สภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำทุกวันนี้ ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ รายได้ประจำที่เคยทำอยู่อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับหลายคน ทำให้หลาย ๆ คนกำลังมองหาอาชีพเสริมหรืองานที่สอง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวเองและครอบครัว แต่นอกเหนือไปจากเหตุผลทางการเงินแล้ว ยังมีหลายเหตุผลที่เราควรจะต้องรีบหาอาชีพเสริม หรืองานที่สองให้ตัวเอง
เหตุผลที่ควรจะมีงานที่สอง
1.เพื่อเพิ่มทักษะความรู้และความสามารถ บางครั้งงานที่สองทำให้เราได้ทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างจากงานประจำที่เราทำอยู่ ทำให้เราได้ทักษะและความรู้เพิ่มเติม ซึ่งทักษะและความรู้เหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้เพื่อส่งเสริมการทำงานประจำให้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
2.เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่ทำงานประจำอาจจะตกงาน หรือเจ้าของธุรกิจอาจจะประสบปัญหาค้าขายไม่ดีแล้วขาดทุนขึ้นมาได้ การมีงานที่สองจะช่วยลดความเสี่ยงที่จากการขาดรายได้จากงานประจำ หรือถ้าหากงานที่สองประสบความสำเร็จ ก็อาจจะกลายมาเป็นอาชีพหลักของเราในอนาคตแทนก็ได้
สำรวจตัวเองก่อนหางานที่สอง
1.ความชอบส่วนตัว ลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่าเรามีความชอบทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ซึ่งจะเป็นความชอบในเรื่องอะไรก็ได้ บางคนชอบทำอาหาร ทำเป็นประจำอยู่แล้วที่บ้าน บางคนชอบอ่านหนังสือ บางคนชอบเล่นคอมพิวเตอร์ หรือบางคนชอบคุยแชทกับคนอื่น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถนำเป็นแนวทางในการเลือกงานที่สองได้ทั้งสิ้น
2.เวลาว่างจากงานประจำ คนที่เป็นพนักงานประจำจะมีเวลาทำงานที่ชัดเจน ทำให้เราสามารถวางแผน หรือเลือกงานที่สองได้ โดยพิจารณาจากเวลาที่ว่างเว้นจากงานประจำ ส่วนคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว อาจจะมีเวลาว่างในแต่ละวันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเราควรจะพิจารณางานที่สองที่ไม่เบียดเบียนเวลาของงานประจำ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียจากการทำงานชนกัน
3.เงินลงทุน ลองสำรวจดูเงินทุนของคุณดูก่อนว่ามีมากน้อยขนาดไหน บางอาชีพไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนเลยสักบาท บางอาชีพอาจจะต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนบางส่วนก่อน แต่ยังไม่แนะนำให้ลงทุนเป็นจำนวนมากจนกว่าจะแน่ใจว่าสามารถสร้างรายได้เป็นรูปธรรม
4.สำรวจตลาด หากต้องการขายของไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือตลาดนัด คุณต้องลองสำรวจดูก่อนว่ามีใครขายสินค้าอะไรบ้าง และหากเราต้องขายสินค้าเราควรจะเลือกลูกค้ากลุ่มไหนดี ให้เลือกขายสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ถ้าในตลาดมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่ จะทำให้เราขายของได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
แนะนำตัวอย่าง 3 งานที่สอง ที่ทำรายได้ดีแต่ไม่ต้องลงทุนมาก
1.ขายของออนไลน์
ถ้าเราเป็นคนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว การขายของออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าหากเรามีสินค้าที่ต้องการขายแล้ว การถ่ายรูปและโพสต์รูปสินค้าสวย ๆ การโฆษณาอย่างต่อเนื่องจะทำให้คนเห็นสินค้าของเราจนเกิดความสนใจสั่งซื้อได้ หรือหากยังไม่รู้จะขายสินค้าอะไร ให้เราลองสมัครตัวแทนขายของสินค้าที่เราสนใจดูก่อน รูปแบบนี้จะมีค่าแรกเข้าเพื่อซื้อสินค้าล็อตแรกก่อน แต่เมื่อเราสมัครไปแล้ว ก็จะมีเจ้าของสินค้ามาช่วยเราในการขายของ ทั้งส่งรูปภาพ รีวิว หรือข้อความมาให้เราเพื่อโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการขายตลอดเวลา งานในส่วนนี้ต้องการเวลาไม่มากในแต่ละวัน แต่จำเป็นต้องโพสต์ขายของอย่างสม่ำเสมอ และขยายฐานลูกค้าในอินเทอร์เน็ตออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งบางคนพูดได้เลยว่าร่ำรวยมาจากการขายของออนไลน์กันเลยทีเดียว
2.ครูสอนพิเศษ
อาชีพสอนพิเศษ เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะในปัจจุบันนี้ผู้ปกครองส่งเสริมให้ลูกเรียนพิเศษเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ หรือเพื่อเติมความรู้จากในห้องเรียน ครูสอนพิเศษ อาจจะตั้งแต่สอนวิชาพื้นฐานทั่วไป เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา หรือแม้กระทั่งสอนว่ายน้ำ ทำขนม ร้องเพลง ดนตรี หรือกีฬาอื่น ๆ เป็นต้น รายได้ส่วนใหญ่ก็จะคิดเป็นชั่วโมง ประมาณ 200-400 บาท/ชั่วโมง ถ้าในหนึ่งเดือนสามารถสอนได้ 20 ชั่วโมง (อาทิตย์ละ 5 ชั่วโมง) ก็สามารถสร้างรายได้ได้ถึง 8,000 บาทต่อเดือนทีเดียว
3.รับแปลงานเอกสาร
เป็นอาชีพเสริมที่ต้องใช้ความรู้ทางด้านภาษาเป็นหลัก จำเป็นต้องมีความชำนาญในการใช้ภาษานั้น ๆ อยู่พอสมควร ภาษาหลัก ๆ ที่มักจะใช้คือภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีภาษาอื่น ๆ ทั้งภาษาจีน ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส เป็นต้น งานแปลเอกสารนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่เอกสารทั่วไป เอกสารราชการ เอกสารเชิงวิชาการ หรือเอกสารงานวิจัยต่าง ๆ ยิ่งเอกสารมีความยาก หรือมีความเฉพาะเจาะจงมากเท่าไหร่ อัตราค่าแปลก็จะยิ่งสูงขึ้นด้วย รายได้จะมีคิดตามหน้ากระดาษ เริ่มตั้งแต่ 100 ไปจนถึง 1,000 บาทต่อหน้า ตามระดับความยากง่าย งานแปลนั้นจะต้องมีความถูกต้อง และส่งงานตามกำหนดเวลาที่แน่นอน ถ้าหากจะเลือกงานทางด้านนี้อาจจะต้องมีการแบ่งเวลาที่ชัดเจน และเลือกงานตามระดับความสามารถของเราด้วย