ยุคนี้การมีรายได้ทางเดียวถือว่ามีความเสี่ยง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของความนิยมทำอาชีพเสริม หรือไม่ก็รับงานฟรีแลนซ์นอกเวลาทำงานประจำกันมากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ทำงานประจำที่มีวันและเวลาทำงานที่แน่นอน เวลาที่เหลืออยู่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้ได้ด้วยการเป็นฟรีแลนซ์นั่นเอง
งานฟรีแลนซ์ที่จะเลือกเป็นอาชีพเสริมจะเป็นงานอะไรก็คงต้องหันกลับไปดูว่าเราถนัดหรือชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ต้องค่อย ๆ เริ่มหากันไป คงไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าต้องลองทำด้วยตัวเอง ค่อย ๆ หากันไปอย่าเพิ่งท้อถอยแล้วสุดท้ายเราจะเจอสิ่งที่ชอบ ใช่ และทำเงินให้กับเราได้ด้วย
หลายคนยังไม่ทันได้ลองทำก็บ่นก่อนแล้วว่า ไม่มีเวลาหรอก ลำพังงานประจำก็เล่นเอาเหนื่อยกินเวลาไปหมดแล้ว คงไม่มีเวลาจะไปทำอะไรอื่นได้อีก อยากจะบอกว่ามีคนไม่น้อยทำหันมาทำงานอิสระแบบฟรีแลนซ์เป็นอาชีพที่สองหรือสามควบคู่ไปกับการทำงานประจำด้วย สิ่งที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นทำได้ก็คือเรื่องการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง ดังนั้นคนที่บอกว่าไม่มีเวลา ต้องลองอ่านบทความนี้ดูสักหน่อยค่ะ อ่านแล้วถ้าลองมานั่งคิดดูดี ๆ เราอาจทำเหมือนคนอื่น ๆ ก็ได้ ขอแค่มีการปรับเปลี่ยนอะไรในชีวิตบ้างก็เท่านั้น
- จัดลำดับความสำคัญของงาน การทำงานหลายอย่างให้เสร็จได้ทันตามกำหนดนั้น สิ่งสำคัญคือการจัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละงาน งานไหนสำคัญก็ต้องทุ่มเทเวลามากหน่อย งานไหนต้องเสร็จส่งก่อนก็ต้องทำก่อน จดลิสต์ไม่พอยังต้องวางแผนกำหนดเป้าหมายแต่ละงานด้วยว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่ ต้องใช้เวลาแค่ไหนในการทำ การจัดลำดับความสำคัญของงานมีส่วนช่วยทำให้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- งานประจำให้จบที่ทำงาน ปกติเวลาที่เราทำงานอย่างเดียว บางครั้งแม้ว่าล่วงเลยเวลางานไปแล้ว เราก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ หรือไม่ก็ยังมาคิดงานต่อที่บ้าน สำหรับฟรีแลนซ์ที่ยังต้องการทำงานประจำไปด้วยนั้น อาจต้องกำหนดฟันธงไปเลยว่างานประจำขอให้จบในเวลาไม่มีต่อ ถ้าต้องต่อก็ให้เป็นวันพรุ่งนี้ หลังเลิกงานจะเป็นเวลาของงานฟรีแลนซ์ที่รับมาเท่านั้น ใช้หลักการเดียวกับเรื่องแยกงานกับครอบครัวค่ะ แต่นี่เป็นแยกงานประจำกับงานฟรีแลนซ์ก็คืองานประจำไม่เอาเข้าบ้าน
- ใช้เวลาในที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ลดการเม้าท์มอยในที่ทำงานลง ใช้เวลาพักกลางวันอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ว่าพักนานนั่งรถไปทานข้าวไกล พอกลับมาทำงานช้า ตอนเย็นจะกลับไวก็เกรงใจเจ้านาย ต้องนั่งทำงานอยู่ต่อให้อีกชั่วโมง แทนที่จะได้กลับไปทำงานอะไรของเราเองบ้างก็อด หรือตอนเช้าไปถึงที่ทำงานสายทุกวัน จะกลับเร็วก็เกรงใจเจ้านายอีก ให้ตื่นแต่เช้าไปทำงานให้ตรงเวลา ถึงเวลาเลิกงานลุกเดินกลับบ้านก็ไม่ต้องเกรงใจใคร
- ไม่รับงานเกินกำลัง เวลาของเราก็มีวันละ 24 ชั่วโมงเท่านั้น การทำงานประจำควบฟรีแลนซ์ไม่ได้แปลว่าเราจะมีชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นการรับงานควรให้พอเหมาะพอดี ไม่เกินกำลังที่เราทำได้ ไม่ใช่โหมรับงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตื่นไม่ไหวหรือป่วย มีผลกระทบกับงานประจำ แบบนี้ก็ไม่ดี และยังอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย ถ้าอดหลับอดนอนหรือต้องเครียดจนเกินไป
- รับงานที่ถนัดและชอบ สำหรับงานฟรีแลนซ์ที่จะเข้ามามีบทบาทในการเป็นอาชีพเสริมนั้น ควรเป็นงานที่เราชอบและถนัดด้วย เพราะเมื่อต้องทำเราจะรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้ทำงานอยู่ แต่เป็นการพักผ่อนหรือเป็นงานอดิเรก ก็จะไม่เหนื่อย บางคนที่ทำงานประจำไม่มีงานอื่นก็นอนดึก ๆ ดื่น ๆ ดูซีรีย์เกาหลีกันอยู่แล้ว แบ่งเวลามาทำอะไร ๆ ที่ชอบแล้วได้เงินด้วยก็ดีกว่า
- Outsource งานบ้าน งานบ้านถ้ามันจะมากินเวลาส่วนหนึ่งใน 24 ชั่วโมงทำให้มีผลกับการทำงานประจำควบฟรีแลนซ์ของเรา ก็ให้ outsource ให้คนอื่นทำค่ะ พวกงานทำความสะอาดบ้านหรือซักรีดนี้ ถ้าคำนวณดูแล้วรายได้ที่เพิ่มจากงานฟรีแลนซ์คุ้มก็เอาให้คนอื่นทำ เราเอาเวลามาทำงานที่เราชอบและได้เงินมากกว่าด้วยน่าจะดีกว่าค่ะ
- เวลาเดินทางไป–กลับที่ทำงานใช้ให้คุ้ม ไม่ว่าจะขับรถเองหรือใช้รถสาธารณะ ใช้เวลาให้คุ้มค่า จะเป็นการอ่านข้อมูลเพื่อเตรียมทำงานประจำจะได้เสร็จเร็วขึ้น หรือจะเป็นการอ่านข้อมูล วางแผนงานฟรีแลนซ์ นัดหมาย ตอบอีเมลหรือไลน์ ก็ให้ใช้เวลาช่วงเดินทางนี้ทำไปด้วย จะได้ไม่ต้องรอไปถึงที่ทำงาน เหมือนได้เริ่มงานไปก่อน เอาให้คุ้มค่าทุกนาที
- ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย การใช้เทคโนโลยีช่วยจะทำให้บริหารจัดการเวลาและงานในแต่ละวันได้ดีขึ้น ลงทุนกับสมาร์ทโฟนดี ๆ สักเครื่องที่มีความจุเยอะหน่อย จะได้เลือกลงแอพที่มีประโยชน์กับเรื่องงานได้ เลือกจัดแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ใช้สมาร์ทโฟนได้แม้อยู่นอกสถานที่ เช่น ขณะเดินทางไป-กลับจากบ้านและที่ทำงาน หรือนอกสถานที่อื่น ๆ เพราะบางครั้งเราจำเป็นต้องรับหรือส่งงานทางอีเมล หรือนัดหมายพูดคุยกับผู้ว่าจ้างทางไลน์
ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถถ้าเราจะทำ การเป็นฟรีแลนซ์ควบคู่กับการทำงานประจำไปด้วยก็ใช่ ไม่ใช่ว่าจะต้องลาออกมาเสมอไป ลองทบทวนให้ดีเพราะถ้าเราทำคู่กันไปได้ ก็หมายถึงเรามีรายได้หลายทาง ทั้งมั่นคงและหลากหลายก็ย่อมดีกว่า จริงไหมคะ