หนี้บัตรเครดิต ได้หมายศาล ต้องเตรียมตัวยังไง?
หนี้สินก้อนแรก ๆ ของใครหลายคนก็คงจะหนีไม่พ้นหนี้บัตรเครดิตอย่างแน่นอน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สมัครง่าย ช่วยให้เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม จนในบางครั้งอาจใช้เพลินเกินไป หรืออาจประสบปัญหาทางการเงิน จนทำให้จ่ายไม่ทันรอบ ก็พัฒนากลายเป็นหนี้พอกตามมาได้ และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าหนี้บัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยพุ่งทะยาน ยิ่งทิ้งไว้นาน จ่ายแค่ขั้นต่ำ ก็ยิ่งพอกพูนเรื่อย ๆ จนถึงกรณีที่จ่ายไม่ไหว โอกาสในการถูกฟ้องร้องก็ตามมาเช่นกัน จึงต้องเร่งหาวิธีแก้หนี้โดยด่วน เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่า หนี้บัตรเครดิตได้หมายศาล ต้องเตรียมตัวยังไง และเรื่องอื่น ๆ ที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับการถูกฟ้องคดีหนี้บัตรเครดิต
หนี้บัตรเครดิต ได้หมายศาล ต้องทำยังไง?
ก่อนจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยว่าหนี้บัตรเครดิต ได้หมายศาล ต้องทำยังไง อันดับแรกเราขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจก่อนว่าเราต้องเป็นหนี้มากน้อยแค่ไหน เราถึงจะได้รับหมายศาลจากเจ้าหนี้ ความจริงแล้วคดีความเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตจะนับอายุความตั้งแต่วันแรกที่ลูกหนี้มีการผิดนัดชำระหนี้ จำนวนเงินจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดขั้นต่ำ นั่นคือ 2,000 บาทขึ้นไป
ตัวอย่าง: เราผิดนัดชำระค่าบัตรเครดิตงวดเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 3 มีนาคม เป็นจำนวนเงิน 2,500 บาท เราไม่ได้ชำระเงินตามกำหนดในสัญญา เพียงเท่านี้ เจ้าหนี้อย่างธนาคารก็สามารถยื่นเรื่องฟ้องร้องได้แล้ว แต่โดยปกติแล้วธนาคารก็จะยังไม่ยื่นฟ้องร้องเราจนกว่าจะถึงที่สุด ดังนั้นบางทีเราอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ติดต่อกันหลายเดือนเลยทีเดียว กว่าจะได้หมายศาลมาที่บ้าน เพราะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของธนาคารว่าควรฟ้องหรือไม่ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากความกระตือรือร้นในการแก้ปัญหาของลูกหนี้ด้วย
ช่วงแรกจะมีการโทรติดต่อสอบถามมา หลังจากนั้นก็จะเริ่มส่งจดหมายทวงถามหนี้ อาจมีการใช้บริการเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สิน หรือบางเจ้าก็อาจถึงขั้นส่งหนังสือรับสภาพหนี้มาให้ลูกหนี้ลงชื่อก็มีเช่นกัน ที่ธนาคารไม่ฟ้องเลยในทันทีที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระ เป็นเพราะว่าการฟ้องร้องนั้นมีค่าใช้จ่ายมากมาย แถมยังต้องเสียเวลาอีกต่างหาก
ดังนั้น หากใครที่กำลังประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิตอยู่ เราขอแนะนำว่าให้รีบเจรจากับธนาคาร หรือพยายามหาทางออกให้เร็วที่สุด ก่อนที่ธนาคารจะตัดสินใจยื่นฟ้อง และต้องไปดำเนินเรื่องราวกันต่อบนชั้นศาล ถึงแม้บางคนจะบอกว่าธนาคารสามารถฟ้องร้องได้เฉพาะในระยะเวลา 2 ปีเท่านั้น เพราะหากนานเกินกว่านั้นก็เท่ากับขาดอายุความ แต่เจ้าหนี้ก็ยังคงยื่นฟ้องศาลได้อยู่ดี เพียงแต่โอกาสที่จะถูกยกฟ้องมีมากกว่า กรณีที่ลูกหนี้ยกประเด็นเรื่องการขาดอายุความขึ้นมาสู้ และอาจจะไม่ได้ผลหากลูกหนี้ลงชื่อลงบนหนังสือรับสภาพหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
จะรู้ได้อย่างไรว่าโดนฟ้อง หมายศาลถูกส่งไปที่ไหน
โดยทั่วไป เวลาที่ธนาคารส่งฟ้องศาลจะไม่มีการแจ้งเตือนลูกหนี้ก่อน แต่จะมีการส่งหมายศาลไปตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านของเราเลย ต่อให้เราอยู่ในพื้นที่อื่น แต่เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธว่าไม่เคยเห็น ไม่เคยได้รับหมายศาล ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม เพราะตามกฎหมายแล้วถือว่าลูกหนี้จะได้รับหมายศาลทันทีหลังจากที่เอกสารถูกส่งถึงบ้านแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้านจึงมักจะมีความเสี่ยงถูกฟ้องสูงกว่าคนที่อาศัยอยู่ในบ้านตามทะเบียนบ้านนั่นเอง
ทำอย่างไรหากได้รับหมายศาลหนี้บัตรเครดิต
สำหรับใครที่ได้รับหมายศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากต้องการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ เราสามารถเตรียมทนายเพื่อช่วยพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย และช่วยต่อรองกับธนาคารให้เราสามารถรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้มากที่สุด เพราะปกติแล้ว ศาลจะเสนอให้ลูกหนี้กับเจ้าหนี้เจรจาประนอมหนี้กันก่อน ในกรณีที่การเจรจาประนอมหนี้ไม่สำเร็จ หรือลูกหนี้ไม่ขึ้นศาล ลูกหนี้ต้องการที่จะสู้คดี ลูกหนี้ก็ต้องเตรียมจัดหาทนายที่จะคอยช่วยไกล่เกลี่ย และคอยว่าความให้กับเรา ช่วยรักษาผลประโยชน์ให้เรามากขึ้นกว่าเดิม สามารถช่วยต่อรองกับศาลเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเราก็ได้ ขอแนะนำให้เลือกทนายที่มีความสามารถด้านคดีแพ่งเป็นพิเศษ ส่วนสิ่งที่จะต้องเตรียมตัวในการไปขึ้นศาล จะประกอบไปด้วย เอกสารส่วนบุคคล อย่างบัตรประชาชนตัวจริงของลูกหนี้
หากมีผู้ค้ำประกันก็ต้องเอาบัตรประชาชนตัวจริงของผู้ค้ำไปด้วย หมายศาลที่เราได้รับ หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีที่มีการแต่งตั้งผู้แทน ต่อมาคือเอกสารที่จะแสดงใฤดือน ภาระในการดูแลคนในบ้าน เพราะสามารถใช้ต่อรองในขั้นตอนไกล่เกลี่ยได้ หรือเอกสารยืนยันว่าเราไม่ได้ก่อหนี้ เช่น มีข้อความที่คนอื่นขอยืมบัตรเครดิตเราไปใช้ พร้อมกับจำนวนเงินที่ขอยืมไป เพื่อที่ศาลจะได้ให้ผู้ก่อหนี้ตัวจริงเสียงจริงเข้ามารับผิดชอบกับคดีนี้ด้วยกัน หรือจะเป็นใบแจ้งความว่าบัตรเครดิตของเราถูกขโมยก็ได้เหมือนกัน
หลักฐานการชำระหนี้บางส่วนก็ถือว่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญเหมือนกัน เช่น สลิปโอนเงิน หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่าเราเองก็มีความพยายามที่จะชำระหนี้เช่นกัน และในกรณีที่คดีขาดอายุความ เราขอแนะนำให้เตรียมหลักฐานยืนยันขาดอายุความเลย เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะคดีมากขึ้นกว่าเดิม
หนี้บัตรเครดิต ได้หมายศาล แล้วไม่ไปจะเป็นยังไง?
สำหรับใครที่ได้รับหมายศาลแล้ว แต่ไม่ยอมไปศาล หรือบางคนที่ได้รับหมายศาลแล้ว แต่ไม่รู้ตัวว่าหมายศาลส่งมาถึงบ้าน เนื่องจากตัวเองอาศัยอยู่ในพื้นที่อื่น เท่ากับว่าเราไม่ได้ไปขึ้นศาล ศาลก็ไม่ได้เห็นว่าเราไม่ได้มีเจตนาในการหนีหนี้ จึงมีโอกาสสูงมากที่ผู้พิพากษาจะพิพากษาตามคำฟ้องในหมายศาล โดยอาศัยหลักฐานที่ได้จากเจ้าหนี้เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ลูกหนี้จะไม่ได้รับสิทธิในการต่อรอง หรือแม้แต่ชี้แจงในทันที
แต่ถึงอย่างนั้น ลูกหนี้ก็ยังมีสิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน หลังจากที่มีคำพิพากษา สามารถขอให้เลื่อนการบังคับคดี หรือจะขอให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระเงินใหม่ก็ได้เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญก็คือเราต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ก็มีโอกาสสูงที่เราจะถูกบังคับคดีมากเท่านั้น และเมื่อถูกบังคับคดี ทรัพย์สินมีค่าของเรา เช่น รถยนต์ สังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ ของมีค่า ของแบรนด์เนม จะถูกยึดนำเอาไปขายทอดตลาด เพื่อนำเอาเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้
นอกจากจะถูกยึดทรัพย์สินได้แล้ว เจ้าหนี้ยังสามารถขออายัดเงินเดือน เงินชดเชย และค่าตอบแทนได้อีกต่างหาก โดยเฉพาะกรณีที่เรามีเงินเดือนตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป สามารถถูกอายัดได้ไม่เกิน 30% เลยทีเดียว
สรุปแล้วหนี้บัตรเครดิต ได้หมายศาล ต้องทำยังไง สิ่งที่เราต้องดำเนินการโดยด่วนเลยก็คือการไปเจรจากับเจ้าหนี้ เตรียมตัวไปขึ้นศาลให้พร้อม เอกสารหลักฐานต้องแน่นพอที่จะแสดงให้ศาลเห็นถึงเหตุผลที่เราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา หากเป็นไปได้ เราขอแนะนำว่าให้พยายามจบเรื่องตั้งแต่ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยจะดีที่สุด ยกเว้นว่าฝั่งลูกหนี้จะมั่นใจพอว่าตัวเองจะชนะคดีแน่นอน แต่กรณีที่ลูกหนี้กำลังมีปัญหาทางการเงินอยู่ บางทีการเสี่ยงไปให้ถึงสุดทาง อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสักเท่าไหร่