การ เลือกทำงาน เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิต เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยใหม่ๆ เพื่อหาประสบการณ์ร่วมกับผู้อื่น ได้เรียนรู้การทำงาน วิธีทำงาน ได้ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาจากสถาบันการศึกษา และการทำงานก็ทำให้เรามีเงินเดือน รู้จักการบริหารรายได้ที่เราหามาได้ ด้วยตัวของเราเอง เรียนรู้การใช้ชีวิต แต่เราก็ต้องเลือกงานที่เหมาะกับตัวเราด้วยซึ่งมีงานที่เป็นประเภทใหญ่อยู่ 3 ประเภทให้เลือกนั้นคือ
1. งานราชการ
หน่วยงานที่มีรัฐบาลเป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่ เป็นงานที่ต้องสอบเข้าเป็นส่วนใหญ่ และสอบเข้ายาก เนื่องจากอัตราผู้สมัครต่อตำแหน่งที่เปิดรับมีสูง จึงต้องใช้วิธีสอบคัดเลือก ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อสอบแข่งขันกับผู้อื่นให้ได้ วิชาที่สอบก็แล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละกระทรวง กรม กองต่างๆ คือต้องเลือกวิชาโดยหาข้อมูลว่าตำแหน่งที่เปิดรับนั้นสอบวิชาใดบ้าง แล้วทบทวนเนื้อหาของวิชานั้นให้มากๆ เพื่อที่จะผ่านการทดสอบได้เข้าทำงานที่ต้องการ ก่อนเริ่มงานในตำแหน่ง อาจต้องเข้ารับการศึกษาอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ ต้องเรียนรู้ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เพราะการเป็นข้าราชการจำต้องมีระเบียบวินัยในการทำงาน และการปฏิบัติตัวในสถานที่ราชการ เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ก็จะได้รับเงินเดือนพร้อมทั้งสวัสดิการต่างๆให้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าศึกษาของบุตร บ้านพัก เมื่อเกษียณแล้ว ยังจะได้รับบำเหน็จหรือบำนาญอีกด้วย งานราชการนั้นเป็นงานที่มีความมั่นคงแม้เงินเดือนจะน้อย แต่ก็มีเงินบำนาญเลี้ยงชีพหลังเกษียณไปตลอดชีวิต
2. งานเอกชน
เป็นงานที่เปิดรับสมัครทั่วไปตามสื่อต่างๆ หรือทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ต่างๆ ค้นหาได้ง่าย สามารถฝากประวัติออนไลน์ได้ ทำให้ไม่ต้องสอบข้อเขียนแข่งขันกันแบบสอบเข้ารับราชการ แต่ต้องสอบสัมภาษณ์เพื่อดูความสามารถและบุคคลิกภาพว่าเหมาะสมที่จะเข้าทำงานหรือไม่ ถ้าผ่านการสัมภาษณ์งานก็สามารถนัดวันเริ่มงานได้เลย ไม่ต้องอบรมเหมือนเข้ารับราชการ ในส่วนของรายได้อาจได้รับเงินเดือนมากกว่ารับราชการเป็นเท่าตัว มีค่าเดินทางหรือสวัสดิการอื่นๆแล้วแต่ทางบริษัท โดยสวัสดิการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่ไม่มีเงินบำเหน็จบำนาญ บางบริษัทอาจทำประกันสุขภาพและประกันชีวิตแบบกลุ่มให้หลังผ่านการทดลองงาน ความเจริญก้าวหน้าขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ ไม่มีระเบียบข้อบังคับมากเหมือนระบบราชการ
3. งานส่วนตัวที่เราเป็นเจ้าธุรกิจของเอง
เป็นงานที่ใช้ทุนส่วนตัวของเราเอง บริหารงานเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่ขยายธุรกิจเป็นห้างหุ้นส่วนก็ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฏหมาย หุ้นส่วนอาจจะเป็นเพื่อน หรือบุคคลอื่นที่มาลงทุนร่วมกัน จะจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทก็ได้ตามแต่ทุนของเรา ธุรกิจส่วนตัวนั้นมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่ารับราชการ หรือทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน แต่ก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะขาดทุนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของเราในด้านการทำธุรกิจ ซื่งต้องอาศัยทั้งความรู้ในด้านการบริหาร การเงิน ความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เราทำ ถ้าเป็นธุรกิจที่สืบทอดจากครอบครัวอาจมีมรดกทางความรู้ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เราเริ่มต้นเองอาจต้องใช้กำลังทรัพย์และความทุ่มเทมากกว่า เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน
4. งานรายได้เสริมต่างๆ
นอกจากงานหลักแล้ว การหารายได้เสริมก็สำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณมีเวลาว่างจากงานประจำพอสมควร การจะปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ อย่างเปล่าประโยชน์คงจะเป็นเรื่องที่สูญเปล่า เพราะฉะนั้นเรามาหารายได้เสริมให้กับตนเองกันดีกว่า คุณสามารถเลือกอาชีพเสริมที่ตนเองถนัดเพื่อหารายได้เสริมได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายของทางอินเทอร์เน็ต การเย็บปักถักร้อย ทำงานฝีมือ หรืองานอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีรูปแบบให้เลือกมากพอสมควรเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้การจะเลือกทำงานใดนั้นก็ควรดูที่ความคุ้มค่าและความถนัดของเราเป็นหลัก