เป็นหนี้บัตรเครดิต โดนฟ้องยึดทรัพย์ ต้องทำยังไง?
หนี้บัตรเครดิต ถือเป็นปัญหาใหญ่ทางการเงินของหลายคน เมื่อขาดรายได้ หรือมีเหตุให้ต้องผิดนัดชำระนานเกินไป จนถึงขั้นกลายเป็นหนี้เสีย ถูกธนาคารดำเนินการฟ้องร้อง ในวันนี้เราจะพาไปไขความสงสัยกันว่า เป็นหนี้บัตรเครดิต โดนฟ้องยึดทรัพย์ ต้องทำยังไง? เพื่อเป็นแนวทางการรับมือเบื้องต้น และเพื่อป้องกันตนเองล่วงหน้า
เป็นหนี้บัตรเครดิต โดนฟ้อง เป็นยังไง?
ได้รับหมายศาล
- เจ้าหนี้จะส่งฟ้องต่อศาล และหมายศาลจะถูกส่งถึงผู้กู้ภายในระยะเวลา 7 วันก่อนวันนัดพิจารณาคดี
- ห้ามละเลย ควรไปรับหมาย และเตรียมตัวไปศาลตามนัดอย่างเคร่งครัด
ตรวจสอบยอดหนี้
- เปรียบเทียบยอดฟ้องกับยอดหนี้จริง หากมียอดที่ไม่ถูกต้อง เช่น ค่าธรรมเนียมเกินจริง หรือดอกเบี้ยผิดปกติ สามารถต่อสู้ในศาลได้
ไปศาลตามวันนัด
- ผู้กู้สามารถไปเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ที่ศาลได้ เช่น ขอผ่อนชำระ ขอส่วนลดดอกเบี้ย หรือขอลดหนี้ก้อนบางส่วน
- หากไม่ไปศาลตามนัด ศาลจะตัดสินตามคำฟ้องทันที (แพ้คดีโดยไม่ต่อสู้)
ศาลพิพากษา
- ถ้าแพ้คดี และไม่ชำระตามคำพิพากษา เจ้าหนี้มีสิทธิ์ยื่นขอบังคับคดี เช่น อายัดเงินเดือน ยึดทรัพย์ เช่น บ้าน รถยนต์ หรือเงินในบัญชีธนาคาร
โดนฟ้องคดีหนี้บัตรเครดิต ถูกยึดทรัพย์ ต้องทำยังไง?
1.ตรวจสอบหมายบังคับคดี
หมายบังคับคดีต้องระบุรายละเอียดชัดเจน เช่น ยอดหนี้ ดอกเบี้ย ทรัพย์สินที่จะถูกยึด
2.ขอผ่อนชำระ หรือเจรจา
ยื่นคำร้องขอผ่อนชำระต่อเจ้าหนี้ผ่านเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ บางกรณีเจ้าหนี้ยอมให้ผ่อนโดยไม่ต้องยึดทรัพย์
3.ขอไกล่เกลี่ยประนอมหนี้
ในบางจังหวัดมีโครงการไกล่เกลี่ยหนี้นอกศาล หรือไกล่เกลี่ยก่อนขายทอดตลาดทรัพย์
4.ใช้สิทธิร้องขอคุ้มครองทรัพย์จำเป็น
เช่น บ้านที่มีมูลค่าไม่สูงนักที่ใช้พักอาศัย อาจร้องขอศาลเพื่อขอยกเว้นการยึดได้บางกรณี
ทำอย่างไรไม่ให้โดนยึดทรัพย์
- รีบเจรจาก่อนฟ้อง
หากรู้ตัวว่าผิดนัด ควรติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย หรือขอพักชำระหนี้บางส่วน
- รวบรวมเงินก้อนเพื่อปิดหนี้
การรวมหนี้หรือกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่ามาปิดหนี้บัตรเครดิต อาจช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้
- วางแผนการเงินอย่างเข้มงวด
จัดสรรงบประมาณรายเดือนใหม่ ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และนำเงินส่วนเกินมาชำระหนี้โดยเร็ว
การเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วถูกฟ้องยึดทรัพย์ ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ แต่ต้องมีสติ รีบติดต่อเจ้าหนี้ หรือไปศาลเพื่อเจรจาหาทางออก และที่สำคัญอย่าหนี อย่าปล่อยปละละเลย เพราะการไม่ไปศาลเลย หรือไม่ติดต่อกลับทางธนาคาร อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าที่ควรจะเป็น ยิ่งลงมือแก้ไขเร็วเท่าไหร่ โอกาสรักษาทรัพย์สิน และกลับมามีการเงินที่มั่นคงก็เร็วขึ้นเท่านั้น