคเข้าถึงได้สะดวก เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟหรือเดินท่อน้ำที่แพงเกินไป
4 สภาพดินอุดมสมบูรณ์
อันนี้เป็นเคล็ดลับที่ไม่ค่อยมีคนใส่ใจ การที่สภาพดินอุดมสมบูรณ์ เป็นการสร้างทางเลือกในการใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างเต็มที่ หากขายไม่ได้จริงๆ ที่ดินพื้นนี้ก็ใช้ทำการเพาะปลูกพืชผลได้ เรียกว่าหาซื้อที่ดินที่สภาพดินดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าไม่มีแผนจะเพาะปลูก ตักหน้าดินขายก็ยังดี
5 ตรวจเช็คเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินให้ถูกต้องครบถ้วน
ถ้าจะให้ดีลองสอบถามชาวบ้านละแวกนั้นดู ซักถามประวัติที่ดินสักเล็กน้อย เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ดี
6 จังหวะเวลาเป็นเรื่องสำคัญ
อย่าไปไล่ซื้อที่ดินที่อยู่ในช่วงกำลังบูม เพราะจะได้ราคาแพงเกินจริง เว้นแต่จะแน่ใจว่า มีคนพร้อมซื้อต่อแล้วเท่านั้น แบบว่าจับมาแล้วปล่อยได้เลย เพราะถ้าซื้อในช่วงบูมสุดขีดแล้วขายไม่ออก ราคาจะตกลงมาก และหาคนซื้อยาก บางครั้งอาจต้องรอถึง 20 ปี หรือมากกว่านั้น โดยไม่แน่ว่า ราคาที่ขายได้จะเท่ากับราคาที่ซื้อมาตอนบูมสุดขีดหรือเปล่า
7 จงเชื่อในสัญชาตญาณ
เจ๊พินบอกเคล็ดลับเด็ดสุดในข้อสุดท้ายว่า ถ้ามีความรู้สึกไม่ค่อยดี มีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง ก็ให้ชะลอเอาไว้ก่อน ถ้าที่ดินผืนนี้ยังไม่ใช่ ก็ไม่ต้องใจร้อน ยังมีที่ดินอีกมากมาย ไม่ต้องรีบรวย แต่ให้รัดกุมไว้ก่อน
เจ๊พินทิ้งท้ายไว้ว่า ต้องรู้ตัวเองว่า เราซื้อที่ดินเพื่อขายต่อ เอากำไรมาเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว อย่าหลงรักในที่ดินผืนใดผืนหนึ่งมากจนเกินไป หากมีจังหวะที่ขายได้ และราคาดีให้รีบขาย และอย่าโลภ เพราะที่ดินไม่ได้ซื้อขายกันง่ายๆเหมือนเล่นขายของ มีโอกาสต้องเข้าทำ รัดกุม และอย่าใจร้อน